คุณสมบัติการใช้งาน
realme C35 มาพร้อม realme UI R Edition บนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android 11 ซึ่งเป็น UI ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
หน้าจอมีให้เลือกใช้งาน Dark theme ที่จะปรับพื้นหลังเมนูต่างๆ เป็นสีดำ ช่วยถนอมสายตา และช่วยประหยัดพลังงานด้วย พร้อมปรับความละเอียดอัตโนมัติเวลาเล่มเกมเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ และลดความร้อนส่วนเกิน และสามารถตั้งค่าความต่างของแสงได้ทั้งแบบสดใส และแบบนุ่มนวล รวมถึงสีที่มีให้เลือก 3 แบบคือ มาตรฐาน อบอุ่ม และเย็น
เมื่อใช้นิ้วแตะที่ด้านบนแล้วลากลงมาจะพบกับไอคอนการเปิดปิดการเชื่อมต่อต่างๆ ทั้งการใช้งานอินเทอร์เน็ต, Bluetooth , การหมุนหน้าจออัตโนมัติ, โหมดประหยัดพลังงาน เป็นต้น รวมถึงมี Notification Center แถบการแจ้งเตือนต่างๆ และสามารถเลือกไอคอนอื่นที่ใช้งานบ่อยๆ มาสลับเปลี่ยนได้อีกด้วย
เลือกปรับแต่งได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอได้โดยกดค้างที่ตรงกลางของหน้าจอ
รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับเครือข่าย 4G LTE with VoLTE และรองรับการใช้ 4G/3G ทั้ง 2 ซิม
รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้
รวมทั้งรองรับการปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือ โดยตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะฝังบนปุ่มเปิดปิดเครื่องด้านขวาข้างเครื่อง โดยนอกจากปลดล็อคหน้าจอแล้วยังสามารถตั้งค่าปลดล็อคแอป และที่เก็บข้อมูลส่วนตัวได้
ประสิทธิภาพ
realme C35 ใช้ชิปเซ็ท Unisoc T616 บนสถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 12nm แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.0GHz พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ARM Mali-G57 โดยใช้หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB/128GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB
ผลทดสอบประสิทธิภาพ realme C35 บนแอป AnTuTu
ผลทดสอบประสิทธิภาพ realme C35 บนแอป GeekBench
สำหรับเซ็นเซอร์ต่างๆ ให้มาอย่างครบถ้วน ส่วนในด้านการจับสัญญาณ GPS อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ทั้งในแง่ของความเร็วและความแม่นยำ
มัลติมีเดียและความบันเทิง
realme C35 มาพร้อม Music Player ที่มีความสามารถครบเครื่อง เรียกว่าไม่แตกต่างจากแอป Music Player ยอดนิยมทั่ว ๆ ไป เช่นการเล่นสุ่ม/เล่นซ้ำ การสร้างเพลย์ลิสต์ ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าเป็นต้น แต่สิ่งที่มีความโดดเด่นและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้งาน ก็คือระบบเสียง Real Sound ที่ช่วยปรับปรุงให้คุณภาพเสียงนั้นยกระดับขึ้นไปอีกขั้น (ใช้งานได้กับชุดหูฟัง)
สำหรับ Video Player บน realme C35 รองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 1080p60 ได้อย่างสมูทไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น
ทดสอบการเล่นเกม
ในด้านประสิทธิภาพ realme C35 ใช้ชิปเซ็ท Unisoc T616 SoC อันทรงพลัง ซึ่งดีที่สุดในกลุ่มนี้ ผสานกับหน่วยประมวลผลกราฟิก ARM Mali-G57 และหน่วยความจำ RAM 4GB ทำให้ตอบสนองต่อการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะเล่นเกมต่อเนื่องยาวนานก็หายห่วง เพราะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 5,000mAh
SlamDunk เลือกตั้งค่า FPS ระดับคมชัดสูง, ความละเอียด ระดับคมชัดสูง และคุณภาพกราฟิก ระดับคมชัดสูง สามารถเล่นได้ แต่จะหน่วง ๆ หน่อย ต้องปรับเป็นค่ากลาง หรือสูง ก็จะพบกับความลื่นไหล ในภาพรวมก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง
ต่อกันด้วย ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา โดย realme C25 สามารถเล่นบนเฟรมเรทสูงได้ แต่อาจจะได้ได้ลื่นมากนัก โดยการเล่นบนเฟรมเรทสูงจะมีอาการสวิงขึ้นลงบ้าง แต่ถ้าเลือกตั้งค่าเกมให้เป็นค่าเริ่มต้น ก็จะสามารถตีป้อมได้ค่อนข้างลื่นเลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยเกม PUBG โดยสามารถปรับตั้งค่ากราฟิกที่ “ระดับ HD” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับสูง ซึ่งในภาพรวมถือว่าทำผลงานได้น่าประทับใจ เพราะแทบไม่พบอาการแลคให้หงุดหงิดใจ