คุณสมบัติการใช้งาน
realme 9i 5G รันบนระบบปฎิบัติการ Android 12 ที่ราบรื่น ครอบทับด้วย realme UI 3.0 มาพร้อมกับไอคอน 3 มิติที่ออกแบบใหม่ Fluid Space และอิโมจิ รวมถึงฟังก์ชันความเป็นส่วนตัวที่ได้รับการปรับปรุง เช่น การควบคุมการอนุญาตแอป และการซ่อนตำแหน่ง
รองรับการปรับแต่งหน้าจอเปลี่ยนภาพพื้นหลังวอลเปเปอร์ ธีม ไอคอน และการตั้งค่าด่วน รวมถึงเลือกสี และขนาดแบบอักษร และขนาดการแสดงผลได้
มาพร้อม Dark Mode หรือโหมดกลางคืน สำหรับปรับสีของหน้า UI ให้อยู่ในโทนสีดำ เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการอ่านหนังสือ และยังทำให้เครื่องใช้พลังงานน้อยลงช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ด้วย โดยเปิดอัตโนมัติในเวลากลางคืน
สามารถเลือกปรับได้ 3 สไตล์ คือ Enhanced (ดำสนิท), Medium (เทาเข้ม) และ Gentle (เทา) ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีคอนทราสต์ที่แตกต่างกันไป สามารถตั้งค่าเป็น Auto ให้ตัวเครื่องทำการวัดแสงโดยรอบจากเซ็นเซอร์ ambient แล้วประมวลผลเลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดตามช่วงเวลานั้น ๆ ให้เอง
พร้อมโหมดสีหน้าจอที่เลือกปรับอุณหภูมิสีหน้าจอได้ทั้งโทนเย็น และโทนอุ่น เพื่อลดรังสีแสงสีฟ้า เพื่อป้องกันอาการปวดตา รวมถึงมีโหมดถนอมสายตา และสามารถตั้งเวลา เปิด-ปิด อัตโนมัติ และมี O1 ULTRA VISION ENGINE ซึ่งเป็นการปรับสีของวิดีโอให้สดใสมากยิ่งขึ้น
รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้
realme 9i 5G สามารถสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง ซึ่งรวมปุ่มเปิดปิด และโมดูลการจดจำลายนิ้วมือเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด ด้วยระบบจดจำแบบ capacitive ทำให้กดเพียงครั้งเดียวก็สามารถปลดล็อคโทรศัพท์ได้ทันที และยังให้ความปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย
รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับ 5G Dual แบบสแตนบายด์ รองรับ SA/NSA ที่เร็วแรงและลื่นไหล โดยรองรับคลื่นความถี่ n1/n5/n8/n28/n41/n77/n78
มาพร้อมแอป Phone Manager เครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่องโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น การเคลียร์ไฟล์แคช (Cache File), การสแกนไวรัส, การอนุญาตสำหรับความเป็นส่วนตัว, การจัดการแอป, แบตเตอรี่ และปิดกั้นและกรองสายหรือข้อความที่ต้องการระงับ ซึ่งจะช่วยให้ตัวเครื่องมีความปลอดภัย และใช้งานได้รวดเร็วอยู่ตลอดเวลา
มีฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน รวมทั้งรองรับแอปโคลน ผู้ใช้สามารถโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line นั้นหมายว่าความว่าผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Line ได้ พร้อมๆ กัน ถึง 2 บัญชี
รองรับระบบเสียง Real Sound ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง realme และ Dirac Research AB เพื่อประสบการณ์การฟังที่เหนือชั้น โดยเฉพาะการฟังเพลง หรือชมภาพยนตร์ที่จะได้อรรถรสเพิ่มขึ้น
ประสิทธิภาพ
ทดสอบการเล่นเกม
ในด้านประสิทธิภาพ realme 9i ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 680 จาก Qualcomm กับเทคโนโลยีการผลิตขนาด 6 นาโนเมตรที่ใช้พลังงานต่ำ ซึ่งเมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ Snapdragon 662 รุ่นล่าสุดแล้ว Snapdragon 680 มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 25% สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้ราบรื่นกว่า ทั้งการเปิดใช้งาน การดาวน์โหลดเร็วขึ้น
รวมทั้งประสิทธิภาพของ GPU เพิ่มขึ้น 10% อีกทั้งอัตราเฟรมเรทที่สูงขึ้นด้วยเรียกได้ว่าจะช่วยมอบประสบการณ์การเล่นเกมให้ไหลลื่นยิ่งขึ้น
ทดสอบกับ Asphalt 9 เกมแข่งรถสุดฮิต เลือกปรับกราฟิกคุณภาพสูง ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 680 บวกกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610 อันทรงพลัง และจอรีเฟรชเรท 90Hz ทำให้สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล โดยภาพรวมก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว
ขณะที่ PUBG Mobile เกมแบทเทิลรอยัล โดยปรับตั้งค่ากราฟิกที่ “ระดับสมดุล” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับกลาง ซึ่งในภาพรวมถือว่าทำผลงานได้น่าประทับใจ เพราะแทบไม่พบอาการแลคให้หงุดหงิดใจ
ปิดท้ายกันด้วย ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา โดย realme 9i สามารถเล่นบนเฟรมเรทสูงได้สบายๆ และถ้าเลือกตั้งค่าเกมให้เป็นค่าเริ่มต้น ก็จะสามารถตีป้อมได้ค่อนข้างลื่นเลยทีเดียว
ทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป AnTuTu
ทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป GeekBench 5