ด้านการถ่ายภาพ
User Interface หรือหน้าเมนูกล้องออกแบบเน้นที่ความเรียบง่ายสะอาดตา การเข้าถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยประกอบไปด้วย การเปิด/ปิดไฟแฟลช, HDR Mode, AI, ฟีลเตอร์, และการตั้งค่าหลักของกล้อง
ทดสอบกล้องหน้า
realme 8 ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX471, รูรับแสง f/2.45 แบบ 5 ชิ้นเลนส์ โดยมีหน้าตา User Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR, การเพิ่มฟีลเตอร์แบบต่างๆ, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และการตั้งค่าอื่นๆ
รองรับ AI beauty พร้อมกับอัลกอริธึมที่ถูกพัฒนาให้เข้ากับ เพศ สีผิวและใบหน้า ช่วยให้ผู้ใช้งานสนุกกับการถ่ายเซลฟี่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังรองรับโหมด HDR และโหมดถ่ายภาพบุคคล มอบประสบการถ่ายภาพที่ดียิ่งขึ้น
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto โดยยังไม่เปิดใช้งาน AI Beauty
เปิดใช้งานโหมด AI Beauty
AI Beauty ด้วยความฉลาดของ AI ที่สามารถสามารถจดจำใบหน้าของบุคคลได้ถึง 296 จุด ซึ่งสามารถเรียนรู้และปรับแต่งภาพเซลฟี่ให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมจำแนก เพศ อายุ และสีผิว เพื่อให้ภาพออกมาเหมาะสมเข้ากับบุคคลและเพศของผู้ใช้งาน
ภาพที่ได้ดูสวยงามขึ้นแบบสัมผัสได้ ทั้งในส่วนของโครงสร้างของใบหน้าและสกินโทนที่ปรับแต่งให้มีความกระจ่างใสในแบบเป็นธรรมชาติ และเข้ากับใบหน้าของแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัว
โดยผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่าบิวตี้ได้ตั้งแต่ 0- 100 ระดับ นอกจากนี้ realme 8 ยังมาพร้อมกับ AI Effect การแต่งภาพ 8 แบบ ที่ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งการเซลฟี่ให้ยืดหยุ่นและตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุด เช่นปรับผิวนวลกระจ่างใส, ปรับโครงสร้างใบหน้า, ปรับให้ดวงตากลมโต, จมูกเรียวโด่ง, คางเรียว โครงสร้างใบหน้าแบบ 3 มิติ เป็นต้น
มาพร้อมฟิลเตอร์ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 15 แบบ ซึ่งช่วยให้การถ่ายเซลฟี่มีความน่าตื่นตาตื่นใจ และยังสามารถแชร์ไปยังโซเชี่ยลต่าง ๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลามาตกแต่งผ่านแอปในภายหลังอีกด้วย
Portrait mode สามารถปรับความเบลอของฉากหลังได้ตั้งแต่ 0- 100 ระดับ
โดยค่าเริ่มต้นจะอยู่ที่ระดับ 60
ผู้ใช้งานสามารถปรับความเบลอของฉากหลังรวมถึงเปิดใช้งาน AI Beauty ได้อีกด้วย ทำให้เราสามารถปรับแต่งการเซลฟี่ของเราได้อย่างยืดหยุ่น ซึ่งจะได้ภาพที่มีการละลายฉากหลังผสานเข้ากับเอฟเฟกต์บิวตี้ได้อย่างลงตัว
ในโหมด portrait จะมีฟีเจอร์ Artistic Portrait สามารถเลือกใช้ฟิลเตอร์ 6 รูปแบบ เพื่อปรับแต่งให้โบเก้และสกินโทนของภาพออกมาดูสวยงามและมีเสน่ห์ เช่นโทนภาพแนวเรโท หรือพาสเทลเป็นต้น
กล้องหน้าของ realme 8 มาพร้อม Night mode ซึ่งช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
Night mode พร้อมเปิดแฟลช จะให้ภาพที่ดูมีมิติ สว่างเป็นธรรมชาติ พร้อมตอบโจทย์การถ่ายเซลฟี่ได้ดีในทุกสภาพแสง
นอกจากจะเด่นในด้านภาพนิ่งแล้ว การบันทึกวีดีโอของกล้องหน้าก็มาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจในหลาย ๆ ด้าน
โหมด Slo-motion 120fps/1080P
รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด Full HD 1080/30 fps
รองรับระบบกันสั่น UIS
บันทึกวีดีโอพร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty
บันทึกวีดีโอพร้อมเปิดใช้งานฟิลเตอร์
ทดสอบกล้องหลัง
realme 8 มาพร้อมกล้องสี่ตัวที่คมชัดเป็นพิเศษ ซึ่งประกอบด้วยกล้องหลัก 64MP มุมกว้างพิเศษ 8MP 119 °และเลนส์มาโครและเลนส์ถ่ายภาพบุคคล B&W ซึ่งเลนส์แต่ละตัวถูกออกแบบมาเพื่อให้ครอบคลุมทุกการถ่ายภาพที่มีความหลากหลาย โดยมีรายละเอียดดังนี้
กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่พิเศษ รูรับแสงกว้าง f / 1.79 และพิกเซลสูงพิเศษ 64MP รองรับ Quad Bayer ขนาดพิกเซลสูงสุด1.4μm แม้ในที่แสงน้อย ภาพก็จะออกมาสว่างมาก
เลนส์มุมกว้าง Ultra wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.25 มุมมองภาพ 119 ° เพียงคลิกเดียวก็สามารถเปลี่ยนไปใช้โหมดมุมกว้างได้ทำให้ผู้ใช้สามารถจับภาพทิวทัศน์สถาปัตยกรรมและกลุ่มขนาดใหญ่ได้อย่างสวยงามยิ่งขึ้น
Macro lens : เลนส์มาโครพิเศษช่วยให้ผู้ใช้เข้าใกล้และค้นพบความสวยงามของโลกขนาดเล็กด้วยระยะถ่ายภาพใกล้สุดถึง 4 ซม.
B&W Portrait lens : ฟิลเตอร์สีใหม่ช่วยให้เลนส์ถ่ายภาพบุคคลสามารถตรวจจับแสงได้กว้างขึ้น ช่วยให้เลนส์หลักจับแสงได้ดีขึ้น
โหมด 64 ล้านพิกเซล
คมชัดจัดเต็ม ด้วยความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล
ซึ่งในโหมด 64 ล้านพิกเซล ไม่ว่าจะซูม หรือจะ Crop ก็ให้คุณภาพที่สามารภนำไปต่อยอดใช้งานได้ยืดหยุ่นคล่องตัว
โหมดปกติ
Ultra wide-angle
Zoom 2x
Zoom 5x
Zoom 10x
realme 8 รองรับการซูมแบบ Optical zoom 2x – 5x และ Digital zoom ได้สูงสุดที่ 10x
ภาพมุมกว้าง (Wide-Angle)
Normal Mode ที่ระยะปรกติ 1x
Ultra-Wide (มุมกว้างพิเศษ)
มาพร้อมฟิลเตอร์ให้เลือกใช้งานถึง 18 รูปแบบ ซึ่งมีฟิลเตอร์ใหม่ Modern Gold, Cyberpunk, Flamingo ที่ช่วยให้ภาพถ่ายดูน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น
Tilt-shift Mode
Tilt-shift Mode : โหมดการถ่ายภาพแบบจำลอง
เปลี่ยนโลกแห่งความจริงให้กลายเป็นโลกขนาดเล็ก โดยปกติแล้วเอฟเฟกต์การเบลอนี้จะเกิดขึ้นได้ด้วยเลนส์ปรับเอียงที่มีราคาแพง ซึ่งทำให้ส่วนของภาพถ่ายชัดเจนและบางส่วนเบลอ โดยสามารถเลือกรูปแบบการเบลอได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน รวมทรงรูปทรงวลกลม โดยสามารถปรับขนาดและเลื่อกตำแหน่งได้ตามความต้องการ
Tilt-shift Mode แนวนอน ให้ความคมชัดที่ตรงกลางภาพ
Tilt-shift Mode แบบวงกลม
Tilt-shift Mode แบบวงกลม
Tilt-shift Mode แนวตั้ง ให้ความคมชัดที่ตรงกลางภาพ
Ultra macro
Macro mode
realme 8 สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ด้วยเลนส์มาโคร ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
Night Mode
โหมดปกติ
Night Mode
โหมดปกติ
Night Mode
สำหรับ Night mode หรือโหมดกลางคืนบน realme 8 จะใช้ความสามารถจาก AI HDR เพื่อทำการลด Noise ลดการสั่นไหว และเพิ่มประสิทธิภาพแบบ low-high และช่วงไดมิกที่กว้างขึ้น เมื่อบวกกับค่ารูรับแสงที่กว้าง f/1.79 จึงทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีความสว่างคมชัด โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องแต่อย่างใด
นอกจากนี้ Night Mode บน realme 8 ยังมาพร้อมฟิลเตอร์อีก 5 รูปแบบ ซึ่งประกอบไปด้วย
Modern Gold
Cyberpunk, Flamingo, Astral, Dazzle
Starry Mode
realme 8 ได้อัพเกรด Strarry mode โดยปรับกระบวนการถ่ายภาพให้เหมาะสม โดยแยกขั้นตอนการเพิ่มความสว่างของดวงดาวออกจากอัลกอริทึมและประมวลผลโดย ISP ใน SoC ช่วยเพิ่มความสว่างและการลดสัญญาณรบกวน
Strarry mode จำเป็นต้องต้องใช้งานร่วมกับขาตั้งกล้อง เพราะจะใช้เวลาในการโพรเซสที่ค่อนข้างนาน (ประมาณ 2-4 นาที ) สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพดวงดาว Strarry mode บน realme 8 สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน