ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์
realme 8 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 บนพื้นฐาน Android 11 ที่มีความสดใหม่ พร้อมให้ใช้งานได้ตั้งแต่แกะกล่อง อีกทั้งยังได้มีการปรับปรุงในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้มากขึ้น โดยได้ปรับปรุงการใช้ทรัพยากรระบบที่ดีขึ้นถึง 45% ซึ่งส่งผลให้ความเร็วของระบบเพิ่มขึ้น 32% และความเสถียรของอัตราเฟรมเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว นอกจากนี้ realme 8 ยังได้ปรับปรุงความเร็วในการเปิดตัวแอปผ่านทาง realme UI 2.0 และ AI ให้เหลือเวลาสั้น ๆ เพียง 23.63% อีกด้วย
และอีกหนึ่งความโดดดเด่นของ realme UI 2.0 ก็คือการใช้งานที่มีความรวดเร็ว ลื่นไหล พร้อมฟีเจอร์การแบ่งปันที่ง่ายดาย ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแบ่งปันภาพถ่าย เพลงโปรดกับเพื่อน ๆ ได้ง่าย ๆ ในปลายนิ้ว และยังมาพร้อมปลอดภัยที่รัดกุม เพื่อมอบประสบการณ์ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง อีกทั้งยังมีตัวเลือกการปรับแต่งได้มากกว่า 100 รายการ ซึ่งพร้อมตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างยืดหยุ่นและเป็นไปอย่างราบลื่น
จุดเด่นที่สำคัญของ realme UI 2.0 อีกหนึ่งอย่าง ก็คือสามารถในการปรับแต่งได้อย่างสร้างสรรค์ ช่วยให้ผู้ใช้งาน สามารถเล่นกับความคิดสร้างสรรค์ของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยรองรับรายการที่ปรับแต่งได้มากกว่า 100 รายการ ประกอบด้วย Global Theme Color, Dark Mode 3 สไตล์ , Icon Customization และคุณสมบัติที่น่าสนใจและมีประโยชน์อีกมากมาย
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนธีม หรือภาพพื้นหลังรวมถึงรูปแบบตัวอักษรได้ตามสไตล์การใช้งาน ซึ่งมีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน โดยเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่แอป realme Theme Store
มาพร้อม Software ที่ปรับแต่งการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็น Dark Mode หรือโหมดกลางคืน สำหรับปรับสีของหน้า UI ให้อยู่ในโทนสีดำ เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการอ่านหนังสือ และยังทำให้เครื่องใช้พลังงานน้อยลงช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ด้วย โดยเลือกสลับการใช้งานได้แบบอัตโนมัติ และยังมีมาพร้อมโหมดถนอมสายตา และปรับอุณหภูมิสีหน้าจอได้ โดยการเพิ่มอุณหภูมิสีเพื่อลดรังสีแสงสีฟ้า เพื่อป้องกันอาการปวดตา รวมถึงมีฟีเจอร์ OSIE Vision Effect ซึ่งเป็นการปรับสีสันของคอนเทนต์ให้สดใสมากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ด้าน Network และการโทรบน realme 8 มีความโดดเด่นด้วยการรองรับเทคโนโลยี Full Netcom 4.0 ทำให้สามารถสามารถจับสัญญาณ 4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รวมไปถึงยังรองรับการโทรผ่าน Wi-Fi และ Dual VoLTE ที่สามารถเปิด VoLTE ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม ทำให้การโทรผ่านสัญญาณที่มีความเร็วสูงบนคลื่น 4G มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบลื่นอีกด้วย
Phone Manager เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่อง ทั้งการลบไฟล์ขยะและไฟล์แคชของระบบ, การจัดการด้านความปลอดภัยความเป็นส่วนตัว, การสแกนไวรัส และการปกป้องด้านการชำระเงินเป็นต้น ซึ่งแอปฯนี้จะช่วยให้การทำงานของตัวเครื่องเต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ มีความรวดเร็วและความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
realme 8 มาพร้อมฟีเจอร์การป้องกันความเป็นส่วนตัว ช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของจะได้รับความปลอดภัยสูงสุด ผู้ใช้งานสามารถซ่อนแอพและไฟล์ส่วนตัว นอกจากนี้ realme UI 2.0 มีระบบป้องกันการชำระเงิน ระบบตรวจสอบสิทธิ์การใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ ผู้ใช้งานจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวในการใช้งานอีกต่อไป
realme 8 มีฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมด Quick gestures หรือเครื่องมืออำนวยความสะดวก ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานมาอย่างยาวนานบนสมาร์ทโฟนของหลาย ๆ แบรนด์ โดยฟีเจอร์เหล่านี้ก็คือการทำงานร่วมกับพวกเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เป็นการอำนวยความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก เช่นการคว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียง, วาดบนหน้าเจอเพื่อเปิดแอปฯ / ควบคุมการคอนโทรล Music Player, การจับภาพหน้าจอด้วย 3 นิ้ว, การรับสายอัตโนมัติเมื่อนำโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูเป็นต้น
Smart Slider สำหรับเรียกใช้งานคีย์ลัด เช่นการจับภาพ / บันทึกหน้าจอ, การเข้าถึงไฟล์, กล้อง, ข้อความและแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผ่านการสไลด์ที่บริเวณขอบด้านข้างของหน้าจอแสดงผล โดยรองรับการใช้งานทั้งในแนวตั้งและแนวนอน อีกทั้งยังสามารถเพิ่มแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่ต้องการเข้ามาเข้ามาอยู่ในแถบ Smart Slider ได้อีกด้วย
รวมถึงสามารถแบ่งหน้าต่างเพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่นไปพร้อม ๆ กัน ได้ง่าย ๆ แค่ลากสาวนิ้วจากล่างขึ้นด้านบนของจอแสดงผล และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คือแอพโคลน ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยม เช่น Line, Facebook หรือ Instagram ได้พร้อม ๆ กัน ถึง 2 แอคเคานท์ในเครื่องเดียว
เปลีั่ยนโทรศัพท์ใหม่ก็ไม่ืต้องกังวลเรื่องข้อมูลสำคัญ ๆ จะสูญหาย เพราะ realme 8 มาพร้อม แอปแ โคลนโทรศัพท์ ที่สามารถโอนถ่ายข้อมูลสำคัญ อย่างรายชื่อ รูปภาพ แอป จากโทรศัพท์เครื่องเก่าไปยังเครื่องใหม่ได้อย่างสะดวกง่ายดาย โดยรองรับทั้งการนำเข้าจากสมาร์ตโฟน realme ด้วยกัน หรือจะเป็นแบรนด์อื่น ๆ ร่วมถึงข้ามแพลต์ฟอร์มอย่าง iOS ก็ไมใ่ปัญหา แถมยังสามารถกุ้คืนการสำรองจากระบบคลาวด์ได้อีกด้วย
ในภาพรวม realme 8 มีการจัดสรรพลังงานได้น่าประทับใจมาก ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปสามารถใช้งานได้ครบวันแบบสบาย ๆ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5000mAh ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน รวมทั้งมีโหมด Super Power Saving ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานบ่อย 6 แอพปลิเคชั่น เพื่อการใช้ได้อย่างต่อเนื่องและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น ส่งผลให้สามารถจัดสรรพลังงานได้อย่างเหมาะสม
ส่วนถ้าใครเน้นเล่นเกมหรือใช้งานหนัก ๆ ตลอดทั้งวัน ก็ไม่ต้องซีเรียส เพราะrealme 8 รองรับชาร์จไวด้วยเทคโนโลยี 30W Dart Charge ไม่ว่าจะถ่ายรูป ฟังเพลงหรือเล่นเกม ก็พร้อมให้คุณใช้งานได้ตลอดเวลา
ประสิทธิภาพ
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Mediatek Helio G95 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.05GHz บนกระบวนการผลิตขนาด 12nm มาพร้อมประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ผสานด้วย RAM 8GB แบบ LPDDR 4x และพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 2.1 ที่ใช้พื้นที่ลดลงถึง แต่ให้ประสิทธิภาพเร็วกว่าเดิม อีกทั้งยั้งตอบโจทย์การเล่นเกมด้วยเทคโนโลยีเกม MediaTek HyperEngine สามารถรองรับแอพลิเคชั่นและเกมระดับกลางถึงหนัก เหมาะสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนและเกมเมอร์ที่มองหาสมาร์ตโฟนระดับกลางที่มาพร้อมความครบครันในราคาจับต้องได้อย่างแท้จริง
สำหรับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ก็ให้มาอย่างครบถ้วน อาทิ Gyroscope, Magnetic, Accelerometer ในส่วนของภาครับสัญญาณ GPS พบว่ามีความเร็วและความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ
มัลติมีเดียและความบันเทิง
Music Player บน realme 8 มาพร้อมความสามารถที่ครบเครื่อง เรียกว่าไม่แตกต่างจากแอป Music Player ยอดนิยมทั่ว ๆ ไป เช่นการเล่นสุ่ม/เล่นซ้ำ การสร้างเพลย์ลิสต์ ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าเป็นต้น นอกจากนี้ realme 8 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี realme Sound และรองรับ Hi-Res Audio Certification จึงมั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์เสียงคุณภาพสูง ที่ช่วยให้การรับชมคอนเทนต์เต็มอิ่มครบทุกอรรถรสอย่างแน่นอน
สำหรับ Video Player บน realme 8 รองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K ได้อย่างสมูทไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น
ทดสอบเล่นเกม
เริ่มต้นกันด้วย Asphalt 9: Legends ที่สามารถตั้งค่ากราฟิคในระดับสูง ในการทดสอบพบว่า เกมเพลย์รวมถึงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ภายในเกม ให้ความรู้สึกถึงความไหลลื่น ไม่พบอาการแลคในขณะเล่มเกมแต่อย่างใด
ต่อกันด้วย ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา โดย realme 8 สามารถเลือกการตั้งค่าภาพ HD ได้ในระดับสูงมาก รวมถึง การแสดงผลในระดับสูง ส่วนการเลือกเล่นบนเฟรมเรทสูงให้ความ stable ในระดับ 59-60fps แบบต่อเนื่อง ในภาพรวมต้องบอกเลยว่า realme 8 สามารถตีป้อมได้ค่อนข้างลื่นมาก ๆ เลยทีเดียว
ปิดท้ายกันด้วย PUBG เกม Tactical-FPS สามมิติเต็มรูปแบบ เบื้องต้นสามารถตั้งค่ากราฟิกที่ระดับ HD และเฟรมเรทระดับสูง ซึ่งในการทดสอบจริง ทั้งการเคลื่อนไหว รวมถึงแอคชั่นต่าง ๆ ภายในเกมนั้นให้ความสมูทลื่นไหลที่ดีมาก ๆ เรียกว่าตอบโจทย์การเล่นเกม FPS ที่เน้นการตอบสนองฉับไวได้อย่างไหลลื่น ไม่พบอาการหน่วงให้หัวร้อนอย่างแน่นอน
นอกจากสเปคจะแรงแล้ว realme 8 ยังมีผู้ช่วยอย่าง Game Space หรือ “การเร่งความเร็วเกม” ที่ช่วย optimization ให้เล่นเกมได้ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมฟังก์ชั่นที่ช่วยจัดการด้านจัดการด้านเครือข่าย เช่นการปฏิเสธสาย จัดการด้านการแจ้งเตือน ล็อคความสว่างเป็นต้น ทำให้การเล่นเกมบน realme 8 นั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สมูทลื่นไหล ไม่มีสะดุดให้หงุดหงิดใจ