คลังเก็บ

รีวิว realme 12 Pro+ 5G I 12+ 5G สมาร์ตโฟนดีไซน์สุดลักซ์ชัวรี พร้อมกล้อง Periscope ระดับเรือธงรุ่นแรกในเซ็กเมนท์

ประสิทธิภาพ

realme 12 Pro+ 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2 ด้วยกระบวนการ 4 นาโนเมตรขั้นสูงของ Samsung มีประสิทธิภาพด้านพลังงานที่โดดเด่น ด้วยสถาปัตยกรรม 8 คอร์ 64 บิต

ซึ่งมี ARM Cortex-A78 4 คอร์ที่ทำงานที่ความเร็ว 2.4 GHz และ ARM Cortex-A55 คอร์ 4 คอร์ที่ 1.95 GHz จึงมอบประสิทธิภาพที่โดดเด่น และหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 710 ทำงานที่ความเร็ว 940MHz ช่วยเพิ่มความสามารถด้านกราฟิกให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพเกณฑ์มาตรฐาน โดย CPU ที่อัปเกรดแล้วให้เอาต์พุตเพิ่มขึ้น 20% โดยเพิ่มขึ้นจาก 170,000 เป็น 210,000 คะแนนในแอป Antutu เปรียบเทียบกับ realme 11 Pro+ 5G

ในทำนองเดียวกัน GPU GFX 1080P Manhattan ES3.0 Offscreen แสดงให้เห็นการปรับปรุงประสิทธิภาพ 9% โดยเพิ่มอัตราเฟรมจาก 67 เป็น 73 ซึ่งเกินความสามารถของ 11 Pro+ 5G

และการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น ด้วยการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 4G แม้ในระหว่างการโทรศัพท์ เทคโนโลยี Dual Carrier Aggregation รองรับผู้ให้บริการ 5G สองรายใน 46 แบนด์กระแสหลักทั่วโลก

ซึ่งขยายไปมากกว่า 150 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก การเร่งความเร็วเครือข่ายสอง ช่องทางช่วยเพิ่มความเร็วและความเสถียรของการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 5G

ส่วน realme 12+ 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 7050 5G กระบวนการขั้นสูง TSMC 6 มม. พร้อมด้วย 8-core 64-บิต

โดยโปรเซสเซอร์ 8-core ประกอบด้วย 2 ARM® Cortex-A78 @2.6GHz และ 6 ARM® Cortex-A55 @2.0GHz ความถี่หลักสามารถรับได้สูงถึง 2.6GHz และยังมีหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G68 ที่ช่วยเสริมความสามารถในการประมวลผลภาพ โดยทำคะแนน AnTuTu ได้มากกว่า 580,000 คะแนน

การเชื่อมต่อรองรับเทคโนโลยี Dual Carrier Aggregation สามารถเข้าถึงได้สูงสุด 2.77Gbps ด้วยคลื่นความถี่หลายย่านที่มีความครอบคลุมกว้าง โดยครอบคลุมกว่า 150 ประเทศ

รวมถึงรองรับการเร่งความเร็วเครือข่ายสองช่องทาง ทั้งความเร็วและความเสถียรของเครือข่ายได้รับการปรับปรุงผ่านการซ้อนทับเครือข่าย WiFi/5G

และ Smart 5G โดยผู้ใช้สามารถสลับระหว่างเครือข่าย 4G/5G ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 30% การสลับเครือข่ายยังเกิดขึ้นในกรณีที่สัญญาณ 5G อ่อนลง เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจในการเชื่อมต่อที่เสถียรยิ่งขึ้นผ่านการใช้งานเครือข่าย 4G

realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G รันบนระบบปฎิบัติการ realme UI 5.0 บนพื้นฐานระบบปฎิบัติการ Android 14 ที่ทรงพลัง และใช้งานง่าย พร้อมฟีเจอร์ใหม่อย่าง

  • File Dock นำเสนอโซลูชั่นอเนกประสงค์สำหรับการจัดการเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้กระบวนการง่ายขึ้นโดยอนุญาตให้ผู้ใช้จดจำและแยกเนื้อหา เช่น ข้อความ รูปภาพ และลิงก์ได้ด้วยคลิกเดียว การแชร์ไฟล์ทุกประเภทกลายเป็นเรื่องง่ายผ่านฟีเจอร์ลากและวาง สิ่งที่ทำให้ File Dock แตกต่างคือ ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาด นอกจากนี้ยังรองรับการจดจำเนื้อหาภายในระบบและอินเทอร์เฟซแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม ทำให้เป็นโซลูชันที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสำหรับความต้องการในการจัดการเนื้อหา
  • Flash Capsule เข้าถึงบริการของบุคคลที่สามยอดนิยมอย่าง Grab, Swiggy และ Zomato ได้อย่างสะดวกจากอุปกรณ์ของคุณ นอกจากนี้ยังรองรับฟังก์ชันที่จำเป็นต่างๆ เช่น ฮอตสปอต การบันทึก การบันทึกหน้าจอมิเรอร์ทีวี การโทร และฮอตสปอต ทั้งหมดนี้สามารถเข้าถึงได้ด้วยสัมผัสเดียว
  • การจัดวางภาพอย่างชาญฉลาด แยกและแบ่งปันวัตถุจากภาพถ่ายของคุณได้อย่างง่ายดาย คุณยังสามารถย้ายช่องเจาะระหว่างแอปต่างๆ ได้โดย การลากและวาง หรือคัดลอกและวาง เหมาะอย่างยิ่งส าหรับการแชร์บนโซเชียลมีเดีย โปรเจ็กต์ DIY และอื่นๆ
  • Phonelink ทำงานร่วมกับ Microsoft LTW (ลิงก์ไปยัง Windows) ได้อย่างราบรื่น ทำให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ง่ายขึ้นด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติม เมื่อโทรศัพท์ของคุณถูกปลดล็อคแล้ว คุณสามารถเชื่อมโยงโทรศัพท์เข้ากับ PC ของคุณได้ทันที ทำให้คุณสามารถจัดการกับสายโทรศัพท์ การแจ้งเตือน และข้อความได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถถ่ายโอนไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายผ่าน ฟังก์ชันการลากและวาง และแม้แต่เข้าถึงแอปมือถือบน PC ของคุณ

ทดสอบการเล่นเกม

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี

โดย realme 12 Pro+ 5G จะลื่นไหลกว่า เพราะด้วยสเปกที่สูงกว่า แต่ realme 12+ 5G ก็มีประสิทธิภาพใข้งานที่ถือว่าใช้ได้เหมือนกัน แทบไม่รู้สึกว่าช้าเลย

ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV เกมแนว MOBA ที่ฮิตต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ตั้งค่า FPS ระดับสูง สำหรับ realme 12 Pro+ 5G ที่ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 7s Gen 2 ที่เร็ว แรง พร้อมมีระบบระบายความร้อน 3D VC Cooling ขนาดใหญ่ ทำให้เล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่สะดุด และเล่นได้นานไม่ต้องกลัวเครื่องร้อน

ส่วน realme 12+ 5G ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Dimensity 7050 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตเกมมิ่งสำหรับสมาร์ตโฟน ทำให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก

ต่อด้วยเกม PUBG Mobile เกมแบทเทิลรอยัล โดย realme 12 Pro+ 5G ปรับตั้งค่ากราฟิกที่ระดับ “HDR HD” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับสูงสุด เล่นได้ลื่นสุด ไม่มีกระตุก ได้กินไก่สบายๆ

ส่วน realme 12+ 5G ปรับตั้งค่ากราฟิกที่ระดับ “HDR HD” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับ Ultra เล่นได้ไม่หน่วง และไหลลื่น แทบไม่พบอาการแลคให้หงุดหงิดใจเลย

realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G ยังมาพร้อมฟีเจอร์ HyperBoost ซึ่งเป็นโหมดเพิ่มประสิทธิภาพ โดยใช้ประสิทธิภาพจากโทรศัพท์สูงสุดเพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น

รวมทั้งมีเครื่องมือสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถเอาชนะคู่แข่ง และไต่ลำดับให้สูงขึ้นได้ สามารถบันทึกภาพหน้าจอ และข้อมูลสถิติในเกมเพื่อตรวจสอบภายหลัง และออกแบบ UI ใหม่ทำให้การจัดการพลังงานง่ายกว่าที่เคย

แบตใหญ่ ชาร์จเร็ว

realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ที่สามารถเปิดโหมดสแตนบานด์ได้นานต่อเนื่องสูงสุด 390.43 ชั่วโมง, คุยโทรศัพท์ได้นานต่อเนื่องสูงสุด 35.03 ชั่วโมง, ดู YouTube ได้ 17.41 ชั่วโมง, เล่นเพลงได้ 72.72 ชั่วโทง และเล่นเกมได้ 6.46 ชั่วโมงสำหรับ Free Fire หรือ 6.84 ชั่วโมงสำหรับการเล่นเกม MLBB

พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว SUPERVOOC 67W สามารถชาร์จถึง 100% ในเวลาเพียง 48 นาที หรือชาร์จถึง 50% ในเวลาเพียง 19 นาที รวมทั้งรองรับเทคโนโลยีปั๊มชาร์จคู่ 2:1 นวัตกรรมใหม่ซึ่งให้ประสิทธิภาพการแปลงสูงถึง 98%

นอกจากนี้ยังลดการสะสมความร้อนโดยรวม และการปรับปรุงเสถียรภาพการชาร์จในระหว่างการชาร์จกำลังสูง 67W อินพุต 10V 3.35A สองช่องจะรวมกันเพื่อจ่ายกระแสไฟสูงที่ 5V 12.2A

อ่านต่อหน้า 5