realme ประเดิมปีมังกรทองกับ realme Number Series ในไทยด้วยสมาร์ตโฟนสเปกท็อปสุดของซีรี่ส์ประกอบด้วย “realme 12 Pro+ 5G” และ “realme 12+ 5G” ซึ่งมาพร้อมสโลแกน “Be a Portrait Master” ยกระดับการถ่ายภาพด้วยกล้องเรือธงเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของสมาร์ตโฟนระดับกลาง
ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมดีไซน์สวยหรูสุดลักซ์ชัวรี ด้วยฝีมือการออกแบบของ Ollivier Savéo (โอลิวิเยร์ ซาเวโอ) ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำของฝรั่งเศสซึ่งเคยฝากผลงานการคอลแลบกับแบรนด์นาฬิกาหรูของสวิส ทั้ง Rolex, Roger Dolby, Piaget, Breitling และ Quentin
โดยทาง MobileOcta ก็ได้เครื่องมารีวิวทั้ง 2 รุ่น เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปชมรีวิวเต็มของ “realme 12 Pro+ 5G” และ “realme 12+ 5G” กันเลยครับ
สเปกเบื้องต้น realme 12 Pro+ 5G
ขนาด | 161.47 x 74.02 x 8.75 มม. |
น้ำหนัก | 196 กรัม |
หน้าจอ | 120Hz Curved Vision Display แบบ OLED 1.07 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz. อัตราตอบสนองหน้าจออัตโนมัติ 2000Hz, ช่วงสี DCI-P3 100%, ความสว่างสูงสุด 950nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, ปรับความสว่าง: 20,000 ระดับ และกระจกป้องกันความแข็งแรงสูง 0.55 มม. |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.40GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7435-AB Snapdragon 7s Gen 2 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 710 |
RAM | 12GB รองรับเทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion สำหรับเพิ่ม RAM เสมือนได้อีกสูงสุด 12GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB |
microSD Card | – |
ระบบปฏิบัติการ | realmu UI 5.0 based on Android 14 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band Bluetooth 5.2, A2DP, LE GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS NFC พอร์ต USB Type-C 2.0 |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX890, เลนส์ 6P, รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.56″, 1.0µm, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น OIS – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OmniVision OV64B, เลนส์ 4P, รูรับแสง f/2.8, 71mm, 1/2.0″, 0.7µm, ระบบ PDAF, ระบบกันสั่น OIS และซูมออปติคอล 3 เท่า – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์ 5P, รูรับแสง f/2.2, 16mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้าง 112 องศา พร้อมโหมด Auto-zoom, Street Photography Mode, Moon Mode, Starry Mode Pro, Super NightScape, Pano, Professional Mode, Portrait Mode, HDR, AI Scene Recognition, AI Beauty, Filters, Text Scanner, Portrait Distortion Correction, One Take, Super Group Portrait กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Sony Selfie Camera เลนส์ 5P, รูรับแสง f/2.4, 22mm (wide) พร้อมโหมด Portrait Mode, Pano, Ultra-wide Angle, AI Beauty Mode, Face Recognition, Filters, Super Nightscape, AI Scene Recognition |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม 5G + 5G Dual Mode (SA/NSA) GSM: 850/900/1800MHz WCDMA: Bands 1/5/8 FDD-LTE: 1/3/5/8/28B TD-LTE: 40/41 5G NR: n1/3/5/8/28B/40/41/77/78 |
แบตเตอรี่ | 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC Charge |
สี | Submarine Blue และ Navigator Beige |
ราคา | RAM 8GB+256GB ราคา 13,999 บาท RAM 12GB+512GB ราคา 16,999 บาท |
สเปกเบื้องต้น realme 12+ 5G
ขนาด | 162.95 x 75.45 x 7.87 มม. |
น้ำหนัก | 190 กรัม |
หน้าจอ | 120Hz Ultra Smooth OLED Display ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล 16.7 ล้านสี ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 92.65% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz, ความสว่างสูงสุด 2000nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, รองรับ HDR10+, รองรับ Rainwater Smart Touch และได้ TÜV Rheinland Low Blue Light Certification |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 7050 (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G68 MC4 |
RAM | 8GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB |
microSD Card | – |
ระบบปฏิบัติการ | realme UI 5.0 based on Android 14 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band Bluetooth 5.2, A2DP, LE GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS NFC IR Blaster ช่องหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB Type-C 2.0 |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-600, เลนส์ 5P, รูรับแสง f/1.88, 26mm (wide), 1/1.95″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์ 5P รูรับแสง f/2.2, 16mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เลนส์ 3P รูรับแสง f/2.4 พร้อมโหมด Night Mode, Photo Mode, Street Shooting Mode, Portrait Mode, High Pixel, Professional Mode, Panoramic View, Macro, Super Text, Super Group Portrait, Tilt-shift , Long Exposure Photo กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล AI Selfie Camera เลนส์ 5P, รูรับแสง f/2.45 พร้อมโหมด Night Mode, Video, Photo Mode, Portrait Mode, Panoramic view |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม 5G + 5G Dual Mode (SA/NSA) GSM: 850/900/1800MHz WCDMA: Bands 1/5/8 LTE FDD: Bands 1/3/5/8/28A LTE TDD:Bands 40/41 5G NR: n1/n3/n5/n8/n28A/n40/n41/n77/n78 |
แบตเตอรี่ | 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC Charge |
สี | Pioneer Green และ Navigator Beige |
ราคา | RAM 8GB+256GB ราคา 9,999 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G เป็นกล่องกระดาษแข็งมาโดยมาในโทนสีเหลือง ด้านหน้ากล่องมาพร้อมชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน
โดยมุมซ้าย (realme 12+ 5G) ติดสติ๊กเกอร์ระบุว่าเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ realme ขณะที่ด้านขวาข้างกล่องก็มีขื่อรุ่นระบุไว้ด้วย
ด้านหลังกล่องจะระบุสเปกเด่น 4 อย่างด้วยกัน เริ่มจาก realme 12 Pro+ 5G มาพร้อมกล้อง Periscope Portrait OIS, กล้องเซ็นเซอร์ Sony IMX890 OIS, ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 7s Gen 2 5G และหน้าจอ 120Hz Curved Vision Display
ส่วน realme 12+ 5G มาพร้อมกล้องเซ็นเซอร์ Sony LYT-600 OIS, ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Dimensity 7050 5G, รองรับชาร์จไว 67W SuperVOOC และแบตเตอรี่ 5,000mAh และหน้าจอ 120Hz Ultra-Smooth AMOLED Display
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- ตัวเครื่อง realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G พร้อมติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC
- สายดาต้าลิงค์แบบ USC Type-C
- เคสพลาสติกใส
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, เอกสารความปลอดภัย และบัตรรับประกัน
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC ที่มีมาให้ในกล่อง realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G
รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ
ดีไซน์สุดลักชูจากการคอลแลบ realme Design Studio x Ollivier Savéo
การออกแบบ realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G เกิดจากความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง realme Design Studios ซึ่งผนึกกำลังกับ Ollivier Savéo (โอลิวิเยร์ ซาเวโอ) ผู้ผลิตนาฬิกาหรูชั้นนำของฝรั่งเศสซึ่งเคยฝากผลงานการคอลแลบกับแบรนด์นาฬิกาหรูของสวิสทั้ง Rolex, Roger Dolby, Piaget, Breitling และ Quentin เพื่อผสานศาสตร์แห่งการออกแบบตัวเรือนนาฬิการะดับมาสเตอร์เข้ากับเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนที่สมบูรณ์แบบที่สุดของวันนี้
โอลิวิเยร์ต้องการให้ 12 Pro+ 5G และ 12+ 5G มอบความสวยงามโดดเด่นเสมือนเป็นเครื่องประดับชิ้นงามในมือคุณ ผ่านการนำเสนอรายละเอียดงานออกแบบที่ซับซ้อนเหนือกว่าสมาร์ตโฟนทั่วไป โดยได้ดีไซน์กรอบของโมดูลกล้องแบบ Golden Fluted Bezel ที่ผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยใช้เครื่องกลึง CNC (Computer Numerical Control) คุณภาพสูง
พร้อมตกแต่งขอบด้วยเส้นโลหะที่เซาะร่องอย่างแม่นยำกว่า 300 เส้น กระบวนการนี้เพื่อสร้างกรอบที่สวยงามดั่งตัวเรือนของนาฬิกาหรูแบบ 360° (ดีไซน์ขอบ Golden Fluted Bezel มีเฉพาะในรุ่น realme 12Pro+ 5G) ในส่วนของแผงหน้าปัดใช้การขัดเงาแบบ Sunburst ที่ขัดเงาแบบวงมากกว่า 500 วง เพื่อสร้างพื้นผิวยูวีไล่ระดับแสงอันน่าหลงใหลและเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ส่งผลให้ส่วนโมดุลกล้องดูเปล่งประกายในทุกองศาการมอง และช่วยขับเน้นจุดเด่นเรื่องกล้องของให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนมากยิ่งขึ้น
พื้นที่ส่วนใหญ่ของฝาหลังถูกหุ้มด้วยหนังวีแกน (Vegan Leather) และเย็บตกแต่งเส้นกึ่งกลางแนวตั้งด้วยตะเข็บแบบ 3D Jubilee Bracelet ซึ่งเป็นการร้อยเรียงรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนต่อเนื่องกัน เพื่อให้ตะเข็บมีรูปลักษณ์แบบเมทัลลิกที่ซับซ้อนสวยงาม และยิ่งมองลึกก็จะยิ่งเห็นถึงรายละเอียด
นอกจากนี้ยังรองรับการกันน้ำระดับ IP65 ซีลกาวพิเศษช่วยปกป้องอุปกรณ์จากฝุ่นน้ำ และสเปรย์ของเหลว ตัววัสดุหนังวีแกนมอบคุณสมบัติความคงทนต่อการใช้งาน ทั้งทนต่อรอยขีดข่วนและสารเคมีต่าง ๆ ได้ดี โดยเฉพาะการทนต่อความร้อน-หนาวได้ดีอย่างทึ่ง เพราะทนทานต่ออุณหภูมิได้ตั้งแต่ระดับต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง -50° ไปจนถึงร้อนสุดขีดที่ถึง 200°C โดยที่ยังไม่เสียหายได้เลยทีเดียว!
นอกจากงานออกแบบโครงสร้างตัวเรือน ยังเปิดตัวโทนสีคลาสสิกรูปแบบใหม่ซึ่งมีแรงบันดาลใจจากอุตสาหกรรมนาฬิการะดับพรีเมียม
โดยรุ่น realme 12Pro+ 5G นำเสนอ 2 โทนสี ได้แก่ Submarine Blue สีน้ำเงินเข้มดั่งท้องทะเลลึก สะท้อนความสง่างามอันเงียบสงบโดยฉายความโดดเด่นได้อย่างแยบยล และสี Navigator Beige สื่อถึงความประณีตอันละเมียดละไม กลมกลืนไปกับแนวตะเข็บสีทองได้อย่างสวยงามลงตัว
และสำหรับรุ่น realme 12+ 5G นำเสนอโทนสี Pioneer Green สีแห่งความสง่างามและความหรูหราแบบเรียบง่ายซึ่งมักพบในหน้าปัดของนาฬิกาหรู และยังยังแฝงกลิ่นอายของการผจญภัยและแมกไม้สีเขียวได้อย่างอ่อนโยน และสี Navigator Beige เช่นเดียวกับรุ่น Pro+
ด้านหน้า realme 12 Pro+ 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขอบโค้ง 120Hz Curved Vision Display มอบประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด โดยเป็นจอ OLED 1.07 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93%
พร้อมอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz. อัตราตอบสนองหน้าจออัตโนมัติ 2000Hz, ช่วงสี DCI-P3 100%, ความสว่างสูงสุด 950nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, ปรับความสว่าง: 20,000 ระดับ, รองรับอัตราการหรี่แสง 2160Hz PWM, รับรองการป้องกันดวงตาโดย TÜV Rheinland และกระจกป้องกันความแข็งแรงสูง 0.55 มม.
ส่วนด้านหน้าของ realme 12+ 5G เป็นหน้าจอแสดงผลจอแบน 120Hz Ultra Smooth OLED Display ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล 16.7 ล้านสี ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 92.65%
โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz, ปรับความสว่างได้ 4,096 ระดับ, ความสว่างสูงสุด 2000nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, รองรับ HDR10+ และได้ TÜV Rheinland Low Blue Light Certification
รวมทั้งมีฟีเจอร์ Sunlight Display ทำงานคล้ายกับสายตามนุษย์โดยการปรับหน้าจอให้เข้ากับสภาพแสงที่แตกต่างกัน สิ่งนี้ท้าให้ทุกพิกเซลปรับตามเวลาจริงตามสภาพแวดล้อมของแสงไม่ว่าจะมืดหรือสว่าง ในขณะเดียวกันก็รักษาความถูกต้องของสีและความสวยงามของภาพไว้ เมื่อดูภาพถ่าย โทนสีโดยรวมของภาพยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
และรองรับ Rainwater Smart Touch เมื่อใช้ข้อมูลการสแกนของหน้าจอ จอแสดงผลจะสามารถระบุได้ว่าหน้าจอหรือบนหน้าจอมีน้ำอยู่หรือไม่ ในกรณีที่ตรวจพบน้้า อัลกอริธึมจะถูกใช้เพื่อรบกวนการตอบสนองของการสัมผัสเพื่อหยุดการสัมผัสที่ไม่คาดคิดเพื่อความแม่นย้าในการป้อนข้อมูลมากขึ้นนับว่าเป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยีนี้ถูกน้ามาใช้
ตรงกลางด้านบนเจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Sony Selfie Camera รูรับแสง f/2.4 (realme 12 Pro+ 5G) และความละเอียด 16 ล้านพิกเซล AI Selfie Camera รูรับแสง f/2.45 (realme 12+ 5G)
พลิกมาด้านหลังเครื่อง realme 12 Pro+ 5G ดีไซน์ขอบโค้ง โดยตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้องเลนส์ 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED และข้อความ 120X CAMERA อยู่ในโมดูลทรงกลมแบบ Golden Fluted Bezel ถัดจากโมดูลกล้องตรงกลางลงมามีการเย็บตกแต่งเส้นกึ่งกลางแนวตั้งด้วยตะเข็บแบบ 3D Jubilee Bracelet และด้านซ้ายล่างมีโลโก้ realme
ส่วนด้านหลังเครื่อง realme 12+ 5G ดีไซน์ขอบเหลี่ยม โดยตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้อง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED และข้อความ OIS CAMERA อยู่ในโมดูลทรงกลมขนาดใหญ่ที่ได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์หน้าปัดนาฬิกา โดยมาพร้อมกับหน้าปัด Sunburst ที่ถูกขัดเงา และแปลงเป็นโมดูลเลนส์ทรงกลม ถัดจากโมดูลกล้องตรงกลางลงมาเย็บตกแต่งเส้นกึ่งกลางแนวตั้งด้วยตะเข็บแบบ 3D Jubilee Bracelet และด้านซ้ายล่างมีโลโก้ realme
โดยกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ของ realme 12 Pro+ 5G ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX890, เลนส์ 6P, รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.56″, 1.0µm, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OmniVision OV64B, เลนส์ 4P, รูรับแสง f/2.8, 71mm, 1/2.0″, 0.7µm, ระบบ PDAF, ระบบกันสั่น OIS และซูมออปติคอล 3 เท่า
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์ 5P, รูรับแสง f/2.2, 16mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้าง 112 องศา
ขณะที่กล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ของ realme 12+ 5G ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-600, เลนส์ 5P, รูรับแสง f/1.88, 26mm (wide), 1/1.95″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์ 5P รูรับแสง f/2.2, 16mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เลนส์ 3P รูรับแสง f/2.4
ด้านซ้ายข้างเครื่อง realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G ออกแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ
ด้านขวาข้างเครื่อง realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G มีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง
ด้านบนเครื่อง realme 12 Pro+ 5G มีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง กับช่องลำโพงเสียง
ขณะที่ realme 12+ 5G มีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2สำหรับตัดเสียง, พอร์ตอินฟราเรด และช่องหูฟัง 3.5 มม. (หายากแล้วในสมาร์ตโฟนสมัยนี้)
ด้านท้ายเครื่อง realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G มีช่องใส่ซิมการ์ด, ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
โดยช่องใส่ SIM Card ของ realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G จะเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง ไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกมาให้