คลังเก็บ

รีวิว realme 11 Pro Series 5G ดีไซน์หนังวีแกนสุดพรีเมี่ยม พร้อมพลังกล้อง 200MP ซูมเหนือระดับ

realme 11 Pro+ 5G

กล้อง 200MP OIS SuperZoom

ในฐานะแบรนด์เทคโนโลยีเพื่อคนรุ่นใหม่ realme เชื่อเสมอว่าเป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาภาพถ่ายจากสมาร์ตโฟน คือ การมอบพลังแห่งการถ่ายภาพแบบมือโปรมาสู่มือคุณ realme 11 Pro+ 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนตามมาตรฐานภาพระดับเรือธง ซึ่งต้องการทำให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถเข้าถึงภาพระดับเรือธงได้อย่างทั่วถึง

ด้วยกล้องความละเอียดสูงพิเศษ 200MP โดยใช้เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 SuperZoom ที่อัปเกรดแล้ว, เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว, รูรับแสงขนาดใหญ่พิเศษ F/1.69 ซึ่งถือเป็นเซ็นเซอร์และรูรับแสงที่ใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์

realme 11 Pro+ 5G รองรับการถ่ายภาพความละเอียดโดยตรง 200MP โดยนำพิกเซลสูงสุดในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน 200MP มีรายละเอียด 200 ล้าน แต่ละพิกเซลทำงานในการถ่ายภาพ ทำให้ได้ภาพถ่ายที่ชัดเจนที่สุด

ด้วยเทคโนโลยี Tetra2pixel ขึ้นอยู่กับสภาพแสง สามารถรับรู้พิกเซลแบบ 4-in-1 หรือ 16-in-1 เพื่อแปลงโหมด 0.56μm 200MP เป็นโหมด 1.12μm 50MP ที่เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มืด หรือ 2.24μm 12.5 โหมด MP เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มืดที่สุด ใช้ประโยชน์จากตัวเลือกของพิกเซลเดียวอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถถ่ายภาพได้อย่างชัดเจนในทุกสภาพแสง

พิกเซลเซ็นเซอร์ทั้งหมดของ realme 11 Pro+ 5G มาพร้อมกับประสิทธิภาพโฟกัสอัตโนมัติเพื่อตรวจจับความแตกต่างของเฟสแนวนอนและแนวตั้งบนพิกเซลที่อยู่ติดกัน 4 พิกเซลเพื่อการโฟกัสอัตโนมัติที่แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น แม้ในขณะที่จับรายละเอียดของวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แทบไม่มีปัญหาภาพสั่น
ไหวและภาพเบลอ

กล้องหลังของ realme 11 Pro+ 5G ยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมการถ่ายภาพ HyperShot Imaging 2.0 ด้วยกระบวนการประมวลผลอัลกอริธึมภาพได้รับการปรับให้เหมาะสมอย่างเต็มที่ ได้แก่ 1. QuickShot Acceleration Engine 2. Image Engine 3. Anti-shake Engine 4. Colour Boost Engine มอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในด้านความเร็วการถ่ายภาพ คุณภาพของภาพ การป้องกันการสั่นไหว และสี แม้ภายใต้สถานการณ์การถ่ายทำอย่างรวดเร็ว

ครั้งแรกในอุตสาหกรรมกับการซูม 4 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด

เทคโนโลยีการซูมในเซ็นเซอร์ของ realme 11 Pro+ 5G ใช้คุณสมบัติพิกเซลสูงเพื่อสลับโหมดเซ็นเซอร์เมื่อท าการซูมเพื่อให้ได้จำนวนพิกเซลจริงเท่ากันในส่วนโฟกัสต่างๆ

ในโหมด 2× เซ็นเซอร์จะเปลี่ยนเป็นโหมด 4-in-1 50MP ก่อน จากนั้นเลือกโหมด 12.5MP ที่บริเวณตรงกลางจากเซ็นเซอร์เพื่อรับภาพถ่าย 2× 12.5MP

ในโหมด 4× กล้องจะเปลี่ยนเป็นโหมด 200MP ส่งตรงไปที่เอาต์พุต และเลือกเอาต์พุต 12.5MP ที่บริเวณตรงกลางของเซ็นเซอร์เพื่อรับภาพถ่าย 4× 12.5MP

realme 11 Pro+ 5G เป็นสมาร์ตโฟน 5G เครื่องแรกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีซูมเลนส์เดี่ยวแบบไม่สูญเสียข้อมูล 4 เท่า ซึ่งความละเอียดของการถ่ายภาพด้วยการซูม 4 เท่านั้นสูงกว่ารุ่น 200MP ของผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันถึง 242%

realme 11 Pro+ 5G มีความยาวโฟกัสภาพบุคคลตามอัตราส่วนทองคำ 2 เท่า (2x portrait mode) ซึ่งใกล้เคียงที่สุดและสอดคล้องกับการรับรู้ภาพของดวงตามนุษย์ อัลกอริทึมภาพบุคคล SLR มีพื้นหลังแบบธรรมชาติซึ่งสามารถทำให้ตัวหลักโดดเด่นยิ่งขึ้น การรักษาระดับพื้นผิวของผิวดำเนินการด้วยอัลกอริทึมความงามของ AI ให้พื้นผิวที่บอบบางและเป็นธรรมชาติ

realme 11 Pro+ 5G มาพร้อมกับเทคโนโลยีการซูมอัตโนมัติ (Auto-zoom) รุ่นแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งมีรูปแบบการตรวจจับวัตถุและรูปแบบการครอบตัดอัตโนมัติช่วยให้สามารถจัดองค์ประกอบภาพที่สวยงามของภาพถ่ายมากกว่า 10,000 ภาพ

SUPER OIS ให้การถ่ายภาพกีฬาและภาพสตรีทง่ายขึ้นกว่าเดิม

realme 11 Pro+ 5G รองรับ OIS ระดับฮาร์ดแวร์และอัลกอริทึม OIS 3° EDR ที่ดึงเลนส์กลับไปที่กึ่งกลางระหว่างเฟรมอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วในการปรับเปลี่ยนเลนส์ที่เพิ่มขึ้น 40% ในการถ่ายภาพเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ รวมถึงยังมีอัลกอริทึมป้องกันการสั่น 4 แกนเพื่อใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ไจโรสโคป (Gyro) และเซ็นเซอร์เร่งความเร็ว (ACC) ได้อย่างเต็มที่

realme 11 Pro+ 5G มีโหมด Street Photography 4.0 ที่มาพร้อมกับฟิลเตอร์ Lonely Planet ซึ่งมีฟิลเตอร์ที่แนะนำได้แก่ Cinematic, Crisp และ Tranquil ซึ่งจะครอบคลุมทางยาวโฟกัสมากขึ้น ให้ภาพถ่ายมีสไตล์มากขึ้น และช่วยให้คุณกลายเป็นช่างภาพแนวสตรีทได้อย่างง่ายดาย

การถ่ายภาพกลางคืน

กล้องหลังของ realme 11 Pro+ 5G มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ระดับเรือธง 1/1.4″ พร้อมรูรับแสงขนาดใหญ่พิเศษ F/1.69 และพิกเซลเดี่ยว 16-in-1 2.24μm เพื่อจับภาพที่มีสภาพแสงน้อยได้อย่างง่ายดายผ่านโหมด Super NightScape นอกจากนี้ยังมาพร้อมอัลกอริธึม ProLight ที่สามารถใช้เพื่อประมวลผลข้อมูลภาพในโดเมน RAW

ด้วยทางยาวโฟกัสมากกว่า 10 เท่าของกล้อง realme 11 Pro+ 5G จะเปิดใช้งานโหมดดวงจันทร์ (Moon Mode) ด้วยอัลกอริทึม AI Scene Recognition ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ realme รองรับโหมดดวงจันทร์

โดยในโหมดดวงจันทร์ realme 11 Pro+ 5G สามารถปรับการเปิดรับแสงอัตโนมัติเป็นความสว่างของแสงดวงจันทร์ และใช้การซูมเลนส์เดี่ยวแบบไม่สูญเสียรายละเอียดได้ถึง 4 เท่า และอัลกอริทึมหลายเฟรมแบบไฮเปอร์เซกเมนต์เพื่อให้ได้ความชัดเจนของเลนส์เทเลโฟโต้ เพื่อปรับรายละเอียดแม้แสงน้อยและพื้นที่สว่างของพื้นผิวดวงจันทร์ด้วยอัลกอริธึมดวงจันทร์ตามการเรียนรู้เชิงลึกของ Al เพื่อให้สามารถถ่ายภาพดวงจันทร์ที่คมชัดได้อย่างง่ายดาย

กล้องหลังของ realme 11 Pro+ 5G ยังรองรับ First StarLight Algorithm และเทคโนโลยี Super OIS ทำให้สามารถถ่ายภาพท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่สว่างและชัดเจนผ่านการปรับค่าแสงแบบไดนามิก การลดสัญญาณรบกวนแบบหลายเฟรมของ AI และอัลกอริทึมการจัดตำแหน่งดาว แม้ในบริเวณขอบของเมือง

นับเป็นครั้งแรกที่ realme ได้รับการรองรับโหมด Handheld Starry Sky ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวโดยไม่ต้องตั้งค่าที่ซับซ้อนของข้อมูลจำเพาะและขาตั้งกล้องขนาดใหญ

สนุกกับการถ่ายภาพได้มากกว่าที่เคย

ด้วยความละเอียดสูงพิเศษของกล้องหลัก 200MP และอัลกอริธึมการปรับแต่งใบหน้าที่พัฒนาขึ้นเอง และการทดสอบภาพถ่ายกลุ่มนับล้านครั้ง ได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ใบหน้าของทุกคนในโหมดภาพถ่ายกลุ่มพิเศษ (Super Group Portrait) นั้นชัดเจน และแม้แต่พื้นผิวของคิ้วก็ยังมองเห็นได้ชัดเจน (แนะนำให้ถ่ายรูปหมู่ไม่เกิน 10 คน)

ด้วยความละเอียดสูงพิเศษของกล้องหลัก 200MP และองค์ประกอบอัจฉริยะผ่านอัลกอริทึม AI สามารถสร้างภาพถ่ายหลายภาพจากมุมมองที่แตกต่างกันในคลิ๊กเดียวผ่านโหมด One Take

กล้องหลัง realme 10 Pro+ 5G มี 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 SuperZoom Camera, เลนส์ 7P, รูรับแสง f/1.69, 22.9mm (wide), 1/1.4″, 0.56µm, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

อินเทอร์เฟซโหมดถ่ายภาพของ realme 11 Pro+ 5G ด้านบนมีแถบเมนูเปิด/ปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, ตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมดการปรับแต่งฉากหลังด้วย AI, เลือกอัตราส่วนภาพถ่าย, เปิด/ปิดโหมด HDR อัตโนมัติ และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ

สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมดท้องถนน Street Photography 4.0, โหมดกลางคืน, โหมดความละเอียดสูง 200MP, โหมดถ่ายภาพ Pro, โหมด Panorama, โหมดมาโครพิเศษ, โหมดภาพยนตร์, โหมด Slo-motion, โหมด Time-Lapse, โหมดการเปิดความเร็วชัตเตอร์, โหมดวิดีโอมุมมองคู่, โหมดระบบสแกนข้อความ, โหมด Starry, โหมดภาพบุคคลหมู่ และโหมด TILT-SHIFT

โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 200MP 16320 x 12240 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K@60fps

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่างๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 14 แบบ

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่างๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 13 แบบ

ทดสอบกล้องหลังในโหมดกลางคืน

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Street Photography Mode 4.0

ทดสอบกล้องหลังในโหมด 200MP

realme 11 Pro+ 5G มาพร้อมเลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา ช่วยเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างครบถ้วน

และ realme 11 Pro+ 5G ยังมีเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.4 รองรับการโหมดถ่ายภาพระยะใกล้แบบ Ultra Macro โดยสามารถถ่ายในระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง realme 11 Pro+ 5G

กล้องหน้า 32MP Sony Selfie Camera

realme 11 Pro+ 5G ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่แบบฝังใต้หน้าจอ In-Display Selfie เซ็นเซอร์ Sony ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มาพร้อมรูรับแสง f/2.45, 5 ชิ้นเลนส์ และเลนส์มุมกว้าง 90° ภาพถ่ายหน้าจอเซลฟี่แนวนอนจะขยายช่วงเลนส์โดยอัตโนมัติ และรองรับทิวทัศน์ได้มากขึ้น ช่วยให้สัมผัสประสบการณ์ภาพถ่ายเซลฟี่แบบใหม่

โดยมีหน้าตา User Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิด/ปิดไฟแฟลช, การตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ, เลือกอัตราส่วนภาพถ่าย, ตั้งค่าเปิด/ปิดโหมด HDR และการตั้งค่าอื่นๆ รองรับการถ่ายถาพปกติ, Portrait, วิดีโอ, กลางคืน และพาโนรามา

และมาพร้อมอัลกอริทึมการกำจัดฝ้าของ AI ที่อัปเกรดใหม่สามารถรักษาโทนสีผิวที่สม่ำเสมอของเลนส์ด้านหน้าและด้านหลัง ปรับผิวให้สวยงามเทียบเท่ากับผิวเด็ก และให้ความรู้สึกเหมือนผิวจริงมากขึ้น

โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียด 4928×6560 พิกเซล ส่วนวิดีโอรองรับการถ่ายที่ความละเอียดสูงสุด 1080p@30fps

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 11 แบบ

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 10 แบบ

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Night

อ่านต่อหน้า 5