ด้านการถ่ายภาพ
กล้อง Prolight ระดับเรือธง 108MP

realme 10 Series มาพร้อมกล้อง Prolight ระดับเรือธง 108MP สามารถถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้อย่างยอดเยี่ยม โดยใช้เซ็นเซอร์กล้อง Samsung ISOCELL HM6 ที่ใช้เทคโนโลยี NonaPixel Plus กับความโดดเด่นด้วย 9Sum Pixel Binning สามารถเพิ่มปริมาณแสงโดยรวมได้มากถึง 123% ทำให้ภาพถ่ายในที่แสงน้อยมีความสว่างสดใส

รวมทั้งยังมีเทคโนโลยี Ultra-Zoom ที่ติดตั้งมาในเซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HM6 ให้ทำงานร่วมกับอัลกอริทึมการรวมภาพ เพื่อให้ได้ภาพซูมที่สวยงามมากยิ่งขึ้น เห็นคมชัดในทุกรายละเอียด และให้คุณสร้างสรรค์ภาพในแนวทางที่ต้องการได้อย่างอิสระเสรี

สำหรับกล้องหลังของ realme 10 Pro 5G จะมีด้วย 2 เลนส์ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล Prolight Camera, เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HM6, รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.67″, 0.64µm และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วนกล้องหลัง realme 10 Pro+ 5G จะมี 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล Prolight Camera, เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HM6, รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.67″, 0.64µm และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

สำหรับโหมดถ่ายภาพของ realme 10 Pro 5G และ realme 10 Pro+ 5G มาพร้อมอินเทอร์เฟซที่เหมือนกัน ด้านบนมีแถบเมนูเปิด/ปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, ตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมดการปรับแต่งฉากหลังด้วย AI, เลือกอัตราส่วนภาพถ่าย และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ
สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมดท้องถนน Street Photography 3.0, โหมดกลางคืน, โหมด 108MP, โหมดถ่ายภาพ Pro, โหมด Panorama, โหมดมาโครพิเศษ (realme 10 Pro+ 5G), โหมดภาพยนตร์, โหมด Slo-motion, โหมด Time-Lapse, โหมดวิดีโอมุมมองคู่, โหมดระบบสแกนข้อความ, โหมด Starry และโหมด TILT-SHIFT
โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 108MP 12000 x 9000 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p @ 30fps (realme 10 Pro 5G) และ 4K@30fps (realme 10 Pro+ 5G)

ซ้าย realme 10 Pro 5G ขวา realme 10 Pro+ 5G
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto

ซ้าย realme 10 Pro 5G ขวา realme 10 Pro+ 5G
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 50%

ซ้าย realme 10 Pro 5G ขวา realme 10 Pro+ 5G
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 100%



ซ้าย realme 10 Pro 5G ขวา realme 10 Pro+ 5G
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่างๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 13 แบบ

ซ้าย realme 10 Pro 5G ขวา realme 10 Pro+ 5G
ทดสอบกล้องหลังโหมด Portrait

ซ้าย realme 10 Pro 5G ขวา realme 10 Pro+ 5G
ทดสอบกล้องหลังโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 50%

ซ้าย realme 10 Pro 5G ขวา realme 10 Pro+ 5G
ทดสอบกล้องหลังโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 100%



ซ้าย realme 10 Pro 5G ขวา realme 10 Pro+ 5G
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่างๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 13 แบบ



ซ้าย realme 10 Pro 5G ขวา realme 10 Pro+ 5G
ทดสอบกล้องหลังในโหมดกลางคืน
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
ซ้าย realme 10 Pro 5G ขวา realme 10 Pro+ 5G
realme 10 Pro 5G และ realme 10 Pro+ 5G มาพร้อมโหมด Street Photography Mode 3.0 พร้อมลายน้้า ด้วยฟิลเตอร์ชื่อเมืองอัจฉริยะ คุณจะได้รับค้าแนะน้าเกี่ยวกับฟิลเตอร์ชื่อเมืองที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้โดยจะอิงตามต้าแหน่งทางภูมิศาสตร์ของคุณ หมายความว่าใช้เวลาน้อยลงในการทดสอบฟิลเตอร์และมีเวลามากขึ้นในการถ่ายภาพที่ดีที่สุดของคุณ



ด้วยการประมวลผลแบบคู่ขนาน การถ่ายเฟรมอัจฉริยะ realme 10 Pro+ 5G สามารถถ่ายภาพ 108MP ในเวลาเพียง 0.6 วินาที ผ่านเครื่องมือเร่งความเร็ว QuickShot ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 5 เท่า ที่ใช้เวลาถึง 3.4 วินาที



realme 10 Pro+ 5G มาพร้อมเลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 113 องศา ช่วยเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างครบถ้วน



และ realme 10 Pro+ 5G ยังมีเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.4 รองรับการโหมดถ่ายภาพระยะใกล้แบบ Ultra Macro โดยสามารถถ่ายในระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร