คุณสมบัติการใช้งาน
realme 10 Pro 5G Coca-Cola® Edition มาพร้อม Dark Mode หรือโหมดกลางคืน สำหรับปรับสีของหน้า UI ให้อยู่ในโทนสีดำ เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการอ่านหนังสือ และยังทำให้เครื่องใช้พลังงานน้อยลงช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ด้วย โดยเปิดอัตโนมัติในเวลากลางคืน
สามารถเลือกปรับได้ 3 สไตล์ คือ Enhanced (ดำสนิท), Medium (เทาเข้ม) และ Gentle (เทา) ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีคอนทราสต์ที่แตกต่างกันไป สามารถตั้งค่าเป็น Auto ให้ตัวเครื่องทำการวัดแสงโดยรอบจากเซ็นเซอร์ ambient แล้วประมวลผลเลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดตามช่วงเวลานั้น ๆ ให้เอง
พร้อมโหมดสีหน้าจอที่เลือกปรับได้ทั้งเจิดจ้า เป็นธรรมชาติ และโหมดโปรที่เลือกได้ทั้งภาพยนตร์ และสดใส รวมถึงมีโหมดถนอมสายตา และปรับอุณหภูมิสีหน้าจอได้ โดยการเพิ่มอุณหภูมิสีเพื่อลดรังสีแสงสีฟ้า เพื่อป้องกันอาการปวดตา และสามารถตั้งเวลา เปิด-ปิด อัตโนมัติ และมีฟีเจอร์ O1 Ultra Vision Engine ซึ่งเป็นเทคโนโลยี SDR-to-HDR ช่วยเพิ่มขอบเขตสีเพื่อประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยม และประหยัดแบตเตอรี่
realme 10 Pro 5G Coca-Cola® Edition รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120Hz และรองรับอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz มอบประสบการณ์ที่ลื่นไหล ไม่มีกระตุก โดยอัตรารีเฟรชเรทแบบปรับได้ 6 ระดับประกอบด้วยการอ่าน 30Hz, รับชมภาพยนตร์ 48Hz, วิดีโอ 50Hz, เล่นเกม 60/90Hz และสตรีม 90/120Hz
realme 10 Pro 5G Coca-Cola® Edition รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้
รองรับการปลดล็อคหน้าจอ ล็อคแอป และเก็บข้อมูลส่วนตัวด้วยการสแกนลายนิ้วมือ โดย realme 10 Pro 5G Coca-Cola Edition ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Ultra-fast Side Fingerprint) ฝังบนปุ่มเปิด/ปิดด้านขวาข้างเครื่อง
ติดตั้งลำโพงสเตอริโอคู่ UltraBoom Speaker ที่สามารถเพิ่มระดับเสียงได้ถึง 200% ผ่านซอฟต์แวร์ เหมาะสำหรับงานปาร์ตี และความบันเทิง พร้อมรองรับระบบเสียง Real Sound ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง realme และ Dirac Research AB เพื่อประสบการณ์การฟังที่เหนือชั้น โดยเฉพาะการฟังเพลง หรือชมภาพยนตร์ที่จะได้อรรถรสเพิ่มขึ้น
realme 10 Pro 5G Coca-Cola® Edition รองรับ 5G +5G Dual Mode ที่เร็วแรงและลื่นไหล พร้อมใช้งาน 5G ในประเทศไทยได้ทันทีตั้งแต่แกะกล่อง โดยรองรับคลื่นความถี่ n1/n3/n5/n7/n8/n20/n28/n66/n38/n40/n41/n77/n78
ประสิทธิภาพ
ทดสอบการเล่นเกม
realme 10 Pro 5G Coca-Cola® Edition ใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM6375 Snapdragon 695 โดยใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz และหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 619 จับคู่กับ RAM 8GB+8GB Dynamic RAM และหน่วยความจำภายใน 128GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1TB บวกกับหน้าจอแสดงผลที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz ทำให้อัตราเฟรมเรทที่เสถียรเป็นพิเศษ
เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า realme 10 Pro 5G Coca-Cola® Edition ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา โดยตั้งค่า FPS ระดับสูง ด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 695 ทำให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก
ต่อด้วยเกม PUBG Mobile เกมแบทเทิลรอยัล โดยปรับตั้งค่ากราฟิกที่ “HD” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับสูง แต่หากปรับกราฟิกเป็น “Smooth” ก็จะสามารถปรับเฟรมเรทได้ถึง Ultra เลยทีเดียว ด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 695 และจอ 120Hz Ultra Smooth Display ทำให้สามารถเล่นได้ไม่หน่วง และไหลลื่น