แน่นอนว่าสมาร์ตโฟนระดับเรือธงมักจะมาพร้อมกับข้อได้เปรียบในแทบจะทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสเปคเร็วแรง กล้องดี วัสดุเยี่ยม แต่ก็จะมาพร้อมราคาที่สูงแบบพรีเมี่ยมเช่นกัน ซึ่งโชคดีที่ในปัจจุบันสมาร์ตโฟนราคาระดับหมื่นกลางๆ ไม่ถึง 2 หมื่น ก็มาพร้อมกับสเปคที่ดี เล่นเกมได้ ถ่ายรูปสวยจากหลายแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่นจาก Google, realme, OnePlus
และโดยเฉพาะ Xiaomi ที่ล่าสุดปล่อยสมาร์ตโฟนสเปคดี ในราคาประหยัดอย่าง POCO X3 NFC ออกมาเป็นหนึ่งในดาวเด่นของสมาร์ตโฟนราคาระดับดังกล่าว ซึ่งถ้ายังจำกันได้ ตอนที่ X3 NFC เปิดขายครั้งแรกแบบ flash sale บนร้านค้าออนไลน์ รุ่นนี้ก็ขาดตลาดไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นยิ่งย้ำชัดว่ากลุ่มคนที่มองด้านความคุ้มค่าของสมาร์ตโฟนเป็นหลัก ยังมีความต้องการสูงมาก
วันนี้ทีมงาน MobileOcta เรามีโอกาสได้รีวิว POCO X3 NFC กันครับ มาดูกันครับว่าจากที่เราได้ทดลองใช้งานมาสักระยะ เจ้าสมาร์ตโฟนราคาคุ้มตัวนี้มีอะไรที่น่าสนใจ และมีจุดสังเกตอะไรบ้าง ใครที่กำลังเล็งรุ่นนี้อยู่มาลองติดตามประกอบการตัดสินใจกันครับ
Unbox แกะกล่อง
ก่อนอื่นเลยเรามาแกะกล่องเจ้า POCO X3 NFC ก่อนดีกว่าครับ ในกล่องของรุ่นนี้จะมาพร้อมเคสใสให้ด้วย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มเลย รวมถึงมีคู่มือ เข็มจิ้มซิมการ์ด สายดาต้า และที่ชาร์จ โดยรุ่นนี้จะรองรับการชาร์จเร็ว fast charge ที่ 33W แถมให้มาในกล่องเลยด้วย ดีมาก
Design ดีไซน์งานประกอบ
ดีไซน์ของรุ่นนี้ต้องบอกว่ามาในแนวเรียบๆ ออกจะไม่หวือหวาครับ โดยด้านหน้าใช้กระจกกันรอย Gorilla Glass 5 ด้านข้างมีขอบอลูมิเนียม และด้านหลังเป็นโพลีคาร์บอเนต มีขนาดตัวเครื่อง 165.3 x 76.8 x 9.4 มม. และมีน้ำหนัก 215 กรัม ดูตามสเปคและวัสดุแล้ว ก็ถือว่าธรรมดาไม่แตกต่างจากคู่แข่งมากนัก
ส่วนดีไซน์ต้องบอกว่าตาใครตามันครับ สำหรับผู้รีวิวก็ค่อนข้างชอบลายกราฟฟิกด้านหลังที่สะท้อนแสง และมีลูกเล่นโชว์โลโก้ Poco ตัวใหญ่เบิ้มด้านหลัง ดูแล้วก็สวยสะดุดตาดีทีเดียว
บริเวณกล้องถ่ายภาพมีความนูนขึ้นมาพอสมควร แต่ใส่เคสที่แถมมาก็จะไม่ล้ำออกมาครับ สีสันของรุ่นนี้ที่วางจำหน่ายจะมี 2 สีด้วยกัน คือ สีน้ำเงิน Cobalt Blue และสีเทา Shadow Gray ที่เราได้มารีวิวนี้เอง
ตัวเครื่องด้านซ้ายจะมีช่องใส่ซิม และการ์ด microSD ครับ ด้านขวาจะมีปุ่มปรับเสียง และปุ่ม power ที่ใช้ในการสแกนลายนิ้วมือบนปุ่มนี้เลย ซึ่งสามารถสแกนได้แม่นยำ และเร็วดีใช้ได้ ด้านบนมี IR Blaster สำหรับใช้เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ทีวี แอร์ หรือเครื่องเล่นต่างๆ ได้ และมีไมค์โครโฟน ส่วนด้านล่างมีพอร์ตชาร์จ USB-C ช่องหูฟัง 3.5 มม. ไมค์ และลำโพงนอก
ว่ากันด้านดีไซน์ ส่วนตัวเทียบกับราคาแล้ว ดีไซน์งานประกอบของ Poco X3 NFC ก็ถือว่าผ่านอย่างสบายครับ แม้ว่าฝาหลังจะเป็นพลาสติกก็ตาม แต่ก็ไม่รู้สึกบอบบางเลย กลับให้ความรู้สึกกระชับเวลาจับถือ ซึ่งอาจเป็นเพราะน้ำหนักตัวเครื่อง 215 กรัม ทำให้รู้สึกว่าเจ้านี่ไม่บอบบางก็เป็นได้ สรุปก็ถือว่าทำได้แน่นหนาดีครับ
อ่อเกือบลืมไป เจ้านี่รองรับการกันน้ำกันฝุ่นที่ IP53 ด้วยนะครับ ก็คือสามารถกันละอองน้ำ และฝุ่นได้ในระดับนึง แต่ไม่สามารถเอาไปจุ่มน้ำ หรือว่ายน้ำได้นะ
จอใหญ่ แสดงผลดีเยี่ยม
ส่วนหน้าจอรุ่นนี้มีขนาด 6.67 นิ้ว รองรับความถี่สูง 120Hz ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล สัดส่วน 20:9 และรองรับเทคโนโลยี HDR10
ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้รู puch-hole สำหรับวางกล้องหน้านั้นดูมีขนาดเล็กลงไปเลยครับ ขอบหน้าจอก็ไม่หนาจนเกินไป ดังนั้นการเล่นเกม หรือรับชมคอนเท้นต์บนมือถือเครื่องนี้ ไม่รู้สึกว่ามีอะไรขัดหูขัดตาเลย
และด้วยสเปคหน้าจออย่างที่กล่าวไป โดยเฉพาะการรองรับความถี่ 120Hz และมี touch-sampling rate 240Hz ทำให้การเล่นเกมลื่นไหลดีมาก ตอบสนองนิ้วสุดๆ รวมถึงจอมีความสว่าง 440nits ทำให้สามารถสู้แสงแดดได้ดีพอตัว
นอกจากนี้ จากที่ได้ทดสอบใช้งาน POCO X3 NFC เทียบกับรุ่นอื่นในราคาใกล้เคียงกัน ต้องบอกเลยว่าหน้าจอของรุ่นนี้สามารถแสดงผลได้ค่อนข้างดีมาก แต่อาจจะไม่ได้ดีเท่ากับรุ่นเรือธงราคาแพงระยับนะครับ เอาว่าตามงบถือว่าคุ้มทีเดียว
Performance ประสิทธิภาพ
ว่ากันที่สเปคกันก่อน POCO X3 NFC มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 732G ใช้ GPU Adreno 618 ทำงานร่วมกับ RAM 6GB ความจำภายใน 64GB และรองรับ microSD Card เสริมภายนอก
สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมชิป Snapdragon 732G ที่เป็นชิประดับกลางที่อาจจะไม่ได้แรงระดับเรือธงอะไร แต่การที่ได้ทำงานร่วมกับ RAM 6GB ช่วยให้การใช้งานรู้สึกไม่ติดขัดครับ การใช้งานทั่วไปลื่นไหลดี การเล่นเกมสามารถปรับระดับกราฟฟิกสูงระดับกลางๆ ได้สบาย อาจดันได้ไม่สุด แต่ลื่นไหลไม่สะดุดแน่นอน
การเล่นเกมทั่วไปอย่าง Clash Royale , RoV หรือเกมอื่นๆ ที่ไม่เน้นกราฟฟิกมาก สามารถทำได้ยอดเยี่ยม แต่เกมที่กราฟฟิกสูงๆ อย่าง PUBG Mobile อาจต้องปรับกราฟฟิกลงมากลางๆ สักหน่อย ก็เล่นเกมได้อร่อยแล้วครับ
อย่างที่เราได้ลองเล่น RoV แบบปรับกราฟฟิกสูง ก็สามารถทำ frame rate ได้ในระดับ 59-60 fps สบายๆ ไม่ต่ำไปกว่านี้ ถือว่าเพียงพอ คุ้มกับราคาแล้ว แถมแบตอึดด้วย เล่นเกมได้ยาวๆ เลย
Battery แบตเตอรี่
POCO X3 NFC มาพร้อมแบตเตอรี่ 5160mAh และรองรับ fast charge 33W
ด้านการสิ้นเปลืองพลังงานรุ่นนี้ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว แบตที่ให้มาเกิน 5 พันมิลลิแอมป์จากที่เราได้ทดสอบใช้งานทั่วไป สามารถเหยียบ 2 วันได้สบาย และถ้าหากเล่นเกมหนักๆ ก็ใช้ได้เกือบวัน แต่แบตหมดก็ไม่กลัว เพราะรุ่นนี้รองรับ fast charge 33W ที่ใช้เวลาชาร์จประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็เต็ม 0-100% แล้ว และรุ่นนี้ยังไม่รองรับการชาร์จไร้สายนะครับ
Software ซอฟท์แวร์
POCO X3 NFC ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 คู่กับ MIUI 12 ของ Xiaomi และยังไม่แน่ใจว่าจะได้ไปต่อกับ Android 11 หรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ Poco อาจไม่มีชื่อเสียงในด้านการอัพเดต Android OS เวอร์ชั่นใหม่เท่าไหร่ แต่เชื่อว่าก็มีโอกาสที่อย่างน้อยจะได้ไปต่ออีกสัก 1 เวอร์ชั่นครับ
ด้านซอฟท์แวร์ของรุ่นนี้ค่อนข้างมาแบบเพียวๆ stock android พอสมควร การทำงานค่อนข้างลื่นไหล สะอาดตา แอปพลิเคชันส่วนใหญ่ที่ติดเครื่องมา หากคุณคิดว่าไม่ได้ใช้ ก็สามารถลบออกได้ตามต้องการ
ส่วนแอปที่ให้มาและน่าสนใจก็จะเป็นพวก Mi Remote ที่ให้คุณใช้มือถือในการควบคุมอุปกรณ์อื่นๆ ผ่าน IR Blaster ดังที่กล่าวไป, Game Turbo ที่ช่วยจัดการการทำงานเบื้องหลังของระบบ ให้เน้นการเล่นเกมให้ดีที่สุด หรือจะเป็น Second Space ที่ให้คุณเก็บข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ ไม่ให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายๆ เป็นต้น ก็ถือว่าเป็นแอปที่มีประโยชน์มากทีเดียว
Camera กล้องถ่ายภาพ
ว่ากันที่สเปคกล้องก่อนเลย POCO X3 NFC มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลัก 64MP f1.9, กล้อง ultrawide 13MP f2.2, กล้อง depth 2MP f2.4 และกล้อง macro 2MP f2.4
กล้องถ่ายภาพรองรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว 4K @30fps และ Full HD @120fps มีโหมดสโลโมชั่น 720p @960fps กล้องหน้ามีความละเอียด 20MP f2.2 เลนส์มุมกว้างพอสมควร และกล้องหน้าสามารถถ่ายวีดีโอได้สูงสุดที่ Full HD @30fps
ว่ากันตรงๆ กล้องของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้รวมทั้งหมด 5 ตัว (หน้าและหลัง) ที่ใช้ได้ดีประทับใจผู้รีวิวจะมีทั้งหมด 3 ตัวครับ คือ กล้องหลัก, กล้อง ultrawide, และกล้องหน้าเซลฟี่ ส่วนกล้อง depth และกล้อง macro จากที่ทดสอบยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่
กล้องถ่ายภาพ 64MP สามารถเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างดี สีสันดี โดยเฉพาะในที่แสงเพียงพอ แต่สำหรับในที่แสงน้อยก็ยังถือว่าธรรมดาๆ ส่วนกล้องมุมกว้างพิเศษ ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้การถ่ายภาพได้ดีมากครับ สามารถเก็บบันทึกภาพมุมกว้างได้สวยสมราคา ส่วนกล้องหน้ามีความกว้างใช้ได้ ทำให้การถ่ายเซลฟี่เป็นหมู่ได้ใช้ประโยชน์ในจุดนี้
ส่วนที่่น่าสังเกตด้านกล้องถ่ายภาพคือกล้อง macro ที่โฟกัสไม่ค่อยเข้าเท่าที่ควรซึ่งตรงนี้อาจมีซอฟท์แวร์อัพเดตออกมาแก้ในอนาคตก็เป็นได้
สรุปแล้วด้านกล้องถ่ายภาพของรุ่นนี้ รวมๆ แล้วก็ถือว่าทำได้ไม่เลวครับ เทียบกับราคาค่าตัวก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกันดี ชมตัวอย่างภาพด้านล่างนี้ครับ
ภาพจากกล้อง ultrawide สีจะดร็อบลงเล็กน้อยตามภาพด้านบน
Audio System ระบบเสียง
จุดนี้อยากเพิ่มให้ฮะ เพราะ POCO X3 NFC มาพร้อมระบบเสียงค่อนข้างดีเกินตัวทีเดียว ทั้งการรองรับ aptX, aptX HD, และ LDAC ช่วยให้การฟังเพลง hi-def ไพเราะเสนาะหูมาก และมาพร้อมช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ทำให้เราสามารถหาหูฟังดีๆ มาเชื่อมต่อได้ง่าย
รวมถึงลำโพงนอกของรุ่นนี้ก็ทำมาได้ดี อยู่ในตำแหน่งที่ไม่บังเวลาวางบนพื้นเรียบ และเสียงดัง มีมิติกว่าหลายรุ่นในระดับเดียวกัน อันนี้ชอบจริงๆ
Conclusion สรุป
POCO X3 NFC ถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นราคาประหยัดอีก 1 รุ่นที่ดีน่าใช้มากรุ่นนึงครับ จุดเด่นของรุ่นนี้คือมาพร้อมแบตเตอรี่ที่อึดมาก หน้าจอใหญ่และสวย กล้องที่ดีใช้ได้ เสียงดี และสเปคที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในราคาเดียวกัน
โดยราคา POCO X3 NFC แบ่งออกเป็น 2 รุ่นครับ คือรุ่น RAM 6/64GB มีราคาเปิดตัวที่ 6,999 บาท และรุ่น RAM 6/128GB ราคา 7,999 บาท
ถ้าถามว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้เหมาะกับใคร ต้องบอกว่าในราคาระดับ 7 พันบาท น่าจะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนสเปคคุ้มค่า ดีในทุกด้าน ทั้งการใช้งานทั่วไป การเล่นเกม และกล้องถ่ายภาพ ที่เหล่านี้ถือว่าคุ้มค่าตามราคา น่าจะเหมาะกับเด็กนักเรียนนักศึกษาที่ยังอาจไม่มีรายได้ไปซื้อมือถือราคาแพงๆ แต่อยากได้เครื่องที่ทำงานเสถียร หรือจะใช้เป็นเครื่องสำรองเน้นแชตตอบลูกค้า หรือโทรรับสายลูกค้า อันนี้ก็เหมาะเช่นกัน เพราะแบตอึดมาก เป็นต้น
ก็ประมาณนี้ครับกับการรีวิว Poco X3 NFC เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยครับ จนกว่าจะพบกันใหม่ วันนี้สวัสดีครับ 🙂
ข้อดี
– หน้าจอใหญ่ + สวยเกินราคา
– เล่นเกมลื่นไหลด้วยพลัง Snapdragon 732G
– กล้องถ่ายภาพครบช่วง คุณภาพดี
– เสียงดี ฟังเพลงเพราะ
– แบตอึดใช้นานข้ามวัน
– ชาร์จเร็ว 33W
– แถมเคสในกล่อง
ข้อสังเกต
– น้ำหนักเยอะนิดนึง
– กล้องมาโครโฟกัสไม่ค่อยเข้า (อาจมีซอฟท์แวร์แก้ไขภายหลัง)