ยุคต่อไปของอุปกรณ์พกพาหลังจากยุคเฟื่องฟูของสมาร์ตโฟน หลายคนชี้ตรงกันไปที่อุปกรณ์สำหรับสวมใส่ได้ หรือ Wearable Gadgets ครับ ซึ่งวันนี้พวกเรามีโอกาสได้รีวิว VR Headset จากหนึ่งในแบรนด์ยอดนิยมคือ PICO 4 ที่พัฒนาโดย ByteDance บริษัทเดียวกับที่พัฒนาแอปโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง TikTok นั่นเองครับ ซึ่งในรุ่นใหม่นี้ก็มีฟีเจอร์และคุณสมบัติหลายอย่างที่น่าสนใจ และเราจะมาเล่าให้ฟังกันในรีวิวนี้ครับ
เบื้องต้นมาทำความรู้จัก PICO 4 รุ่นนี้กันก่อนครับ โดยอุปกรณ์สวมใส่ VR รุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon XR2 ตัวแรงแบบเดียวกับที่ใช้กับค่ายคู่แข่งอย่าง Meta Quest 2 (Meta เป็นบริษัทแม่ของ Facebook นั่นเองครับ) แต่มีราคาที่ถูกกว่า รวมถึงเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้แบบ Standalone โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับทีวี หรืออุปกรณ์ก็สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาครับ
รวมถึงมีดีไซน์ที่สวยงามดูทันสมัย ดีไซน์แน่นหนา แข็งแรง สามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย และมีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย มีหน้าจอที่สวยงามคมชัด ใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้ามากครับ เบื้องต้นเกริ่นกันประมาณนี้ เดี๋ยวเราไปดูรีวิวเต็มๆ กันได้เลยครับ
แกะกล่อง PICO 4
- ชุดเฮดเซ็ต VR 1 ชุด
- คอนโทรลเลอร์ 2 ชิ้น
- แบตเตอรี่อัลคาไลน์ 1.5V AA 4 ก้อน
- ตัวเว้นระยะแว่นตา 1 ชิ้น
- แป้นจมูก 1 อัน
- สายคล้องคอนโทรลเลอร์ 2 สาย
- อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C 1 ชุด
- สายเคเบิลข้อมูล USB-B เป็น C 2.0 1 สาย
- คู่มือแบบย่อ 1 เล่ม
- คู่มือผู้ใช้ 1 เล่ม
- คู่มือความปลอดภัยและการรับประกัน 1 เล่ม
PICO 4
คอนโทรลเลอร์ 2 ชิ้น
ตัวเว้นระยะแว่นตา
หัวชาร์จและสาย USB-C
คู่มือและใบรับประกันต่างๆ
สเปค PICO 4
ขนาด (ยาว x กว้าง x สูง) | 255-310 x 163 x 80 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 295 กรัม (เฉพาะส่วนเฮดเซ็ตด้านหน้า)586 กรัม (รวมสายรัดศีรษะ) |
จอแสดงผล | จอ LCD ขนาด 2.56 นิ้ว 2 จอจำนวนพิกเซลต่อนิ้ว (PPI): 1,200ความละเอียด: 4,320 x 2,160 (2,160 x 2,160 ต่อดวงตาหนึ่งข้าง) อัตราการรีเฟรช: 72Hz / 90Hz |
กล้อง | กล้อง Fisheye 4 ตัวกล้อง RGB 16MP 1 ตัว |
ระบบประมวลผล | ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon XR2 8 คอร์ 64 บิต ความเร็ว 2.84GHzกระบวนการผลิตขนาด 7nm |
ระบบปฏิบัติการ | PICO OS 5.0 |
หน่วยความจำและความจุ | 8 GB RAM + 128 GB ROM (รุ่นที่รีวิว)8 GB RAM + 256 GB ROM |
แบตเตอรี่ | ชุดเฮดเซ็ต: 5300 mAh (สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 2.5-3 ชั่วโมง) คอนโทรลเลอร์: แบตเตอรี่ AA สองก้อน (ใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 80 ชั่วโมง)รองรับการชาร์จเร็ว 20W |
เลนส์ | เลนส์แพนเค้กให้ภาพมุมกว้าง 105°20.6 PPD (พิกเซลต่อองศาการมองเห็น) |
ระบบเสียง | ลำโพงสเตอริโอรอบทิศทาง 360° รองรับระบบเสียงสามมิติไมโครโฟนคู่ ตัดเสียงรบกวนได้สูงสุด 30dB และตัดเสียงสะท้อน 50dB |
การเชื่อมต่อแบบไร้สาย | Wi-Fi 6, ความถี่คู่ 2.4GHz/5GHzBluetooth 5.1 |
เซ็นเซอร์ | ระบบจับตำแหน่งแบบ 6DoF (ครอบคลุมการเคลื่อนไหว 6 ทิศทาง) |
ราคาเปิดตัว | 13,990 บาท |
ดีไซน์การออกแบบที่ดูทันสมัย
PICO 4 มาพร้อมการออกแบบที่ดูสวยทันสมัย น่าใช้งานครับ มีบอดี้บริเวณที่ครอบดวงตาสีขาวสะอาด ด้านหน้าเป็นสีดำเงามีความกว้างประมาณ 163 มม. ซึ่งถือว่ามีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับแว่น VR ทั่วไปในท้องตลาด โดยต้องขอบคุณเลนส์พิเศษแบบ Pancake ด้านในที่ถือเป็นจุดขายของรุ่นนี้ ที่ทำให้สามารถลดขนาดอุปกรณ์ลงได้ รวมถึงมีน้ำหนักเบาด้วยครับ
นอกจากนี้แบตเตอรี่ของอุปกรณ์ถูกนำไปวางไว้ในส่วนด้านหลัง ทำให้เพิ่มความบาลานซ์ยิ่งขึ้น ไม่รวมน้ำหนักไปอยู่ด้านหน้าเพียงอย่างเดียว
การออกแบบนี้ทำให้สามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัยครับ ตั้งแต่ผู้ใหญ่ไปจนถึงใช้เป็นสื่อการเล่นรู้ให้น้องๆ หนูๆ เพราะสายคาดด้านบนก็สามารถปรับขนาดได้หลากหลาย รวมถึงส่วนของที่รัดศีรษะก็ปรับได้ง่ายด้วยการหมุนที่ปรับขนาดด้านหลังนั่นเอง
ปุ่มปรับเสียงอยู่บริเวณก้านแว่นด้านขวา
ส่วนสัมผัสของแว่น VR กับศีรษะของเราจะหุ้มด้วยฟองน้ำที่นุ่มนวลแต่ระบายอากาศได้ดี ทำให้สวมใส่ได้อย่างสบายและใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกรำคาญครับ ช่วยให้เราสนุกเพลิดเพลินกับคอนเท้นต์โปรดได้เป็นเวลานานครับ
รอบๆ PICO 4 จะมีกล้องอยู่หลายตัวครับ ซึ่งกล้องเหล่านี้ไม่ได้ใช้สำหรับการถ่ายภาพแต่อย่างใดฮะ แต่ใช้สำหรับการตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ รวมถึงใช้สำหรับแสดงภาพรอบๆ ตัวผู้สวมใส่ ช่วยให้เราเห็นพื้นที่รอบตัวเราขณะสวมใส่ และกล้องยังช่วยหาตำแหน่งของคอนโทรลเลอร์และแสดงให้เราเห็นขณะใส่แว่น VR อยู่ตลอดเวลาด้วย
พอร์ตการเชื่อมต่อของ PICO 4 มีเพียงพอร์ต USB-C เพียงอย่างเดียวครับ ซึ่งแน่นอนว่าจะใช้สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ภายในแว่น และใช้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อโอนถ่ายข้อมูลต่างๆ ได้แบบใช้สายครับ แต่ก็สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านแอปได้อยู่นะครับ
ปุ่ม Power และไฟ LED แสดงสถานะอยู่ด้านขวา
และในส่วนของแบตเตอรี่ที่ให้มาบน PICO 4 จะมีความจุ 5300mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 2.5 – 3 ชั่วโมง ซึ่งก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละครั้งครับ เล่นประมาณ 3 ชั่วโมงแล้วพักสายตาบ้างน่าจะกำลังเหมาะสมล่ะครับ
คอนโทรลเลอร์ระบบ Gesture ที่ทำงานอย่างแม่นยำ
การควบคุมหลักของ PICO 4 จะใช้คอนโทรลเลอร์ 2 ชิ้นในการควบคุมครับ โดยจะแบ่งออกเป็นการใช้งานด้วยมือข้างซ้ายและขวา ซึ่งหากคุณเป็นคนเล่นเกมคอนโซลอย่าง Nintendo Switch อยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาในการควบคุมครับ ซึ่งใช้การกดปุ่มบนคอลโทรลเลอร์ และใช้ชี้ไปยังเมนูต่างๆ ในอินเทอร์เฟซ โดยขณะใส่แว่น VR อยู่เราจะเห็นเส้นสีขาวชี้เป็นเส้นตรง ทำให้เราสามารถเลือกและใช้งานได้อย่างแม่นยำ
ปุ่มควบคุมต่างๆ ก็มีไม่มากครับ ทำให้สามารถใช้งานได้ง่าย มีอนาล็อคสติ๊กสำหรับควบคุมตำแหน่ง มีปุ่มทริกเกอร์ 2 ปุ่มที่ด้านหลัง (คล้ายปุ่ม L R นั่นเอง) ซึ่งสำหรับผู้ใช้มือใหม่ก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะการใช้งานครั้งแรกระบบจะมีการสอนและแนะนำวิธีการควบคุมต่างๆ ให้ครับ
ส่วนการใช้พลังงานของคอนโทรลเลอร์จะใช้แบตเตอรี่แบบ AA สองก้อนต่อข้าง ซึ่งบางท่านอาจจะงงว่าทำไมไม่ใช้การชาร์จแบตเหมือนกับตัวแว่นไปเลย แต่แบต AA นี้สามารถใช้งานได้นานประมาณ 80 ชั่วโมง ดังนั้นก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรครับ
การจับถือคอนโทรลเลอร์ของ PICO 4 ทำมาค่อนข้างกระชับ เข้ากับ Ergonomic ของมือเป็นอย่างดีครับ และอย่าลืมว่าให้ใส่สายคล้องข้อมือที่ให้มาด้วยนะครับ จะได้มั่นใจว่าขณะขยับมือไม้ จะไม่หลุดมือไปถูกข้าวของเสียหายนะ
ประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งาน
PICO 4 ใช้พลังงานจากชิปเซ็ต Snapdragon XR2 ที่ผลิตโดยผู้นำตลาดอย่าง Qualcomm ชิปเซ็ตรุ่นนี้เป็นชิประดับสูงสำหรับอุปกรณ์ประเภทแว่นตา VR ครับ ซึ่งเป็นชิปแบบ 64bit มีคอร์ประมวลผล 8 คอร์ที่ความเร็วสูงสุด 2.84GHz และใช้การผลิตด้วยสถาปัตยกรรมแบบ 7nm และทำงานร่วมกับ RAM 8GB และหน่วยความจำภายใน 128GB สำหรับรุ่นที่เรารีวิว และยังมีรุ่น ROM 256GB ให้เลือกด้วยครับ
ด้านประสิทธิภาพการใช้งานถือว่าลื่นไหลดีมากครับ จากการทดสอบมาระยะหนึ่งพบว่า PICO 4 ไม่มีอาการกระตุกหรือค้างให้เห็นเลยครับ การเปิดไฟล์วีดีโอแบบ 360 องศารอแบบเดียวก็เปิดรับชมได้แล้วครับ ส่วนเกมแบบ VR สามารถโหลดได้อย่างรวดเร็ว และเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลครับ
การเล่นเกมเราได้ทดสอบเกมแบบ VR 3 เกม บอกเลยว่ามันส์สุดๆ ครับ เกมแรกเป็น Wands Alliances ที่ให้เรารับบทเหมือนเป็นจอมเวทย์ สามารถร่ายเวทมนตร์ปล่อยพลังด้วยมือข้างซ้ายและขวา เช่น มือซ้ายปล่อยเวทย์ไฟฟ้า ส่วนมือขวาเป็นเวทย์ไฟ การเล่นจะให้เราแบ่งข้างกัน 3v3 แล้วต่อสู้กันด้วยพลังเวทย์ แนะนำว่าการเล่นควรเล่นในพื้นที่กว้างหน่อยนะครับ เพราะเราต้องขยับร่างกายเพื่อหลบการโจมตีของคู่แข่งด้วย ถือว่าได้ออกกำลังกายกันพอตัวเลยล่ะ
เกมต่อมาเป็น All-in-One Sports VR เกมนี้ก็ตามชื่อครับ จะมาพร้อมกีฬาดังมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปาลูกดอก ชกมวย ตีกอล์ฟ เทนนิส โบว์ลิ่ง ยิงธนู หรือสนุ๊กเกอร์ เป็นต้น สำหรับเพื่อนๆ ที่เคยเล่นเกมประเภทนี้บน Switch มาแล้ว บอกเลยว่าสนุกไม่แพ้กันครับ แถมพอเราได้ใส่แว่น VR แบบนี้ เหมือนเราได้ยืนแข่งกีฬาในสนามจริงๆ เลย และอีกอย่างคือ ใครที่อยากลดน้ำหนัก บอกเลยว่าเกมนี้เหนื่อยเอาเรื่องฮะ บอกเลย
และอีกเกมคือ Superhot VR เกมนี้เราจะต้องแก้ไขปัญหาแบบแปลกใหม่ในโลกของ VR ที่เราต้องวางแผนในสไตล์เกมแอคชั่น โดยเราต้องโจมตี AI ที่เข้ามาทำร้ายเราในรูปแบบสโลว์โมชั่น และเราสามารถเก็บอาวุธจากศัตรูมาใช้ผ่านด่านได้ อารมณ์คล้ายเป็นเกม The Matrix เหมือนกันนะ 55
3 เกมที่กล่าวไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของเกมฟรีสำหรับลูกค้า PICO 4 ทุกคนจากชุด PICO 4 Starter Pack ครับ ส่วนหากต้องการโหลดแอปพลิเคชัน หรือเกมอื่นๆ เพิ่ม ใน Store ก็มีให้เลือกเล่นเพียบครับ มีทั้งแบบฟรีและเสียเงินก็มี โดยเกมก็ไม่ได้แพงมากครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ในราคาหลักร้อยเองครับ
และแม้ว่า PICO 4 จะเป็นอุปกรณ์สวมใส่แว่น VR แบบ Standalone ที่สามารถใช้งานได้ด้วยตัวของมันเองโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก แต่ก็สามารถเลือกเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน ไปจนถึงสมาร์ททีวีได้นะครับ เพียงเข้าไปที่หน้าการตั้งค่าการแคสหน้าจอ จากนั้นเลือกการแคสที่ต้องการก็จะสามารถส่งหน้าจอที่ผู้สวมใส่เห็นไปยังหน้าจออื่นได้ เรียกได้ว่าแชร์ความสนุกให้เพื่อนๆ รู้ได้ว่าคุณกำลังดูอะไรอยู่ได้ด้วยครับ การเชื่อมต่อก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ต้องเชื่อมต่อในวง WiFi เดียวกันเท่านั้นเอง จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนคำแนะนำได้เลย
PICO 4 ช่วยให้เราใกล้ชิดเสือหรือสิงโตได้โดยไม่อันตราย เด็กๆ ชอบมาก
นอกจากนี้ จุดขายหลักๆ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของ PICO 4 ก็คือ หน้าจอ LCD แบบ Hi-Res ความละเอียดสูงที่ให้ภาพคมชัด สวยงาม ที่มีความละเอียด 2160×2160 พิกเซลต่อข้าง รวมเป็น 4320×2160 พิกเซล ทำให้มีความละเอียดของภาพต่อตารางนิ้วสูงถึง 1200 ppi และมีอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 72Hz / 90Hz ช่วยให้การแสดงผลขณะสวมใส่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ให้ภาพที่สวยสด และลื่นไหล ทำให้เราไม่เวียนหัวเลยครับ ใส่ได้ชิลมากๆ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นที่เคยทดสอบมาครับ
ส่วนระบบเสียงนี้ให้มิติที่ดีมากครับ เข้ากับ VR สุดๆ ครับ โดยจะเป็นระบบเสียงรอบทิศทางแบบสามมิติ และยังให้เสียงในโทนนุ่มนวล ฟังเพลินทั้งการเล่นเกม ดูหนังหรือฟังเพลงก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ
บทสรุป
สรุปแล้ว PICO 4 นี้เหมาะสมกับใคร? เราคิดว่าแว่นตา VR สเปคแจ่มรุ่นนี้ น่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นใช้งาน VR Headsets เพื่อรับประสบการณ์สมจริงแบบ 360 องศา รวมไปถึงผู้ใช้ระดับสูงที่เคยใช้มาแล้ว แต่อยากขยับ อัพเกรดอุปกรณ์ให้อยู่ในระดับสูงขึ้น เพราะ PICO 4 มาพร้อมสเปคระดับสูง มีดีไซน์ที่เล็กกะทัดรัด บางเบา สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะสามารถใช้งานได้แบบสแตนอโลน
รวมถึงมีจอภาพระดับ Hi-Res และเลนส์ Pancake ที่ทันสมัย มอบประสบการณ์ VR ที่สมบูรณ์แบบด้วยภาพความละเอียดสูง ใส่ใช้งานได้นาน ไม่เมื่อยตา ไม่มึนหัว มีเกมและแอปพลิเคชันให้เลือกใช้งานมากมาย จะเล่นเกม รับชมความบันเทิง Multimedia ก็มีให้เลือกหลากหลายครับ และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานใช้ได้
ใครที่มองหาอุปกรณ์ VR สำหรับรับประสบการณ์การใช้งานแห่งอนาคต เชื่อว่า PICO 4 รุ่นนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากที่สุดรุ่นหนึ่งที่มีราคาย่อมเยาแน่นอนครับ สำหรับการรีวิวก็ต้องขอจบเพียงเท่านี้ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ 😀
ทั้งนี้ PICO 4 มีให้เลือกสองรุ่น ได้แก่รุ่นความจุ 128GB ราคา 13,990 บาท และความจุ 256GB ที่ราคา 15,990 บาท วางจำหน่ายผ่านหน้าร้านอย่างเป็นทางการของ PICO บนแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้ง Lazada และ Shopee และทางหน้าร้าน BaNANA IT, TG, Dimi, DotLife, NSmart, Com7, Lake COM, Jaymart และ Nava Asia
โดยผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดเกมและแอปต่างๆ ของ PICO 4 ได้ผ่านแอปพลิเคชันชื่อว่า PICO VR บนสมาร์ตโฟน ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีผ่านทั้ง App Store และ Google Play Store ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PICO 4 ได้ที่เว็บไซต์ www.picoxr.com/th หรือทาง Facebook, Instagram และ TikTok