ประสิทธิภาพ

ด้านประสิทธิภาพของ OPPO Reno5 Series 5G จะต่างกัน OPPO Reno5 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7250 Snapdragon 765G (7 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 620, RAM 8GB แบบ LPDDR 4x และหน่วยความจำภายนอกแบบ 128GB แบบ UFS 2.1 เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB

ส่วน OPPO Reno5 5G ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7250 Snapdragon 765G (7 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 620, RAM 8GB แบบ LPDDR 4x และหน่วยความจำภายนอกแบบ 128GB แบบ UFS 2.1 ไม่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้


เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ ตั้งค่าเลือกเฟรมเรทสูงสุด
โดย OPPO Reno5 ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 720G ซึ่งเน้นที่การประหยัดพลังงานเป็นหลัก จึงทำให้การเล่นเกมที่มีกราฟิกหนักๆ อาจจะมีสะดุดบ้าง แต่การเล่นเกมทั่วๆ ไปถือว่าลื่นไหลเลยทีเดียว
ส่วน OPPO Reno5 5G ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 765G สามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกสูงๆ ได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก แต่ตัวเครื่องจะร้อนเร็วกว่าปกติ

นอกจากนี้ยังมาพร้อม Gaming Shortcut Mode ที่สามารถเข้าถึงเกมโปรดได้อย่างรวดเร็วผ่าน Game Space หรือ Game Assistant และสามารถข้ามอินโทรเปิดตัวเกมในตอนต้นให้อัตโนมัติ และสามารถเริ่มต้นหน้าต่างเกมได้เร็วขึ้นถึง 15 วินาที
รวมถึง Gamer Mode ที่ช่วยปิดกั้นการรบกวนต่างๆ ในระหว่างเล่นเกม เพื่อให้เล่นเกมได้อย่างสนุกไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะเป็นการซ่อนแถบสถานะ หรือปุ่มนำทาง และปิดระบบการสั่งการด้วยท่าทาง, ปิดการใช้งานหน้าจอ, ปิดการใช้งานหน้าต่าง Floating, Assistive Ball, Quick Return Button และ Smart Sidebar

Bullet Screen Message ใช้การแจ้งเตือนแบบ Bullet เข้ามาแทนการแจ้งเตือนแบบ Banner ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับข้อความที่สำคัญได้ทันที โดยไม่ต้องปิดหน้าจอเกม และไม่ทำให้การเล่นเกมต้องสะดุด (รองรับแอป WhatsApp, Telegram, Line, Messenger และ SMS)

และการปรับแต่ง Gaming Touch ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเกมและความเร็วในการสัมผัสหน้าจอเวลาเล่นเกม เพื่อให้มั่นใจว่าเกมจะตอบสนองต่อความเร็วอยู่เสมอ โดยผู้ใช้งานสามารถปรับการตั้งค่าการสัมผัสระหว่างเซสชันเกมแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถปิดการตอบสนองเมื่อสัมผัสที่ขอบหน้าจอโดยที่ไม่ได้ตั้งใจหรือการแจ้งเตือนได้ เช่นเดียวกับการแบ่งหน้าจอแบบ 3-finger screenshots และแบบ 3-finger split screen
แบตเตอรี่

OPPO Reno5 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,310mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 50W Flash Charge ใช้เวลาชาร์จ 5 นาที สามารถดูรับชมวิดีโอได้นานถึง 3 ชั่วโมง, ชาร์จ 31 นาที ได้แบตเตอรี่ 80% และใช้เวลาชาร์จเพียง 48 นาที ได้แบตเตอรี่ 100% และถ้าแบตเตอรี่เหลือเพียง 5% สามารถเปิดโหมด Super Power Saving จะสามารถตอบแชทได้นานกว่า 2 ชั่วโมง

ส่วน OPPO Reno5 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,300mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ใช้เวลาชาร์จ 5 นาที สามารถดูรับชมวิดีโอได้นานถึง 4 ชั่วโมง, ชาร์จ 15 นาที ได้แบตเตอรี่ 60% และ ใช้เวลาชาร์จเพียง 35 นาที ได้แบตเตอรี่ 100% และถ้าแบตเตอรี่เหลือเพียง 5% สามารถเปิดโหมด Super Power Saving จะสามารถเล่นแอพ WhatsApp ได้นานถึง 1.4 ชั่วโมง
บทสรุป

OPPO Reno5 Series 5G ถือเป็นอีกขั้นของสมาร์ตโฟนตระกูล Reno Series ที่ไม่ได้มีดีเฉพาะการถ่ายภาพนิ่งอย่างเดียว แต่ยังโดดเด่นในเรื่องของการถ่ายวิดีโอ Portrait ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง AI Mixed Portrait. AI Hilight Video, AI Color Portrait รวมไปถึง Dual-view Video และ Soloop Template ที่ช่วยให้ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายวิดีโอสามารถถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตประจำวันได้อย่างสนุก มีสีสัน และง่ายดายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่สวยสะดุดตากับเทคโนโลยีล่าสุด Diamond Spectrum Process ทำให้ฝาหลังของตัวเครื่องสีเงิน Fantasy Silver ของ OPPO Reno5 และ สีเงิน Galactic Silver ของ OPPO Reno5 5G สามารถสะท้อนเฉดสีได้นับพันในเครื่องเดียวเมื่อมองจากมุมหรือในสภาพแสงที่ต่างกัน และยังไม่เกิดรอยนิ้วมือได้ง่ายเพราะเคลือบผิวฝาหลังแบบด้านด้วยเทคนิค Reno Glow
ส่วนด้านประสิทธิภาพก็จัดเต็ม โดย OPPO Reno5 ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 720G พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว 50W Flash Charge ส่วน OPPO Reno5 5G ใข้ชิปเซ็ท Snapdragon 765G พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 และทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11.1 ใหม่ล่าสุด ที่มีความลื่นไหลในการใข้งาน รวมถึงมอบความเป็นส่วนตัวในการใช้งานที่ปลอดภัยอีกด้วย

นับว่า OPPO Reno5 Series 5G นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายวิดีโอ Portrait ได้สวยที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ โดย OPPO Reno5 ราคา 10,990 บาท มี 2 สี ได้แก่ สีเงิน Fantasy Silver และสีดำ Starry Black ส่วน OPPO Reno5 5G ราคา 13,990 บาท มี 2 สีเช่นเดียวกัน คือ สีเงิน Galactic Silver และสีดำ Starry Black จองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์ พร้อมรับโปรโมชั่นและของสมนาคุณจัดเต็ม
- สำหรับผู้ที่จอง OPPO Reno5 รับฟรี Smart Scale และ OPPO E-VIP Card มูลค่ารวม 6,299 บาท
- สำหรับผู้ที่จอง OPPO Reno5 5G รับฟรี Smart Scale, Bluetooth Speaker และ OPPO E-VIP Card มูลค่ารวม 8,398 บาท

เป็นเจ้าของ OPPO Reno5 Series 5G ได้ง่ายขึ้นเมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย โดยสามารถเป็นเจ้าของ OPPO Reno5 ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,490 บาท และเป็นเจ้าของ OPPO Reno5 5G ในราคาเริ่มต้น 5,490 บาท ระหว่างวันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์นี้ เท่านั้น
โดย OPPO Reno5 Series 5G จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/oppothai/