คลังเก็บ

รีวิว OPPO Reno10 5G และ Reno10 Pro 5G ครั้งแรกกับสมาร์ตโฟนระดับกลาง ที่มาพร้อม Telephoto Portrait Camera ใกล้กว่า โดดเด่นกว่า

ประสิทธิภาพ

ด้านประสิทธิภาพของ OPPO Reno10 5G ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 7050 5G Mobile Platform (6nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Arm Mali-G68 MC4 GPU จับคู่กับ RAM 8GB และหน่วยความจำภายนอกแบบ 256GB แบบ UFS 2.2 เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 2TB ทำให้ OPPO Reno10 5G มีทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อมอบประสิทธิภาพที่มั่นคงพร้อมประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น

OPPO Reno10 5G มาพร้อมกับ RAM ขนาดใหญ่ 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB เพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลผ่านช่องเสียบการ์ด microSD รองรับสูงสุด 2TB ด้วยการเปิดใช้งานโหมด RAM Expansion OPPO Reno10 5G ยังสามารถแปลงพื้นที่เก็บข้อมูล ROM ที่ไม่ได้ใช้สูงสุด 8GB เป็น RAM ชั่วคราวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโทรศัพท์ได้อีกด้วย

รวมทั้งยังได้รับการทดสอบอย่างเข้มงวดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบ 48-Month Fluency Protection อีกด้วย ให้คุณมั่นใจได้ถึงประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลยาวนาน

ด้วยลำโพงสเตอริโอคู่ใหม่และโหมด Ultra Volume ทำให้ OPPO Reno10 5G สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำได้อย่างเต็มที่เช่นกัน ลำโพงสเตอริโอคู่ให้เสียงสเตอริโอคุณภาพสูงที่ได้รับการพัฒนาด้วยอัลกอริธึมที่ปรับแต่งโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การลดเสียงรบกวนและการลดเสียงสะท้อน เพื่อขับเสียงออกจากลำโพงได้มากขึ้น

โหมด Ultra Volume จะเพิ่มความชัดเจนของเสียงแหลมสูงโดยไม่ทำให้เสียงผิดเพี้ยน โดยสามารถเพิ่มระดับเสียงได้ถึง 200% เมื่อใช้หูฟังหรือลำโพงโดยไม่ทำให้คุณภาพเสียงลดลง

ไม่ว่าคุณจะเล่นเกมหรือดูวิดีโอ คุณก็จะดื่มด่ำกับแอ็คชั่นอย่างเต็มที่ด้วยประสบการณ์เสียงที่น่าทึ่งบน OPPO Reno10 5G

ส่วน OPPO Reno10 Pro 5G ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm ® Snapdragon™ 778G 5G Mobile Platform (6nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 642L GPU, RAM 12GB และหน่วยความจำภายนอกแบบ 256GB แบบ UFS 2.2 ไม่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้

ระบบ Ultra-Conductive Cooling

OPPO Reno10 Pro 5G ยังมาพร้อม VC liquid cooling area ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่พิเศษที่ช่วยให้ OPPO Reno10 Pro 5G เย็นลง ให้คุณเพลิดเพลินไปกับเกมที่โหลดหนักๆ ได้โดยไม่ทำให้เครื่องเสียประสิทธิภาพ

Dynamic Computing Engine

ในด้านระบบ OPPO Reno10 Pro 5G รวม OPPO และ Dynamic Computing Engine ที่พัฒนาร่วมกันของ Google เพื่อสร้างระบบการจัดการหน่วยความจำ Android ขึ้นใหม่อย่างละเอียดถี่ถ้วนที่สุด

ด้วย Dynamic Computing Engine ความเร็วในการเข้าถึงหน่วยความจำบน OPPO Reno10 Pro 5G สามารถปรับแบบไดนามิกได้สูงสุด 16 เท่าของความจุก่อนหน้านี้สามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้น และทำให้โทรศัพท์สามารถใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องโหลดหนักได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ด้วยการตั้งเวลาและการจัดสรรทรัพยากรหน่วยความจำใหม่ จึงสามารถทeให้รองรับแอปทำงานพร้อมกันได้สูงสุด 44 แอป

RAM Expansion

OPPO Reno10 Pro 5G มาพร้อมเทคโนโลยี RAM Expansion ซึ่งสามารถแปลงพื้นที่ ROM ที่ไม่ได้ใช้เป็นการชั่วคราวเป็น RAM เพิ่มเติมได้มากถึง 8GB มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลอย่างต่อเนื่องแม้ใช้งานหนัก

OPPO Reno10 Pro 5G ยังได้รับคะแนน A ใน 48-Month Fluency Certification ของ TÜV SÜD ด้วยคะแนน A ทำให้ OPPO Reno10 Pro 5G เป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดในตลาดในแง่ของความลื่นไหลในระยะยาว มอบประสิทธิภาพอันทรงพลังที่ความคล่องแคล่วสูงสุดนานถึง 4 ปี

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ ตั้งค่าเลือกเฟรมเรทสูงสุด

โดย OPPO Reno10 5G ใช้ชิปเซ็ท Dimensity 7050 ที่ CPU ทำความเร็วได้สูงถึง 2.6GHz ด้วยกระบวนการ 6 นาโนเมตรของ TSMC ช่วยเรื่องการใช้งานแอป เล่นเกมไม่กระตุก จึงทำให้การเล่นเกมที่มีกราฟิกหนักๆ ลื่นไหล ไม่มีสะดุด

ส่วน OPPO Reno10 Pro 5G ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 778G ที่มาพร้อมคุณสมบัติเด่น ๆ เลยคือ Qualcomm Snapdragon Elite Gaming ช่วยให้สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลขึ้น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก แต่ถ้าเล่นไปสักพักตัวเครื่องจะร้อนเร็วกว่าปกติ

แบตเตอรี่

OPPO Reno10 5G มาพร้อม Battery Health Engine เอกสิทธิ์เฉพาะของ OPPO มอบอายุการใช้งานที่มี
ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ของ OPPO Reno10 5G ทำให้สามารถขยายได้ถึง 1,600 รอบการชาร์จและคายประจุ ทำให้แบตเตอรี่ของคุณอยู่ในสภาพดีเพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้นโดยไม่ต้องกังวล

รองรับการชาร์จไว 67W SUPERVOOC สามารถชาร์จได้เต็มใน 47 นาที หรือแม้ในช่วงที่คุณเร่งรีบ แค่ 30 นาทีก็สามารถชาร์จได้ถึง 70% รวมทั้งมีอัลกอริธึม Freeze Protection ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องแบตเตอรี่ในสภาวะที่เย็นจัด ทำให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การชาร์จที่สม่ำเสมอในสภาพแวดล้อมตั้งแต่ -20°C ถึง 35°C ด้วยเหตุนี้ OPPO Reno10 5G จึงมอบการชาร์จที่ปลอดภัยเหมาะสำหรับทุกสถานการณ์ แม้ในสถานการณ์ที่มีความสุดขีด

ส่วน OPPO Reno10 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,600mAh ด้วยการสนับสนุนจาก Battery Health Engine เอกสิทธิ์เฉพาะของ OPPO ทำให้อายุการใช้งานที่มีประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ สามารถขยายได้ถึง 1,600รอบการชาร์จและคายประจุ ทำให้แบตเตอรี่ของคุณอยู่ในสภาพดีประมาณสี่ปี

รองรับเทคโนโลยีการชาร์จไว 80W SUPERVOOC สามารถชาร์จเต็มในเวลาเพียง 28 นาที แม้ว่าคุณจะมีเวลาน้อย เวลาเพียง 10 นาทีสามารถชาร์จได้ถึง 48% รวมทั้งมาพร้อมชิปการจัดการพลังงานที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท SUPERVOOC S ใน Reno series เป็นครั้งแรก

โดย SUPERVOOC S มาพร้อมการรวมหกฟังก์ชัน ได้แก่ การชาร์จ การคายประจุ การถอดรหัส การรีเซ็ต การป้องกันแบตเตอรี่ และเบรกเกอร์ไว้ในชิปตัวเดียว เป็นสถาปัตยกรรมที่ช่วยลดพื้นที่ใช้สอยของส่วนประกอบในการชาร์จได้รวดเร็วถึง 45% ในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพการคายประจุแบตเตอรี่เป็น 99.5%

บทสรุป

OPPO Reno10 Series 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่สานต่อพลังแห่ง “The Portrait Expert” มอบประสบการณ์ใหม่ในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในกลุ่มสมาร์ตโฟนระดับกลาง ด้วยกล้อง 32MP Telephoto Portrait Camera ที่ติดตั้งไว้ในสมาร์ตโฟนระดับกลางเป็นครั้งแรกโดยทั้ง OPPO Reno10 5G และ OPPO Reno10 Pro 5G สามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบซูมออปติคอลได้ 2x

นอกจากนี้ยังพร้อมดีไซน์ใหม่ที่สวยงามพรีเมียมแบบ 3D Dual Curved ส่วนขอบโค้งมนทั้งหน้าจอและฝาหลัง ให้ประสบการณ์แบบเดียวกับสมาร์ตโฟนเรือธง ตอบสนองความบันเทิงด้วยจอแสดงผล AMOLED ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรขสูงสุด 120Hz มอบประสบการณ์การรับชมภาพที่ลื่นไหลในสีสันสดใสและมีรายละเอียดที่คมชัดสำหรับทุกความบันเทิง

และอัดแน่นด้วยฟีเจอร์และความสามารถรอบด้าน โดย OPPO Reno10 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh มาพร้อมระบบชาร์จไว 67W SUPERVOOC ขณะที่ OPPO Reno10 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,600mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 80W SuperVOOC และใช้ชิปการจัดการพลังงานเอกสิทธิ์ของบริษัท SUPERVOOC S ที่ใช้ในสมาร์ตโฟนตระกูล Reno Series เป็นครั้งแรกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่อย่างเหนือระดับ

ทั้งนี้ OPPO Reno10 5G ราคา 13,990 บาท, OPPO Reno10 Pro 5G ราคา 17,990 บาท และ OPPO Reno10 Pro+ 5ราคา 27,990 บาท จับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พิเศษสุด! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ OPPO Reno10 Series 5G ล่วงหน้าระหว่างวันนี้ – 26 กรกฎาคม 2566 รับฟรีทันทีของสมนาคุณรวมมูลค่าสูงสุด 12,698 บาท ประกอบไปด้วย

●  Camping Chair มูลค่า 1,499 บาท

●  OPPO E-VIP Card มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท

●  OPPO Band มูลค่า 1,199 บาท

และเป็นเจ้าของ OPPO Reno10 Series 5G ได้ง่ายขึ้นเมื่อซื้อกับผู้ให้บริการเครือข่ายรับส่วนลดสูงสุด 8,100 บาท โดย OPPO Reno10 Series 5G จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมกันวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.facebook.com/oppothai/

#15thAnniversaryofOPPOThailand #OPPOReno10Series5G_th #ThePortraitExpert