รีวิว OPPO Reno10 5G และ Reno10 Pro 5G ครั้งแรกกับสมาร์ตโฟนระดับกลาง ที่มาพร้อม Telephoto Portrait Camera ใกล้กว่า โดดเด่นกว่า

ด้านการถ่ายภาพ

32MP Telephoto Portrait Camera

OPPO Reno10 5G และ OPPO Reno10 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนราคาระดับกลางรุ่นแรกตระกูล Reno Series ที่มาพร้อมกับ Telephoto Portrait Camera ที่ทำให้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบซูมออปติคอลได้ 2 เท่า และยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ RGBW IMX709 ขนาดใหญ่ และความละเอียดสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ตโฟนกลุ่มราคานี้ มอบการถ่ายภาพพอร์ตเทรตสวย ใบหน้าเป็นธรรมชาติ ทำให้คนโดดเด่นมีมิติใกล้กับวิว คมชัด เก็บทุกรายละเอียดได้ชัดเจน

ด้วยอาร์เรย์พิกเซล RGBW ทำให้การรับแสงโดยรวมเพิ่มขึ้น 60% และ noise ของภาพลดลง 35% เมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์ RGGB ทั่วไป การรับแสงที่ได้รับการพัฒนานี้ทำให้คุณภาพของภาพในกล้อง 32MP Telephoto Portrait Camera ง่ายต่อการจับภาพข้อมูลภาพมากขึ้น ไม่ว่าอยู่ในสภาพแสงใด ก็สามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่คมชัด

ใกล้ไปอีกขั้นด้วย Focal Lengths ภาพพอร์ตเทรตระดับมือโปร

กล้อง IMX709 2X Telephoto มาพร้อมเลนส์ซูมออปติคอล 2 เท่าที่ได้รับการอัปเกรดใหม่พร้อม Focal Lengths ทางยาวโฟกัส 47 มม. ทำให้กล้องนี้มีระยะเทียบเคียงกับมาตรฐานภาพพอร์ตเทรตคลาสสิก 50 มม. ซึ่งหมายความว่าภาพที่ถ่ายด้วยกล้อง 32MP Telephoto Portrait Camera จะดูราวกับเป็นภาพถ่ายจากมืออาชีพ

โดย Focal Lengths ทางยาวโฟกัส Telephoto ยังบีบอัดผู้คนและพื้นที่ภายในภาพเพื่อทำให้ตัวแบบของภาพพอร์ตเทรตดูโดดเด่นราวกับถ่ายด้วยมือโปร เลนส์ยังใช้กระบวนการเคลือบแบบหมุนวน BG เพื่อสร้าง infrared light-absorbing film ที่ช่วยลดแสงสะท้อนที่ปกคลุมและเพิ่มความบริสุทธิ์ของภาพ

ถ่ายพอร์ตเทรตสวยด้วย Bokeh Flare

ด้วยโหมดพอร์ตเทรตบน OPPO Reno10 5G และ Reno10 Pro 5G ให้คุณสามารถเปลี่ยนรูรับแสงเป็นค่าใดก็ได้ระหว่าง F1.4 ถึง F16 และปรับเอฟเฟ็กต์ภาพพอร์ตเทรต เช่น โบเก้ในส่วนโฟร์กราวด์ โบเก้แฟลร์
และการแมชต์ภาพที่เป็นธรรมชาติ มอบภาพสวยเท่ากับเอฟเฟ็กต์ภาพพอร์ตเทรตที่มีคุณภาพ ขอบ
ที่คมชัด และโทนสีผิวที่สมจริง

ภาพถ่ายกลางคืนที่น่าทึ่งด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว

การถ่ายภาพกลางคืนมักเป็นเรื่องที่ท้าทายเสมอเมื่อถ่ายภาพพอร์ตเทรตในโดเมน RAW แต่ด้วยเซ็นเซอร์กล้องระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมของ OPPO Reno10 Pro 5G และอัลกอริธึมการประมวลผลที่ได้รับการอัปเกรดอย่างสมบูรณ์ แต่ละเฟรมที่กล้องจับได้จะได้รับการประมวลผลโดยใช้ AI Denoise, AI Demosaic, Deep Pixel Fusion และกระบวนการอื่นๆ ในโดเมน RAW ซึ่งช่วยพัฒนาความคมชัดของภาพถ่ายอย่างมากและคืนค่าความสัมพันธ์ของแสงและเงาในระดับสูงสุดให้คุณสามารถถ่ายภาพกลางคืนได้ทุกช่วงด้วยรายละเอียดที่ครบถ้วนและคมชัด

OPPO Reno10 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวประกอบด้วย

กล้องหลัก Ultra-Clear ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OmniVision OV64B, รูรับแสง f/1.7, 25mm (wide), 1/2″, 0.7µm และระบบ PDAF
กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto Portrait เซ็นเซอร์ Sony IMX709 RGBW ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 47mm, 1/2.74″, 0.8µm, ระบบ CDAF, PDAF และซูมออปติคอล 2 เท่า และซุมดิจิทัล 20 เท่า
กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide Angel เซ็นเซอร์ Sony IMX355 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา

OPPO Reno10 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวประกอบด้วย

กล้องหลัก Ultra-Clear ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX890, รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.56″, มีพิกเซลขนาด 2.0μm แบบ 4-in-1, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น OIS
กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto Portrait เซ็นเซอร์ Sony IMX709 RGBW ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 47mm, 1/2.74″, 0.8µm, ระบบ CDAF, PDAF และซูมออปติคอล 2 เท่า และซุมดิจิทัล 20 เท่า
กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide Angel เซ็นเซอร์ Sony IMX355 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา

สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portraits, โหมดวิดีโอ, โหมดกลางคืน รวมถึงโหมด Pro, โหมด HD พิเศษ (Reno10 5G : 64MP/Reno10 Pro 5G : 50MP), โหมด Panorama, โหมด Slomotion, โหมด Time-Lapse, โหมดวิดีโอมุมมองคู่, โหมดสติ๊กเกอร์ และโหมดระบบสแกนข้อความ

โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 9248 x 6936 พิกเซล (Reno10 5G) และ 8192 x 6144 พิกเซล (Reno10 Pro 5G) ส่วนวิดีโอรองรับระบบกันสั่น OIS และบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K@30fps

และด้านบนมีแถบเมนูเปิด/ปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, ตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ, เลือกอัตราส่วนภาพ, เปิด/ปิดโหมด HD พิเศษ, เปิดปิดโหมด HDR อัตโนมัติ และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ