เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ OPPO Reno10 Series 5G โดยเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ตระกูล Reno Series ที่สานต่อประสบการณ์ The Portrait Expert มอบการถ่ายพอร์ตเทรตระดับโปร ซึ่งครั้งนี้มาพร้อมประสบการณ์การถ่ายพอร์ตเทรตที่ใกล้กว่า โดดเด่นกว่าที่เคย
ด้วยการมาพร้อมกล้อง Telephoto Portrait Camera เป็นครั้งแรกในสมาร์ตโฟนราคาระดับกลาง มอบการถ่ายภาพพอร์ตเทรตซูมได้ พร้อมด้วยประสิทธิภาพทรงพลังรอบด้าน ให้คุณสร้างสรรค์และถ่ายภาพได้ในระดับมือโปร
นอกจากกล้องที่ก้าวไปอีกขั้นแล้ว ยังโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ใหม่ ระดับพรีเมี่ยม ด้วยตัวเครื่องบางเฉียบพร้อมดีไซน์ 3D Dual Curved และหน้าจอ 3D Curved ที่มีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 80W SUPERVOOC
ซึ่งรุ่นที่ทางทีม MobileOcta ได้มารีวิวคือ OPPO Reno10 5G และ OPPO Reno10 Pro 5G เชื่อว่าหลายคนอยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่ากล้องของ OPPO Reno10 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นจะถ่ายพอร์ตเทรตด้วยกล้อง Telephoto Portrait Camera สวยแค่ไหน และการใช้งานอื่นๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปติดตามรีวิวกันเลยครับ
สเปกเบื้องต้น OPPO Reno10 5G
ขนาด | 162.29 × 74.05 × 7.99 มม. |
น้ำหนัก | 185 กรัม |
หน้าจอ | AMOLED 3D Curved Screen ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล (394ppi) ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20.1:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 240Hz และความสว่าง 500nits, 800nits (Outdoor) และ 950nits (HDR). 1 พันล้านสี, รองรับ HDR 10+, ขอบเขตสี 100% DCI-P3. การหรี่แสง 2160Hz PWM และครอบทับด้วยกระจกกันรอย AG C Dragontrail™ Star 2 |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 7050 5G Mobile Platform (6nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Arm Mali-G68 MC4 GPU |
RAM | 8GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB แบบ UFS 2.2 |
microSD Card | สูงสุด 2TB |
ระบบปฏิบัติการ | ColorOS 13.1 based on Android 13 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct Bluetooth 5.3, A2DP, LE, aptX HD GPS,GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS NFC พอร์ตอินฟราเรด พอร์ต USB Type-C, OTG |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OmniVision OV64B, รูรับแสง f/1.7, 25mm (wide), 1/2″, 0.7µm และระบบ PDAF – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto เซ็นเซอร์ Sony IMX709 RGBW ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 47mm, 1/2.74″, 0.8µm, ระบบ CDAF, PDAF และซูมออปติคอล 2 เท่า และซุมดิจิทัล 20 เท่า – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide เซ็นเซอร์ Sony IMX355 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OmniVision OV32C, รูรับแสง f/2.4. 22mm (wide), 1/2.74″, 0.8µm |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม GSM: 850/900/1800/1900MHz WCDMA: Bands 1/2/4/5/6/8/19 LTE FDD: Bands 1/2/3/4/5/7/8/12/13/17/18/19/20/26/28A/28B/66 LTE TDD: Bands 38/39/40/41 5G NR: n1/n3/n5/n7/n8/n20/n28A/n28B/n66/n38/n40/n41/n77/n78 |
แบตเตอรี่ | 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC |
สี | Silvery Grey และ Ice Blue |
ราคา | 13,990 บาท |
สเปกเบื้องต้น OPPO Reno10 Pro 5G
ขนาด | 1162.3 × 74.2 × 7.89 มม. |
น้ำหนัก | 185 กรัม |
หน้าจอ | OLED 3D Curved Screen ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล (394ppi) ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20.1:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 240Hz และความสว่าง 500nits, 800nits (Outdoor) และ 950nits (HDR). 1 พันล้านสี, รองรับ HDR 10+, ขอบเขตสี 100% DCI-P3. การหรี่แสง 2160Hz PWM และครอบทับด้วยกระจกกันรอย AG C Dragontrail™ Star 2 |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm ® Snapdragon™ 778G 5G Mobile Platform (6nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 642L GPU |
RAM | 12GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB แแบบ UFS 2.2 |
microSD Card | – |
ระบบปฏิบัติการ | ColorOS 13.1 based on Android 13 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct Bluetooth 5.2, A2DP, LE, aptX HD GPS,GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS NFC พอร์ตอินฟราเรด พอร์ต USB Type-C, OTG |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX890, รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.56″, มีพิกเซลขนาด 2.0μm แบบ 4-in-1, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น OIS – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto เซ็นเซอร์ Sony IMX709 RGBW ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 47mm, 1/2.74″, 0.8µm, ระบบ CDAF, PDAF และซูมออปติคอล 2 เท่า และซุมดิจิทัล 20 เท่า – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide เซ็นเซอร์ Sony IMX355 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX709, รูรับแสง f/2.4. 22mm (wide), 1/2.74″, 0.8µm |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม GSM: 850/900/1800/1900MHz WCDMA: Bands 1/2/4/5/6/8/19 LTE FDD: Bands 1/2/3/4/5/7/8/12/17/18/19/20/26/28/66 LTE TDD: Bands 38/39/40/41 5G NR: n1/n2/n3/n5/n7/n8/n12/n20/n28/n38/n40/n41/n77/n78 |
แบตเตอรี่ | 4,600mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 80W SuperVOOC |
สี | Silvery Grey และ Glossy Purple |
ราคา | 17,990 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ OPPO Reno10 5G และ OPPO Reno10 Pro 5G เป็นกล่องกระดาษแข็งในโทนสีขาวตัดกับเฉดสีแบบไล่สี ด้านหน้ากล่องมีเลข 10 ขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน โดยด้านบนระบุชื่อรุ่น และด้านล่างมีโลโก้ OPPO
ด้านหลังกล่องมาพร้อมรหัสรุ่น, หน่วยความจำ, สีตัวเครื่อง, เลขอีมี่, ข้อมูลเครือข่ายที่รองรับ และข้อมูลเกี่ยวกับผู้ผลิต รวมไปถึงสัญลักษณ์จากหลายหน่วยงาน ที่ให้การรับรองมาตรฐานต่างๆ
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- ตัวเครื่อง OPPO Reno10 5G. OPPO Reno10 Pro 5G พร้อมติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC (OPPO Reno10 5G), 80W SuperVOOC (OPPO Reno10 Pro 5G)
- สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
- เคสพลาสติกใส
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, เอกสารความปลอดภัย และบัตรรับประกัน
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC ที่มีมาให้ในกล่อง OPPO Reno10 5G
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 80W SuperVOOC ที่มีมาให้ในกล่อง OPPO Reno10 Pro 5G
รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ
เริ่มจาก OPPO Reno10 5G มีดีไซน์สวยงาม และทันสมัย ตัวเครื่องบางเฉียบพร้อมดีไซน์ 3D Dual – Curved ด้วยน้ำหนักประมาณ 185 กรัม ความหนาประมาณ 7.99 มม. ทำให้ OPPO Reno10 5G มีน้ำหนักเบาและถือได้ง่ายด้วยการออกแบบตัวเครื่องที่บางเป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น OPPO Reno10 5G ยัง
มาพร้อมดีไซน์ 3D Curved และหน้าจอด้านหน้าโค้ง 56° และฝาหลังแบบ 3D ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้โทรศัพท์ดูบางลงเท่านั้น แต่ยังทำให้ถือได้สบายมืออีกด้วย
OPPO Reno10 5G มาพร้อม 2 สีใหม่สุดสะดุดตา ได้แก่ สีฟ้า Ice Blue และ สีเทา Silvery Grey พื้นผิวทั้งสองแบบนี้ใช้กระบวนการ OPPO Glow อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้โทรศัพท์มีรูปลักษณ์และสัมผัสที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อน
โดยสีฟ้า Ice Blue ใช้กระบวนการ OPPO Glow เพื่อมอบเส้นแสงคล้ายแสงตะวันที่ส่องผ่านน้ำแข็งสีน้ำเงินที่ทำให้เส้นสีมีชีวิตชีวา ในครั้งนี้ การจัดเรียงโครงสร้างคริสตัลระดับจุลภาคที่สม่ำเสมอมากขึ้นและเอฟเฟ็กต์ด้านที่ละเอียดยิ่งขึ้นถูกนำมาใช้เพื่อสร้างรูปลักษณ์และพื้นผิวที่นุ่มนวลขึ้น
นอกจากนี้ สี Silvery Grey ยังสร้างขึ้นจากกระบวนการ OPPO Glow โดยใช้โครงสร้างผลึกขนาดเล็กเป็นสี
ซ้อนทับสำหรับสีฐานสีเทาเพื่อสร้างพื้นผิวโลหะที่สงบและผ่อนคลาย
ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอ AMOLED 3D Curved 6.7 นิ้ว โดยได้รับการชุบด้วยกระจกครอบ AGC Dragontrail™ Star 2 เพื่อให้ต้านทานการตกได้ดีขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับ Corning® Gorilla® Glass 5
ด้วยขอบด้านซ้ายและขวาที่เล็กเพียง 1.57 มม. และขอบจอด้านล่างที่บางเพียง 2.32 มม. ทำให้ OPPO Reno10 5G มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 93% เพื่อประสบการณ์รับชมไร้ขอบและดื่มด่ำระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม
นอกจากนี้หน้าจอของ OPPO Reno10 5G ยังมีอัตราการรีเฟรชสูงพิเศษ 120Hz มอบประสบการณ์การรับชมภาพที่ลื่นไหลกว่ามากเมื่อเทียบกับหน้าจอที่มีอัตราการรีเฟรช 60Hz หรือ 90Hz โดยหน้าจอความละเอียดสูง 2412×1080 ยังสามารถแสดงสีต่างๆ ได้ถึง 1 พันล้านสีที่ความสว่าง HDR 950 nits มอบการเปลี่ยนสีที่สดใสและมีรายละเอียดคมชัด
พลิกมาด้านหลังเครื่อง การจัดวางกล้องที่เชื่อมต่อกันของ OPPO Reno10 5G มีการออกแบบสองส่วนที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ครึ่งบนเป็นโลหะลาย CD ภายในบรรจุกล้องหลักและโมดูลแฟลช ครึ่งล่างซึ่งทำจากวัสดุกระจกสีดำ มีกล้อง 32MP Telephoto Portrait Camera และกล้อง Ultra-Wide-Angle Camera สีทูโทนที่ตัดกันและวัสดุที่ผสมผสานกันกับกล้องช่วยเพิ่มความรู้สึกระดับพรีเมียมของ OPPO Reno10 5G
โดยกล้อง 3 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OmniVision OV64B, รูรับแสง f/1.7, 25mm (wide), 1/2″, 0.7µm และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto เซ็นเซอร์ Sony IMX709 RGBW ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 47mm, 1/2.74″, 0.8µm, ระบบ CDAF, PDAF และซูมออปติคอล 2 เท่า และซุมดิจิทัล 20 เท่า
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide เซ็นเซอร์ Sony IMX355 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
ส่วนด้านซ้ายข้างเครื่องออกแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกด หรือช่องใดๆ
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง
ด้านบนเครื่องมีช่องไมโครโฟนตัดเสียง, พอร์ตอินฟราเรด และช่องลำโพงเสียง
ด้านท้ายเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ด, ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
โดยช่องใส่ SIM Card เป็นแบบ Hybrid Slot รองรับ SIM Card แบบ nanoSIM Card โดยช่องแรกใส่ SIM 1 และอีกช่องใส่ SIM 2 หรือการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card รองรับสูงสุด 2TB
ขณะที่ OPPO Reno10 Pro 5G มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ที่หรูหราและบางเฉียบ ต่อยอดดีไซน์น้ำหนักเบาและบางเฉียบของ OPPO Reno series ด้วยตัวเครื่องที่มีน้ำหนักเพียง 185 กรัม และหนาเพียง 7.89 มม. แม้จะมีฮาร์ดแวร์ด้านการถ่ายภาพและการประมวลผลที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเข้าไป ยิ่งไปกว่านั้น OPPO Reno10 Pro 5G ยังมาพร้อมดีไซน์ 3D Curved พร้อมหน้าจอด้านหน้าโค้ง 56° และฝาหลัง 3D ที่ไม่เพียงทำให้โทรศัพท์ดูบางลงเท่านั้น แต่ยังทำให้ถือได้ถนัดมืออีกด้วย
OPPO Reno10 Pro 5G มาใน 2 สีใหม่ ได้แก่ สีม่วง Glossy Purple และสีเทา Silvery Grey โดยแต่ละสีมาพร้อมพื้นผิวที่โดดเด่นซึ่งทำให้โทรศัพท์มีเสน่ห์ระดับไฮเอนด์
โดยสีม่วง Glossy Purple เป็นสีใหม่ระดับพรีเมียมสำหรับ Reno series ที่สร้างจากโทนสีม่วงเมทัลลิคหรูหรา
ส่วนสีเทา Silvery Grey ใช้กระบวนการ OPPO Glow เพื่อสร้างสัมผัสที่เรียบหรู ซึ่งเผยให้เห็นความลึกของสีใหม่เมื่อเปิดโทรศัพท์ในที่มีแสง มีการใช้การแรเงารูปแบบ CD บนฝาหลังทั้งหมดเพื่อสร้างพื้นผิวคล้ายลำแสงเลเซอร์ที่แผ่ออกมาจากกล้องหลัก
ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอ OLED 3D Curved ขนาด 6.7 นิ้ว ซึ่งได้รับการชุบด้วยกระจกครอบ AGC Dragontrail Star 2 เพื่อให้ทนการตกได้ดีขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับกระจก Corning® Gorilla® Glass 5
ด้วยขอบข้างทั้งสองด้านที่เล็กเพียง 1.57 มม. และบางเฉียบ OPPO Reno10 Pro 5G มีขอบที่บางกว่า 2.32 มม. มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 93%เพื่อประสบการณ์การใช้งานไร้ขอบและดื่มด่ำเต็มอรรถรสระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม
จอแสดงผลยังมีอัตราการรีเฟรชสูงพิเศษ 120Hz ที่ปรับได้เป็น 60Hz, 90Hz หรือ 120Hz คุณจึงสามารถหาสมดุลที่ดีที่สุดระหว่างภาพที่ลื่นไหลและการใช้พลังงานเพื่อให้เหมาะกับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น หน้าจอความละเอียดสูง 2412 X 1080 ยังสามารถแสดงสีต่างๆ ได้ถึง 1 พันล้านสีที่ความสว่าง HDR 950 นิต มอบการเปลี่ยนสีที่สดใสและเต็มไปด้วยรายละเอียด
พลิกมาด้านหลังเครื่อง OPPO Reno10 Pro 5G มาพร้อมการออกแบบโมดูลกล้องหลังแบบทูโทนที่สดใหม่ ในครึ่งบนของโมดูลกล้องซึ่งทำมาจากวัสดุโลหะลาย CD จะประกอบไปด้วยกล้อง 50MP Ultra-Clear Main Camera และในครึ่งล่างของโมดูลกล้องซึ่งทำมาจากวัสดุกระจกสีดำจะประกอบไปด้วยกล้อง 32MP Telephoto Portrait Camera และกล้อง Ultra-Wide-Angle Camera มอบการออกแบบระดับพรีเมียมให้แก่โทรศัพท์ นอกจากนี้พื้นผิวคล้ายลำแสงเลเซอร์ล้อมรอบกล้อง 50MP Ultra-Clear Main Camera ยังทำให้ดูโดดเด่นและทรงพลังอีกด้วย
โดยกล้อง 3 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX890, รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.56″, มีพิกเซลขนาด 2.0μm แบบ 4-in-1, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto เซ็นเซอร์ Sony IMX709 RGBW ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 47mm, 1/2.74″, 0.8µm, ระบบ CDAF, PDAF และซูมออปติคอล 2 เท่า และซุมดิจิทัล 20 เท่า
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide เซ็นเซอร์ Sony IMX355 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
ด้านซ้ายข้างเครื่องออกแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกด หรือช่องใดๆ
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง
ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง และพอร์ตอินฟราเรด
ด้านท้ายเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ด, ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
โดยช่องใส่ SIM Card ของ OPPO Reno10 Pro 5G จะเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง ไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก