OPPO Enco W31 เป็นหูฟังไร้สาย True Wireless รุ่นที่ 2 ซึ่งต่อยอดจากรุ่นพี่ Enco Free ที่ประสบความสำเร็จไปแล้วก่อนหน้านั้น สำหรับ OPPO Enco W31 ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้รุ่นพี่ ทั้งเรื่องดีไซน์ที่การันตีด้วยรางวัล Platinum Design Award ในหมวดรางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้านดิจิตอลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประจำปี 2562 – 2563 ในการแข่งขันระดับนานาชาติที่งาน A’Design Award & Competition
สำหรับสุ้มเสียงก็ไม่ธรรมดา สามารถตอบโจทย์สายเบสที่ชอบความตึ๊บของย่านเสียงต่ำได้ดีมาก ๆ ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ก็ให้มาแบบจัดเต็ม ส่วนจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาติดตามรับชมรีวิวไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
Unboxing แกะกล่อง
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-2-1024x686.jpg)
ตัวกล่องแพกเกจจิ้งของ OPPO Enco W31 มาในสไตล์เรียบ ๆ โดยใช้โทนสีขาวสะอาดตา สำหรับด้านหน้าโชว์รูปตัวหูฟัง OPPO Enco W31มองเห็นได้อย่างเด่นชัด ส่วนด้านหลังกล่องพิมพ์บอกไฮไลท์ฟีเจอร์และสเปคมาให้อย่างครบถ้วน
![](https://www.ibelieveit.net/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enco-W31-Specifications.png)
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-3-1024x686.jpg)
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-4-1024x686.jpg)
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- หูฟัง OPPO Enco W31
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อและใบรับประกันสินค้า
- สายชาร์จแบบ USB – C
- จุกยางซิลิโคน 2 ขนาด / L – S (ไซส์ M ติดตั้งอยู่ในตัวหูฟัง)
รูปลักษณ์ดีไซน์/การออกแบบ
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-5-1024x686.jpg)
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-6-1024x686.jpg)
ต้องบอกเลยว่าดีไซน์ของ OPPO Enco W31 มีความโดดเด่นมาก ๆ สมกับที่ได้รับรางวัล Platinum Design Award ในหมวดรางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้านดิจิตอลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประจำปี 2562 – 2563 ในการแข่งขันระดับนานาชาติที่งาน A’Design Award & Competition เริ่มจากตัวเคสชาร์จที่ออกแบบในรูปทรงกลม เมื่อมองผ่าน ๆ ให้ฟิลลิ่งประมาณตลับแป้งของสาว ๆ นั่นเอง
สำหรับตัวเคสชาร์จมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักหนักเบา พกพาสะดวก ผลิตจากวัสดุวัสดุอลูมิเนียมผสมโพลีคาร์บอเนตคุณภาพดี ด้านบนตัวกล่องเคสชาร์จจะมีโลโก้แบรนด์ OPPO โดดเด่นสะดุดตา ส่วนด้านหน้ามีการบากตัวกล่องเข้าไปเล็กน้อย เพื่อให้สามารถเปิดใช้งานได้อย่างสะดวกคล่องตัว
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-7-1024x686.jpg)
ด้านหลังจะมีพอร์ต USB – C สำหรับการชาร์จไฟให้กับตัวเคสชาร์จ
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-8-1024x686.jpg)
แง้มกล้องเคสชาร์จออกมาจะพบกับตัวหูฟัง OPPO Enco W31 โดยด้านล่างจะมีไฟแจ้งเตือนสถานะและปุ่ม function button ที่ใช้ในการ Pairnig เพื่อเชื่อมต่อหูฟังกับสมาร์ตโฟนในครั้งแรก
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-9-1024x686.jpg)
ตัวชาร์จจะเป็นแบบ Pogo pin แบบ 2 Dot พร้อมระบบยึดแบบแม่เหล็ก โดยใช้เวลาในการชาร์จทั้งตัวเคสและหูฟังพร้อมกันราว ๆ 1 ชั่วโมง 50 นาที
นอกจากนี้ OPPO Enco W31 มาพร้อมกับชิปที่ช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 15 ชั่วโมงโดยใช้ร่วมกับเคสชาร์จ หรือสามารถรองรับการใช้งาน 3.5 ชั่วโมงโดยไม่ใช้เคสชาร์จ อีกทั้งยังสามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว เพียงชาร์จแค่ 10 นาที จะสามารถเล่นเพลงได้นาน 80 นาที ช่วยให้ฟังการเพลง ดูหนัง เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ตอบโจทย์ทุกการเดินทางได้เป็นอย่างดี
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-10-1024x686.jpg)
ตัวหูฟังมาในรูปทรงแบบมีก้าน ซึ่งจะคล้าย ๆ รุ่นพี่ Enco Free นั่นเอง โดยผู้ใช้งานสามารถคอนโทรลตัวหูฟังผ่านระบบสัมผัสที่ด้านบนของตัวก้านได้ทั้งสองฝั่ง
สำหรับด้านบนของตัวเฮาส์ซิ่งออกแบบได้สวยงาม มีเท็กเจอร์ลาย brush metal และช่องที่เห็นก็คือไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนตัวที่ 2 นั่นเอง
ในส่วนของฟีเจอร์ต้องบอกว่าจัดเต็มมาก ๆ ทั้งกันน้ำกันฝุ่นในมารตฐาน IP54 สามารถใส่ลุยฝนปรอย ๆ ได้สบาย แต่ไม่แนะนำให้เอาไปจุ่มน้ำ เพราะยังไม่รองรับถึงขั้นนั้น สำหรับตัวหูฟัง OPPO Enco W31 มาพร้อมไมโครโฟนคู่และระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ และการเชื่อมต่อแบบลูทูธแบบ binaural ที่เป็นการเชื่อมต่อสัญญาณไปยังหูฟังทั้งสอง ข้างได้พร้อมกันและหากตรวจพบสัญญาณรบกวนจากภายนอกหูฟังจะปรับความหน่วงของเสียงอัตโนมัติเพื่อรักษาความเสถียร ราบลื่นในขณะใช้งาน
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-11-1024x686.jpg)
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-13-1024x686.jpg)
ตัวหูฟังออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ จึงให้การสวมใส่ที่กระชับและรู้สึกเบาสบาย รวมถึง Ear Tips ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสำหรับใบหูที่มีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันออกกันไป อีกทั้งยังสามารถใส่ออกกำลังกายได้ดีอีกด้วย และสิ่งที่ชอบอีกอย่างก็คือ OPPO Enco W31 มาพร้อม IR Sensor หรือตัวเซ็นเซอร์จะตรวจจับการใช้งาน ถ้าเราดึงหูฟังออกจากหู ก็จะหยุดเล่นเพลงทันที และเมื่อสวมใส่กลับเข้าไปก็จะเริ่มเล่นเพลงให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยในด้านการประหยัดพลังได้เป็นอย่างดี
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-12-1024x686.jpg)
ด้านล่างจะมีไมโครโฟนสำหรับการคุยสายสนทนาและไมค์ตัดเสียงรบกวนตัวที่ 1
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-22-1024x686.jpg)
จากการทดสอบใช้งานจริง เมื่อสวมใส่ในขณะออกกำลังกาย ตัวหูฟังมีความกระชับไม่ลื่นหลุดออกมาในขณะวิ่งแต่อย่างใด ซึ่งต้องบอกเลยว่าการออกแบบดีไซน์ของ OPPO Enco W31 นั้นทำออกมาได้ดีมาก ๆ สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม ทั้งการใช้งานทั่ว ๆ ไป เช่นดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม รวมถึงการออกกำลังกายได้ดีอีกด้วย
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-21-1024x686.jpg)
OPPO Enco W31 รองรับการคอนโทรลผ่านระบบสัมผัส ที่ด้านบนของก้านหูฟังทั้งด้านซ้ายและขวา
รับ / วางสาย : แตะ 2 ครั้ง – รองรับทั้งข้างซ้ายและขวา
เล่นเพลงถัดไป : แตะ 2 ครั้งที่หูฟังข้างขวา
หยุดเพลง / เล่นเพลง : ให้ถอดหูฟังออก เพลงจะหยุดเล่น และเมื่อใส่หูฟังกลับเข้าไป เพลงจะกลับมาเล่นอัตโนมัติ (รองรับทั้งข้างซ้ายและขวา)
เปิดใช้งาน Audio Effects : แตะ 2 ครั้งที่หูฟังข้างซ้าย จะเข้าสู่ Bass Mode โดยโหมดนี้จะช่วยให้ย่านเสียงต่ำมีมวลเสียงที่หนักแน่นขึ้น เหมาะกับเพลงจังหวะสนุก ๆ ที่เน้นเสียงเบส และเมื่อแตะอีกสองครั้ง จะสลับมาเป็น Balance Mode ซึ่งเป็นโหมดที่เหมาะกับการฟังเพลงทั่ว ๆ ไป
เรียกใช้งาน ผู้ช่วยอัจฉริยะ Smart Voice Assistant (Google Assistant และ Siri) : แตะ 3 ครั้ง (รองรับทั้งข้างซ้ายและขวา)
ทั้งนี้ OPPO Enco W31 สามารถใช้งานได้ทั้งบนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-14-1024x686.jpg)
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-15-1024x686.jpg)
การเชื่อมต่อ
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/Screenshot_2020-05-10-14-53-16-97-horz-1024x573.jpg)
OPPO Enco W31 รองรับการใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่น ทุกระบบปฏิบัติการ แต่ถ้าเป็นการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน OPPO จะสะดวกง่ายดายมาก เพียงแค่เปิดฝาผับของตัวกล่องเคสชาร์จแล้วนำมาวางใกล้ ๆ กับสมาร์ตโฟน OPPO ที่หน้าจอสมาร์ตโฟนจะแสดง Pop up เพื่อให้ทำการเชื่อมต่อได้ในทันที ตรงนี้สะดวกมากเพราะไม่ต้องเข้าไปกดตั้งค่าให้วุ่นวายในเมนูบลูทูธนั่นเอง แถมยังสามารถอัพเดตเฟิร์มแวร์ตัวหูฟังผ่านทางสมาร์ตโฟน OPPO ได้โดยตรงอีกด้วย
ส่วนถ้าเป็นสมาร์ตโฟนทั่ว ๆ ไป ในการเชื่อมต่อครั้งแรกให้กดที่ปุ่ม function button ที่อยู่ในกล่องเคสชาร์จค้างไว้ 2 วินาที จนไฟแสดงสถานะกระพริบต่อเนื่อง จากนั้นทำการเชื่อมต่อผ่านเมนูการตั้งค่าในสมาร์ตโฟนไปตามปรกติ
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-16-1024x686.jpg)
คาแรคเตอร์เสียง OPPO Enco W31 จะเด่นในเรื่องของเสียงเบส โดยทางค่าย OPPO จูนเสียงมาให้ฟังเพลงแนว ร็อค แจ๊ส ป๊อป ได้สนุกสนานลงตัว แต่ถ้าชอบความละเมียด ละไม การถ่ายทอดเสียงที่ให้รายละเอียดสูง ๆ OPPO Enco Free หรือ OPPO Enco M31 จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ถ้าให้พูดง่าย ๆ แนวเสียงของ OPPO Enco W31 จะมีความเป็นหูฟังโอเวอร์ออล ที่สามารถตอบโจทย์การฟังเพลงแนวทั่วไป ๆ หรือเพลงตลาดแมสได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
สำหรับย่านเสียงต่ำ ทดสอบด้วยเพลง Boom Boom Pow ของ The Black Eyed Peas สัมผัสได้ถึงมวลเบสที่มีพลัง โดยเป็นเบสที่ลงได้ค่อนข้างลึก มีอิมแพคที่ดี เก็บตัวกระชับ เหมาะกับการฟังเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานได้อย่างลงตัว แต่ถ้าเปิดโหมด Bass Mode แล้ว ในความรู้สึกส่วนตัว เสียงเบสจะกระแทกกระทั้นจนล้นไปสักนิด ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบไปกลบดีเทลของย่านเสียงอื่นด้วยเช่นกัน ถ้าให้แนะนำก็คงต้องบอกว่าควรเลือกใช้ Balance Mode แล้วปรับอีควอไลเซอร์ช่วยจะทำให้เกิดความสมดุลที่ดีกว่า
เมื่อลองทดสอบย่านเสียงกลางด้วยเพลง Ready for the Times to get better เวอร์ชั่น Crystal Gayle (Hi-Res Audio) พบว่าเสียงกลางไม่ได้หวานอิ่มแน่น แต่หัวโน๊ตมีความคมชัด โดยเพลงที่เน้น Voice ก็ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง
ส่วนย่านเสียงสูง ทดสอบด้วยเพลง Sweet Talks in The Dream (Hi-Res Audio) ที่ขับร้องโดย Tong Li ในเพลงนี้จะมีทั้งเครื่องสาย และเสียงนักร้องที่มีปลายเสียงสูง พบว่าปลายเสียงสูงไม่ได้พริ้วไหวกังวาลมากนัก แต่ก็ไม่แหลมบาดหู สามารถฟังนาน ๆ ได้โดยไม่รู้สึกล้าหู
สรุปในภาพรวม ด้วยไดร์เวอร์ขนาด 7 มม. จึงมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าจูนเสียงออกมาได้ค่อนข้างดี โดยเสียงเบสมีความโดดเด่น ส่งผลให้ฟังเพลงแนวสนุกสนานและเพลงทั่ว ๆ ไปได้อย่างลงตัว แต่ถ้าชอบฟังเพลงจากไฟล์ Hi-Res Audio และอยากได้รายละเอียดสูง ๆ OPPO Enco Free หรือ OPPO Enco M31 จะตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-17-1024x686.jpg)
ทดสอบการรับชมวีดีโอกันต่อ โดยเลือก Mad Max Fury Road ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล “Best Sound Editing and Best Sound Mixing” ในงาน Academy Award ปี 2016 ในหนังเรื่องนี้จะมีความหลากหลาย ทั้งเสียงเอฟเฟกต์ของปืน, รถยนต์ และมีเพลงประกอบที่เด่นในเรื่องย่านเสียงต่ำอีกด้วย ซึ่ง OPPO Enco W31 สามารถถ่ายทอดพรอ้มแยกมิติเสียงออกมาได้ค่อนข้างดี และด้วยความที่เด่นเรื่องเสียงเบส เมื่อรับชมหนังเรื่องนี้จึงถือว่าตอบโจทย์ได้ลงตัวเลยทีเดียว
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-18-1024x686.jpg)
ส่วนการนำมาใช้งานร่วมกับการเล่นเกม ทดสอบร่วมกับเกม ROV, PUBG, Asphalt 9 (ทดสอบร่วมกับดีไวซ์ที่รองรับ Bluetooth® 5.0 ) พบว่าการถ่ายทอดเสียง เอฟเฟกต์ต่าง ๆ นั้นให้ความสมจริง แยกมิติซ้ายขวาได้ค่อนข้างดี ส่วนเสียงต่าง ๆ ภายในเกมมีความคมชัด ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาภายในเกม เสียงลม เสียงจากการเดิน และไม่พบอาการดีเลย์ให้เห็น ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับ Bluetooth 5.0 ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Binaural Low-latency Bluetooth® Transmission ที่มีความหน่วงต่ำถึง 94ms จึงช่วยให้การใช้งานมีความรวดเร็วและความเสถียรอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ทดสอบการใช้งาน Bluetooth headset
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-20-1024x686.jpg)
OPPO Enco W31 มาพร้อมแฮนด์ฟรีในแบบสเตอริโอ และมีจุดเด่นด้วยไมโครโฟนคู่ “Dual-Microphone Noise Cancellation during Calls” โดยเทคโนโลยี Dual-Microphone Beamforming จะใช้อัลกอริทึมในการตัดเสียงรบกวนแบบอิเล็กทรอนิกส์ มีหลักการทำงานด้วยการแยกเสียงของผู้ใช้งานจากเสียงรบกวนรอบข้าง รวมถึงเสียงอื่น ๆ เพื่อให้เสียงของผู้ใช้งานส่งผ่านไปอีกฝั่งได้อย่างชัดเจนทั้งระหว่างการโทรศัพท์หรือการส่งข้อความเสียง แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
อีกทั้งยังลดเสียงรบกวนรอบข้างด้วย Anti–Wind Noise Chambers ถ้าเราใช้งานที่กลางแจ้งแน่นอนว่าหลีกเลี่ยงเสียงลมไม่ได้อย่างแน่นอน ตัวหูฟัง OPPO Enco W31 จึงมีเชมเบอร์ป้องกันเสียงลม เพื่อไม่ให้เสียงลมรบกวนการในขณะใช้งานโทรศัพท์
สำหรับการทดสอบใช้งานจริง ลองเปิดพัดลมแล้วเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ ปลายสายก็ยังได้ยินสนทนาอย่างชัดเจนและแทบจะไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากพัดลมเลย ก็ถือว่าระบบตัดเสียงรบกวนของ OPPO Enco W31 ทำผลงานได้ดีมาก และสิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคือไม่มีอาการดีเลย์ให้เห็น (ทดสอบร่วมกับสมาร์ทโฟนที่รองรับ Bluetooth® 5.0)
สรุป OPPO Enco W31
![](https://www.mobileocta.com/wp-content/uploads/2020/06/OPPO-Enci-W31-Review-19-1024x686.jpg)
OPPO Enco W31 เป็นหูฟัง True Wireless ในราคาระดับเริ่มต้นที่มีดีไซน์โดดเด่น การันตีด้วยรางวัล Platinum Design Award ในหมวดรางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้านดิจิตอลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประจำปี 2562 – 2563 ในการแข่งขันระดับนานาชาติที่งาน A’Design Award & Competition ส่วนเรื่องสุ้มเสียงนั้น สามารถตอบโจทย์การฟังเพลงแนวสนุกสนานได้เป็นอย่างดี เพราะคาแรคเตอร์เสียงเด่นในเรื่องของเสียงเบสอยู่แล้วนั่นเอง นอกจากนี้ยังมี Bass Mode ที่ช่วยให้ย่านเสียงต่ำมีมวลเสียงที่หนักแน่นขึ้น
ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่แพ่กัน ทั้งการรองรับระบบเสียงคุณภาพสูง ACC จัดเต็มด้วยไมโครโฟนคู่และฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนที่ทำผลงานได้ดี รองรับกันน้ำกันฝุ่นในมาตรฐาน IP54 และการใช้งานที่ยาวนานต่อเนื่องกว่า 3 ชั่วโมง เมื่อรวมกับตัวเคสชาร์จทำให้ใช้งานได้ราว ๆ 14-15 ชั่วโมง ก็ถือว่าเพียงพอใน 1 วัน
สรุปในภาพรวม OPPO Enco W31 เป็นหูฟังที่ดีไซน์สวย สวมใส่สบาย ฟังเพลงได้ทุกแนว แถมราคาค่าตัวที่เคาะออกมาเพียง 1,990 บาท ก็ถือว่าเป็นหูฟัง True Wireless ระดับเริ่มต้นที่น่าจับจองเป็นเจ้าของอยู่ไม่น้อยเลยครับ