เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ OPPO A96 สมาร์ตโฟนน้องใหม่ล่าสุดของซีรีส์ A ที่มาพร้อมสโลแกน “เพิ่มความจุ เติมความจอย” แถมยังพกความโดดเด่นมาแบบรอบด้าน ทั้งในแง่สเปคที่มีการอัปเกรดจากรุ่นพี่ A76 อาทิ ความจุของ ROM/RAM รวมถึงความละเอียดกล้องและฟีเจอร์เด่น ๆ แบบอัดแน่น
เชื่อว่าหลายคนอยากรู้กันแล้วว่า OPPO A96 จะมีฟีเจอร์และความน่าสนใจในภาพรวมเป็น อย่างไรกันบ้าง ไปรับชมรีวิวฉบับเต็มพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
กล่องแพคเกจจิ้งของ OPPO A96 ยังคงมาในโทนสีฟ้าสะอาดตาเหมือนรุ่นพี่ A16k, A76 ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านั้น สำหรับด้านหน้ากล่องจะมีชื่อรุ่น/แบรนด์และอักษร A ซีรีส์ขนาดใหญ่พร้อมกำกับขนาดความจุ ROM/RAM ไว้ที่มุมซ้ายบนของตัวกล่อง
ส่วนด้านหลังจะขับเน้นด้วยไฮไลท์ที่เป็นจุดเด่นของ OPPO A96 ซึ่งประกอบไปด้วย แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใช้งานได้อย่างยาวนาน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 33W SUPERVOOC, หน้าจอแสดงผล Punch-Hole Display รองรับอัตราการรีเฟรช 90Hz และใช้งานได้ลื่นไหลยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยี RAM Expansion (8GB+5GB) ถัดมาจะเป็นในส่วนของรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งชื่อรุ่นและสี, ขนาด ROM/RAM, เลขอีมี่, หมายเลขประจำเครื่องและข้อมูลของผู้ผลิต
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ OUTPUT 5V– 2A or 5-11V 3A MAX
- สายดาต้าลิงค์แบบ Type-C
- Soft Case TPU แบบใส
- อุปกรณ์เปิดถาด SIM Card
- ใบรับประกัน, และคู่มือการใช้งานฉบับย่อ
OPPO A96 โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่บางเบาล้ำสมัยสวยงามในทุกมุมมอง และยังได้ยกระดับของการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นด้วย OPPO Glow Design โดยใช้เทคนิคการเจียระไนเพชรแบบ Reno Glow ที่มอบความโฉบเฉี่ยว แวววาว สะดุดตาน่าสัมผัส อีกทั้งยังช่วยป้องกันรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วน รวมถึงสิ่งสกปรกได้อีกทางหนึ่งด้วย
ตัวฝาหลังจะเป็นแบบ 3D และมีเท็กเจอร์ที่ให้ความระยิบระยับ ซึ่งให้สัมผัสที่ดูหรูหราพรีเมี่ยม อีกทั้งตัวเครื่องยังมีขนาดที่บางเบา พร้อมออกแบบตามหลัก Ergonomics จึงสอดรับเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้ดีเยี่ยม ช่วยให้การจับถือพกพาได้อย่างสะดวกคล่องตัว
OPPO A96 ผ่านกระบวนการผลิตในมาตรฐาน Enduring Quality ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูงสุดของ OPPO โดยผ่านการทดสอบหลัก 6 หมวดหมู่ ได้แก่การทดสอบการตกหล่น การกันน้ำ การแผ่รังสี สภาพแวดล้อม การตกไม่แรง และสัญญาณ กระบวนการปกป้องสิ่งแวดล้อม 5 กระบวนการหลัก การทดสอบความทนทานที่เข้มงวดกว่า 130 รายการ ขั้นตอนการทดสอบที่ครอบคลุมกว่า 320 ขั้นตอน และอื่น ๆ อีกหลากหลายกระบวนการทดสอบ
ส่งผลให้ OPPO A96 มีความทนทาน รองรับการใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ OPPO A96 ยังรองรับมาตรฐานกันฝุ่นในระดับ IP5X และกันน้ำในระดับ IPX4 รวมถึงระบบระบายความร้อน Multi-cooling System โดยใช้โครงสร้างการกระจายความร้อนแบบ 3D ที่มีทั้งนวัตกรรมฮาร์ดแวร์และการควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ เพื่อให้โทรศัพท์ยังคงความเย็นได้ตลอดการใช้งานที่ยาวนาน
สำหรับ OPPO A96 มีสองสีให้เลือกใช้งาน ได้แก่ Starry Black | Pearl Pink
มอบประสบการณ์การรับชมขึ้นไปอีกขั้นด้วยจอแสดงผลคุณภาพสูง ลื่นไหลให้สีสันเต็มอิ่ม ในขนาด 6.59 นิ้ว บนความละเอียด 2412 x 1080 พิกเซล (FHD) พร้อมรองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz และอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 180Hz ให้สีสันที่สดใสและสมบูรณ์เป็นพิเศษ ด้วยการรองรับขอบเขตสี NTSC 96%
และด้วยดีไซน์หน้าจอแบบ Punch-Hole Display จึงทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 90.80% ไม่ว่าจะรับชมคอนเทนต์ หรือเล่นเกม ก็มองได้กว้าง คมชัดเต็มตายิ่งกว่าที่เคย
OPPO A96 มอบประสบการณ์การรับชมที่สมูทลื่นไหลด้วยอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz ไม่ว่าจะเล่นเกม ท่องเว็บ ไถฟีด ก็ให้ความรู้สึกสบายตา อีกทั้งยังให้สีสันสดใสพร้อมการปรับแต่งโหมดการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่นอีกด้วย
นอกจากจะให้หน้าจอขนาดใหญ่ สีสันสดใสคมชัดแล้ว OPPO A96 ยังมาพร้อม All-day AI Eye Care ฟีเจอร์ที่ประกอบไปด้วย Sunlight Display, Moonlight Display และ AI Smart Backlight ที่ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การใช้งานที่ดีต่อสุขภาพและสบายตามากยิ่งขึ้นตลอดทั้งวัน
ลำโพงสนทนามีขนาดเล็กและจัดวางอยู่ในขอบของตัวเครื่องซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่แสดงผล และนอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นลำโพงสเตอริโอร่วมกับลำโพงที่ด้านล่างของตัวเครื่องอีกด้วย สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยจัดวางเลย์เอาท์ไว้อยู่ตรงมุมซ้ายบนของจอแสดงผล
ซึ่งจากการใช้งานจริงให้ความรู้สึกกลมกลืนไม่รบกวนสายตา แต่ยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยม โดยมาพร้อมความละเอียดที่ 16 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ในการถ่ายเซลฟี่ที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้ได้อย่างลงตัว
กล้องหลัง AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช โดยเลนส์หลักให้ความละเอียดมาที่ 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8 มีองค์ประกอบแบบ 5 ชิ้นเลนส์พร้อมระบบ Auto Focus ส่วนเลนส์ตัวที่สองจะเป็นเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 มีองค์ประกอบแบบ 3 ชิ้น
สำหรับด้านบนของตัวเครื่องจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวนและทำหน้าที่ในการบันทึกเสียง ส่วนด้านล่างจะประกอบไปด้วย ลำโพงหลักของตัวเครื่อง พอร์ตชาร์จ Type-C ไมค์สนทนา และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
ฝั่งขวามือจะมีปุ่มพาวเวอร์พร้อมฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายใน (Side Fingerprint Unlock) สำหรับฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่องจะเป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียง และช่องถาดซิมการ์ด
ตัวถาดซิมการ์ดจะเป็นแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบนาโนซิม พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกชนิด MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 1TB
OPPO A96 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 680 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610 ให้ประสิทธิภาพการทำงาน การเล่นเกมและการประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้น โดยมีการปรับปรุงสำคัญจากแพลตฟอร์ม 662 ก่อนหน้า
อีกทั้งยังยกระดับประสิทธิภาพไปอีกขั้นด้วย RAM แบบ LPDDR4x ผสานหน่วยความจำแบบ UFS2.2 ที่มอบความเร็วระดับสูงในการติดตั้งแอป การเริ่มแอป การทำงานของไฟล์แคช รวมไปถึงการอ่านและเขียนข้อมูลไฟล์ขนาดใหญ่ อีกทั้งยังจัดเต็มด้วย ROM หรือหน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาดใหญ่ถึง 256GB ซึ่งเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนในเรทเดียวกันถือว่า OPPO A96 ให้พื้นที่ใช้งานที่เยอะกว่า สมกับสโลแกน “เพิ่มความจุ เติมความจอย” ได้อย่างแท้จริง
OPPO A96 รองรับ RAM expansion 8GB+5GB รวมสูงสูงสุด 13GB โดยระบบอัจฉริยะช่วยลดการทำงานเบื้องหลังที่ไม่จำเป็น ลดภาระการทำงานที่ดำเนินการอยู่ให้น้อยที่สุด โดยแอปที่ไม่ค่อยได้ใช้งานจะถูกบีบอัดเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน ซึ่งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในที่มีอยู่จะใช้เพื่อสร้าง RAM ชั่วคราวเพิ่มเติม
โดยสามารถการขยาย RAM ได้ 3 ขนาด ตั้งแต่ 2.00 / 3.00 / 5.00 GB ซึ่งการขยาย RAM เพิ่มเติมช่วยให้สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน และทำให้การทำงานของแอปราบรื่นกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นการรับชมคอนเทนต์ความละเอียดสูง หรือเล่นเกมที่มีกราฟิกหนัก ๆ ก็จะไม่พบปัญหาความล่าช้าหรือแลคอีกต่อไป
ในด้านความปลอดภัย OPPO A96 มาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง (Side Fingerprint Unlock) โดยรองรับได้สูงสุดที่ 5 ลายนิ้วมือ และสามารถปลดล็อกเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีสแกนใบหน้า Face Recognition Unlock เพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย โดยทั้ง 2 ระบบ ตอบสนองการทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ซึ่งนอกจากจะใช้ในการปลดล็อกหน้าจอแสดงผลแล้ว ยังสามารถใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและการเข้าถึงแอปพลิเคชันได้อีกทางหนึ่งด้วย
OPPO A96 รองรับ Widevine DRM L1 Classification สามารถรับชมคอนเทนต์คุณภาพสูงจากแพลตฟอร์มที่รองรับ อาทิ Netflix HD และ Amazon Prime Video HD เป็นต้น
ไมโครโฟนคู่ ทำงานร่วมกันเพื่อลดเสียงรบกวนรอบข้าง โดยไมโครโฟนตัวแรกจะทำหน้าที่บันทึกลำโพง ในขณะที่ไมโครโฟนตัวที่สองจะตรวจจับและลดเสียงรบกวนรอบข้าง มอบการโทรที่ชัดเจนและมีความเที่ยงตรงของเสียงที่สูงขึ้น
มอบประสบการณ์เสียงอันยอดเยี่ยมด้วยลำโพงคู่
OPPO A96 มาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอคุณภาพสูงด้วยเทคโนโลยีเสียง Dirac HD ให้เสียงที่แม่นยำและโซลูชันการเพิ่มประสิทธิภาพการปรับแต่งสำหรับระบบเสียงต่าง ๆ ส่งผลให้ OPPO A96 สามารถตอบทุกโจทย์ด้านความบันเทิงได้อย่างดีเยี่ยม
OPPO A96 พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและไหลลื่นไหลยิ่งขึ้นด้วย ColorOS 11.1 ที่ขับเคลื่อนด้วยฟีเจอร์ System Booster ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระดับระบบที่ออกแบบมาเพื่อให้สมาร์ตโฟนทำงานได้อย่างลื่นไหลทุกเวลา ทำให้การตอบสนองของแอปและเกมเร็วขึ้นและช่วยให้เล่นเกมได้ไม่กระตุกและดูวิดีโอได้โดยไม่ดีเลย์อีกด้วย
System Booster เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพทางเทคนิคขั้นพื้นฐานซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีพื้นฐาน เช่น Super Touch, System Guard และ Memory Deep Clean มอบประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ
Link Boost 2.0 ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะสามารถเชื่อมต่อได้อย่างชาญฉลาดและเพลิดเพลินกับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีความหน่วงต่ำ ฟีเจอร์อัจฉริยะนี้จะทำงานอยู่เสมอเพื่อปรับปรุงความลื่นไหลของเครือข่าย เช่น สำหรับผู้ใช้งานที่มีซิมการ์ดสองอัน หากขาดการเชื่อมต่อในอันใดอันหนึ่ง ก็สามารถเชื่อมต่อกับอีกซิมการ์ดหนึ่งได้
ปรับแต่งรูปการใช้งานในสไตล์ที่เป็นตัวตนของคุณ
ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอโฮม, ธีม, แบบอักษร, วอลเปเปอร์, ไลฟ์วอลเปเปอร์, ริงโทนแบบวิดีโอ ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอย่างจุใจ ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน นอกจากนี้ตัว ColorOS ยังตั้งค่า UI ได้อย่างยืดหยุ่น อาทิ รูปแบบหน้าจอหลัก, ไอคอน, การจัดวางแอป, แถบรายการแจ้งเตือน ฯลฯ
สามารถตรวจจับได้อย่างชาญฉลาดเมื่อผู้อื่นกำลังดูหน้าจอโทรศัพท์ของคุณในระยะ 20-80 และจะทำการซ่อนเนื้อหาการแจ้งเตือนให้โดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ ColorOS ยังมาพร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ อีกมากมาย อาทิ เครื่องมืออำนวยความสะดวก ที่ช่วยให้การใช้งาน OPPO A96 เป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดปุ่มนำทางของระบบ, การบันทึกหน้าจอ, ปุ่มย้อนกลับแบบด่วน, แถบด้านข้างอัจฉริยะ, รวมถึงท่าทางและการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก เช่นการวาดตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน, จับภาพหน้าจอ หรือการควบคุมการเล่นเพลงเป็นต้น
ด้วยแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น จึงช่วยให้ผู้ใช้งานไม่พลาดทุกการติดต่อและมอบความเพลิดเพลินด้านความบันเทิงได้ตลอดทั้งวัน
และยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น
Super Power Saving Mode
- ลดความกังวลของผู้ใช้เมื่อพลังงานต่ำ
- Super Power Saving Mode ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่มีพลังงานต่ำ
- แบตเตอรี่ 5% สามารถส่งข้อความบน WhatsApp ได้นานถึง 58 นาที หรือโทรได้ถึง 1 ชั่วโมง 43 นาที
Optimized Night Charging
- การชาร์จแบบแบ่งส่วนได้ถูกกำหนดไว้ในเวลากลางคืนอย่างชาญฉลาดด้วย AI เพื่อปรับให้เข้ากับรูปแบบการนอนหลับและกำหนดการของผู้ใช้
- หยุดการชาร์จเมื่อระดับแบตเตอรี่ถึง 80% ในเวลากลางคืน จากนั้นจึงชาร์จต่ออีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ผู้ใช้จะตื่นนอน
เต็มอิ่มกับการใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000mAh พร้อมรองรับการชาร์จที่ไวเป็นพิเศษ โดยชาร์จ 30 นาที ได้แบตเตอรี่ 55% และชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลา 71 นาที การชาร์จเพียง 5 นาที สามารถคุยโทรศัพท์ต่อได้ถึง 3 ชั่วโมง 38 นาที วิดีโอคอลใน WhatsApp ได้นานถึง 58 นาที หรือดู YouTube ได้นานถึง 1 ชั่วโมง 34 นาที
นอกจากจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่แล้ว OPPO A96 ยังมีฟังก์ชันในการป้องกันการชาร์จเกินและการคายประจุเกินของแบตเตอรี่ พร้อมการป้องกันความปลอดภัยของแบตเตอรี่เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัย ไร้กังวล โดยมีรายละเอียดดังนี้
- การป้องกันการชาร์จประจุไฟแบตเตอรี่เกินปริมาณและแบตเตอรี่จ่ายกระแสไฟเกินความสามารถ ระดับ 2
- การป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและกระแสไฟฟ้าไหลเกิน ระดับ 2
- การป้องกันอัคคีภัยระดับ V0 โดยใช้หมึกทนไฟ
- แบตเตอรี่สามารถชาร์จเต็มและจ่ายกระแสไฟได้มากกว่า 800 ครั้ง (อัตราการคงอยู่: ≥80%)
นอกจากจะมีแบตใหญ่สุดอึดถึง 5,000mAh แล้วยังมาพร้อมฟีเจอร์ Reverse Charging ที่แปลงร่างให้ OPPO A96 กลายเป็นพาวเวอร์แบงค์เพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือสมาร์ตวอทช์ผ่านทางสาย OTG (อุปกรณ์เสริมไม่มีแถมมาให้ในกล่อง) เรียกว่านอกจากแบตอึดแล้วยังทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำรองที่พกพาติดตัวไปตลอดเวลาอีกด้วย
Game Space ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสุด ซึ่งสามารถเลือกการทำงานได้ถึง 3 โหมดตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นโหมดโปรแกรมเมอร์ ที่สามารถรีดพลังในการเล่นเกมออกมาได้แบบเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น, โหมดสมดุล ที่จัดสรรทั้งในด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานไปควบคู่กัน, และโหมดกำลังไฟฟ้าต่ำ เพื่อการประหยัดพลังงาน และยังมาพร้อมฟีเจอร์ Quick Startup ระบบอัจฉริยะพิเศษเฉพาะของ OPPO ที่ช่วยลดเวลาในการเริ่มเกมและโหลดเกมลงอย่างมาก (สามารถใช้ได้ในโทรศัพท์ที่มีแรม 8GB ขึ้นไปเท่านั้น)
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Bullet Screen Message เมื่อผู้ใช้งานเล่นเกม การแจ้งเตือนข้อความจะเลื่อนผ่านหน้าจอ (หน้าต่างลอย) เพื่อลดการรบกวนการใช้งาน ทำให้ลดการรบกวนและป้องกันการแตะโดยไม่ตั้งใจ ในขณะที่ข้อความสำคัญยังคงแสดงขึ้นมาได้
การเล่นเกมบน OPPO A96 ค่อนข้างโดดเด่น ด้วยตัว Hardware ทั้งชิปเซ็ตและ RAM expansion รวมถึงหน่วยความจำแบบ UFS2.2 ส่งผลให้สามารถตั้งค่ากราฟิคของตัวเกมในระดับสูงได้ในหลาย ๆ เกม แต่ที่ทางทีมงานแนะนำจริง ๆ ควรเลือกค่าเริ่มต้นที่ตัว OPPO A96 กำหนดให้อย่างเหมาะสม
ซึ่งในภาพรวมการเล่นเกมบน OPPO A96 ตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดี ด้วยจอแสดงผลคุณภาพสูง ผสานระบบ Game Space รวมถึงชิปเซ็ตที่สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างสมูท แต่ทั้งนี้ตามที่เกริ่นไปในตอนต้น ควรตั้งค่าให้เหมาะสมตามที่ตัวเกมแนะนำ ซึ่งจะสามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นไม่เสียอรรถรสอย่างแน่นอน