ออปโป้เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ A รุ่นใหม่ล่าสุดด้วยกัน 2 รุ่น ประกอบไปด้วย A16k ซึ่งทางทีมงานได้รีวิวเป็นที่เรียบร้อย เเละอีกหนึ่งรุ่นก็คือ OPPO A76 สมาร์ทโฟนระดับ Mid-range ที่มาพร้อมดีไซน์พรีเมี่ยม และหน้าจอ Punch-Hole Display 90Hz ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 จับคู่ RAM 6GB พร้อมเทคโนโลยี RAM Expansion เพิ่มได้สูงสุด 5GB มีแบตเตอรี่สุดอึดใช้งานได้ยาวนานด้วยความจุ 5000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W SuperVOOC
และแน่นอน OPPO A76 ได้มาอยู่ในมือทีมงานเป็นที่เรียบร้อย ไปรับชมรีวิวฉบับเต็มกันได้เลยครับ
สเปคเบื้องต้น OPPO A76
- ขนาด 164.4 x 75.7 x 8.4 มม.
- น้ำหนัก 189 กรัม
- หน้าจอแสดงผล 6.56 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 89.9% ความละเอียดหน้าจอ 1612 x 720 (HD+) อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 60 Hz/90 Hz อัตราความไวหน้าจอสัมผัส 180Hz ระดับเฉดสี 96% NTSC/100% DCI-P3 ความสว่าง สูงสุด: 600 nits
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 (6 nm) 8 cores, up to 2.4 GHz หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno™ GPU 610 @ 1.1 GHz
- กล้องหลัง กล้องหลัก: 13MP，f/2.2, FOV 80°, 5P lens, AF กล้องตัวที่สอง Bokeh: 2MP, f/2.4, FOV 89.1°, 3P+IR lens, FF
- กล้องหน้า 8MP, (f/2.0); FOV: 79°; lens: 5P
- แรม 6GB
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 128GB (รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD)
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 11.1 บนพื้นฐาน Android 11
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 33W SUPERVOOC
- สีที่มีวางจำหน่าย สีฟ้า Glowing Blue / สีดำ Glowing Black
- ราคาเปิดตัว 7,999 บาท
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องแพคเกจจิ้งของ OPPO A76 มาในโทนสีฟ้าสะอาดตา โดยด้านหน้ากล่องจะมีชื่อรุ่น/แบรนด์และ A ซีรีส์ขนาดใหญ่พร้อมกำกับขนาดความจุ ROM/RAM ไว้ที่มุมซ้ายบนของตัวกล่อง
ส่วนด้านหลังจะขับเน้นด้วยไฮไลท์ที่เป็นจุดเด่นของ OPPO A76 ซึ่งประกอบไปด้วย ระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC , ใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh มาพร้อมหน้าจอแสงผล Punch-Hole Display อัตรารีเฟรชเรท 90Hz ถัดมาจะเป็นในส่วนของรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งชื่อรุ่นและสี, ขนาด ROM/RAM, เลขอีมี่, หมายเลขประจำเครื่องและข้อมูลของผู้ผลิต
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ OUTPUT 5V– 2A or 5-11V 3A MAX
- สายดาต้าลิงค์แบบ Type-C
- Soft Case TPU แบบใส
- อุปกรณ์เปิดถาด SIM Card
- ใบรับประกัน, และคู่มือการใช้งานฉบับย่อ
OPPO A76 ผ่านกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐาน Enduring Quality จาก OPPO ซึ่งผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทาน ในส่วนของการออกแบบ จะเป็น Glow Design โดยตัวเครื่องมีลักษณะโค้งในแบบ 3D ทำให้ตัวเครื่องดูบางลง มอบความสวยสะดุดตา น่าสัมผัส ทนต่อรอยนิ้วมือ และรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี
OPPO A76 วางจำหน่ายใน 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Glowing Blue: สีฟ้างดงามมีสไตล์ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทุกคน และสีดำ Glowing Black: สีมาตรฐาน มอบความลึกซึ้งและน่าหลงใหล ให้ความรู้สึกราวกับจ้องมองเข้าไปในจักรวาลและจินตนาการถึงความลึกลับ
จอแสดงผลคุณภาพสูง ลื่นไหลให้สีสันเต็มอิ่ม ในขนาด 6.56 นิ้ว อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz และอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 180Hz มอบสีสันที่สดใสและสมบูรณ์เป็นพิเศษ และด้วยดีไซน์หน้าจอแบบ Punch-Hole Display จึงทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 89.9% ไม่ว่าจะรับชมคอนเทนต์ หรือเล่นเกม ก็มองได้กว้าง คมชัดเต็มตา
ลำโพงสนทนามีขนาดเล็กและจัดวางอยู่ในขอบของตัวเครื่องซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่แสดงผลได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยจัดวางเลย์เอาท์ไว้อยู่ตรงมุมซ้ายบนของจอแสดงผล ซึ่งจากการใช้งานจริงให้ความรู้สึกกลมกลืนไม่รบกวนสายตา แต่ยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยม โดยมาพร้อมความละเอียดที่ 8 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ในการถ่ายเซลฟี่ที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้ได้อย่างลงตัว
กล้องหลัง AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช โดยเลนส์หลักให้ความละเอียดที่ 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 เลนส์ตัวที่สองจะเป็นเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
สำหรับด้านบนของตัวเครื่องจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวนและทำหน้าที่ในการบันทึกเสียง ส่วนด้านล่างจะประกอบไปด้วย ลำโพงหลักของตัวเครื่อง พอร์ตชาร์จ Type-C ไมค์สนทนา และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
ฝั่งขวามือจะมีปุ่มพาวเวอร์พร้อมฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายใน (Side Fingerprint Unlock)
สำหรับฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่องจะเป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียง และช่องถาดซิมการ์ด
ตัวถาดซิมการ์ดจะเป็นแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบนาโนซิม พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกชนิด MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 1TB
ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน OPPO A76
OPPO A76 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 680 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610 ให้ประสิทธิภาพการทำงาน การเล่นเกมและการประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้น โดยมีการปรับปรุงสำคัญจากแพลตฟอร์ม 662 ก่อนหน้า
อีกทั้งยังยกระดับประสิทธิภาพไปอีกขั้นด้วย RAM แบบ LPDDR4x ผสานหน่วยความจำแบบ UFS2.2 ที่มอบความเร็วระดับสูงในการติดตั้งแอป การเริ่มแอป การทำงานของไฟล์แคช รวมไปถึงการอ่านและเขียนข้อมูลไฟล์ขนาดใหญ่ รวมทั้งยังจัดการด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับการใช้งานยาวนานต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่
RAM Expansion
OPPO A76 รองรับ RAM expansion 6+5 สูงสุด 11GB โดยระบบอัจฉริยะช่วยลดการทำงานเบื้องหลังที่ไม่จำเป็น ลดภาระการทำงานที่ดำเนินการอยู่ให้น้อยที่สุด โดยแอปที่ไม่ค่อยได้ใช้งานจะถูกบีบอัดเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน ซึ่งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในที่มีอยู่จะใช้เพื่อสร้าง RAM ชั่วคราวเพิ่มเติม
โดยสามารถการขยาย RAM ได้ 3 ขนาด ตั้งแต่ 2.00 / 3.00 / 5.00 GB ซึ่งการขยาย RAM เพิ่มเติมช่วยให้สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน และทำให้การทำงานของแอปราบรื่นกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นการรับชมคอนเทนต์ความละเอียดสูง หรือเล่นเกมที่มีกราฟิกหนัก ๆ ก็จะไม่พบปัญหาความล่าช้าหรือแลคอีกต่อไป
ในด้านความปลอดภัย OPPO A76 มาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง (Side Fingerprint Unlock) โดยรองรับได้สูงสุดที่ 5 ลายนิ้วมือ และสามารถปลดล็อกเครื่องได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีสแกนใบหน้า face unlock เพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย โดยทั้ง 2 ระบบ ตอบสนองการทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ และนอกจากจะใช้ในการปลดล็อกหน้าจอแสดงผลแล้ว ยังสามารถใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและการเข้าถึงแอปพลิเคชันได้อีกทางหนึ่งด้วย
OPPO A76 มาพร้อมหน้าจอ Punch-Hole ขนาด 6.56 นิ้ว ที่ให้สีสันสวยงามสมจริง บนความละเอียด 1612 x 720 (HD+) (269 ppi) ในอัตราส่วน 20:9 ความสว่างสูงสุด 600 nits (nits peak) รองรับขอบเขตสี NTSC 96% DCI-P3 , อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 60 Hz/90 Hz อัตราความไวหน้าจอสัมผัส 180 Hz พร้อม All-day AI Eye Care ฟีเจอร์ที่ประกอบไปด้วย Sunlight Display, Moonlight Display และ AI Smart Backlight ที่ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การใช้งานที่ดีต่อสุขภาพและสบายตามากยิ่งขึ้นตลอดทั้งวัน
ColorOS 11.1
OPPO A76 พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและไหลลื่นไหลยิ่งขึ้นด้วย ColorOS 11.1 ที่ขับเคลื่อนด้วยฟีเจอร์ System Booster ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระดับระบบที่ออกแบบมาเพื่อให้สมาร์ทโฟนทำงานได้อย่างลื่นไหลทุกเวลา ทำให้การตอบสนองของแอปและเกมเร็วขึ้นและช่วยให้เล่นเกมได้ไม่กระตุกและดูวิดีโอได้โดยไม่ดีเลย์อีกด้วย
System Booster
System Booster เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพทางเทคนิคขั้นพื้นฐานซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีพื้นฐาน เช่น Super Touch, System Guard และ Memory Deep Clean ช่วยให้ใช้งานสมาร์ทโฟนได้ลื่นไหล
Link Boost 2.0
Link Boost 2.0 ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะสามารถเชื่อมต่อได้อย่างชาญฉลาดและเพลิดเพลินกับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีความหน่วงต่ำ ฟีเจอร์อัจฉริยะนี้จะทำงานอยู่เสมอเพื่อปรับปรุงความลื่นไหลของเครือข่าย เช่น สำหรับผู้ใช้งานที่มีซิมการ์ดสองอัน หากขาดการเชื่อมต่อในอันใดอันหนึ่ง ก็สามารถเชื่อมต่อกับอีกซิมการ์ดหนึ่งได้
ปรับแต่งรูปการใช้งานในสไตล์ที่เป็นตัวตนของคุณ
ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอโฮม, ธีม, แบบอักษร, วอลเปเปอร์, ไลฟ์วอลเปเปอร์, ริงโทนแบบวิดีโอ ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอย่างจุใจ ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน นอกจากนี้ตัว ColorOS ยังตั้งค่า UI ได้อย่างยืดหยุ่น อาทิ รูปแบบหน้าจอหลัก, ไอคอน, การจัดวางแอป, แถบรายการแจ้งเตือน ฯลฯ
FlexDrop
ฟีเจอร์ FlexDrop สามารถใช้งานแอปแบบเต็มหน้าจอ แบบหน้าต่างขนาดเล็ก (โต้ตอบได้) หรือแบบหน้าต่างขนาดเล็กกว่า (ดูเท่านั้น) โดยผู้ใช้งานสามารถสลับหน้าต่างและการใช้งานต่างๆ ได้อย่างราบรื่น แอปวิดีโอแบบเต็มหน้าจอสามารถเปลี่ยนเป็นหน้าต่างขนาดเล็กได้
Three-finger Translate ด้วย Google Lens
ColorOS ทำงานร่วมกับ Google Lens ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแปลภาษาข้อความในแอป หน้าเว็บ และรูปภาพเป็นภาษาที่ต้องการได้ โดยผู้ใช้งานสามารถเปิดใช้งาน Google Translate ได้อย่างง่ายดายเมื่อปัดสามนิ้วเพื่อแคปภาพหน้าจอบางส่วนหรือใน Smart Sidebar
นอกจากนี้ ColorOS ยังมาพร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ อีกมากมาย อาทิ เครื่องมืออำนวยความสะดวก ที่ช่วยให้การใช้งาน OPPO A76 เป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดปุ่มนำทางของระบบ, การบันทึกหน้าจอ, ปุ่มย้อนกลับแบบด่วน, แถบด้านข้างอัจฉริยะ
รวมถึงท่าทางและการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก เช่นการวาดตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน, จับภาพหน้าจอ หรือการควบคุมการเล่นเพลงเป็นต้น
ด้านการเล่นเกม
Game Space ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสุด ซึ่งสามารถเลือกการทำงานได้ถึง 3 โหมดตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นโหมดโปรแกรมเมอร์ ที่สามารถรีดพลังในการเล่นเกมออกมาได้แบบเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น, โหมดสมดุล ที่จัดสรรทั้งในด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานไปควบคู่กัน, และโหมดกำลังไฟฟ้าต่ำ เพื่อการประหยัดพลังงาน
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Bullet Screen Message เมื่อผู้ใช้งานเล่นเกม การแจ้งเตือนข้อความจะเลื่อนผ่านหน้าจอ (หน้าต่างลอย) เพื่อลดการรบกวนการใช้งาน ทำให้ลดการรบกวนและป้องกันการแตะโดยไม่ตั้งใจ ในขณะที่ข้อความสำคัญยังคงแสดงขึ้นมาได้
การเล่นเกมบน OPPO A76 ค่อนข้างโดดเด่น ด้วยตัว Hardware ทั้งชิปเซ็ตและ RAM expansion รวมถึงหน่วยความจำแบบ UFS2.2 ส่งผลให้สามารถตั้งค่ากราฟิคของตัวเกมในระดับสูงได้ในหลาย ๆ เกม แต่ที่ทางทีมงานแนะนำจริง ๆ ควรเลือกค่าเริ่มต้นที่ตัว OPPO A76 กำหนดให้อย่างเหมาะสม
ซึ่งในภาพรวมการเล่นเกมบน OPPO A76 ตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดี ด้วยจอแสดงผลคุณภาพสูง ผสานระบบ Game Space รวมถึงชิปเซ็ตที่สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างสมูท แต่ทั้งนี้ตามที่เกริ่นไปในตอนต้น ควรตั้งค่าให้เหมาะสมตามที่ตัวเกมแนะนำ ซึ่งจะสามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นไม่เสียอรรถรสอย่างแน่นอน
ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000mAh
ด้วยแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น จึงช่วยให้ผู้ใช้งานไม่พลาดทุกการติดต่อและมอบความเพลิดเพลินด้านความบันเทิงได้ตลอดทั้งวัน นอกจากจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่แล้ว OPPO A76 ยังมีฟังก์ชันในการป้องกันการชาร์จเกินและการคายประจุเกินของแบตเตอรี่ พร้อมการป้องกันความปลอดภัยของแบตเตอรี่เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัย ไร้กังวล
Super Nighttime Standby
– รูปแบบ AI ที่เข้าใจพฤติกรรมการนอนหลับของผู้ใช้งานและช่วยลดการใช้พลังงานตามลำดับ
– แบตเตอรี่ลดลงประมาณ 2% เท่านั้นในเวลากลางคืน*
Super Power Saving Mode
– ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ การพกพาวเวอร์แบงค์ติดตัว หรือวางแผนล่วงหน้าก่อนไปที่ไหน
– เมื่อระดับแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 10% การเปิดใช้งาน Super Power Saving Mode จะเด้งขึ้นมาทันที โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกแอปได้สูงสุด 6 แอปเพื่อใช้งานในโหมดนี้
– ในระดับแบตเตอรี่ 5% ผู้ใช้งานยังสามารถส่งข้อความบน WhatsApp ได้นานถึง 80 นาทีหรือโทรออกได้ 109 นาที*
Optimized Night Charging
– AI จะปรับให้เข้ากับรูปแบบการนอนหลับของผู้ใช้งานและวางแผนการชาร์จแบตเตอรี่ในช่วงเวลากลางคืน
– หยุดชาร์จเมื่อระดับแบตเตอรี่ถึง 80% ในเวลากลางคืน จากนั้นจึงชาร์จต่อก่อนที่ผู้ใช้งานจะตื่นหนึ่งชั่วโมง
33W SUPERVOOC
เต็มอิ่มกับการใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000mAh พร้อมรองรับการชาร์จที่ไวเป็นพิเศษ โดยชาร์จ 30 นาที ได้แบตเตอรี่ 55% และชาร์จเพียง 5 นาที สามารถใช้งานได้ 3 ชั่วโมง 47 นาที / วิดีโอคอล WhatsApp ได้นาน 62 นาที / เล่น YouTube นาน 2 ชั่วโมง 10 นาที