คุณสมบัติการใช้งาน
OPPO A57 4GB+64GB มาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1 ที่ถูกออกแบบการใช้งานให้ง่าย มีอินเทอร์เฟซที่ทันสมัย รวมถึงการปรับแต่งรูปแบบให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองได้แล้ว ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยทำงานง่ายขึ้น เช่น
FlexDrop ช่วยให้คุณสามารถท้างานหลาย อย่างพร้อมๆ กันบน OPPO A57 4GB+64GB ได้อย่างราบรื่น โดยการปรับขนาดของ หน้าต่างแอปได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น การปรับแอปให้เป็นหน้าต่างลอยขนาดเล็ก แต่ยังคงหน้าแอปให้เป็นแบบ full screen (สามารถโต้ตอบในการใช้งานได้) หรือปรับ เป็นหน้าต่างขนาดเล็ก (สำหรับรับชมเท่านั้น) เพื่อให้คุณสามารถสลับการใช้งานแต่ละแอปพลิเคชันได้อย่างง่ายดาย
แปลภาษาด้วย 3 นิ้วมือ แปลภาษาจากการถ่ายภาพหน้าจอด้วย Google Lens ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ ColorOS ที่ช่วยให้การแปลภาษาทำได้โดยเลือกใช้เพียง 3 นิ้วมือ และคลิกครั้งเดียวเพื่อสั่งการ สามารถแปลภาษาได้มากกว่า 100 ภาษา
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ All-day eye care ที่สามารถปรับแสงสว่างหน้าจอให้เหมาะสมในแต่ละสภาพแสงได้อัตโนมัติ และหน้าจอ Eye Care ลดแสงสีฟ้าของจอแสดงผลเพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตา โดยเฉพาะเวลาที่ใช้งานในเวลากลางคืน ช่วยถนอมสายตาผู้ใช้ให้ความรู้สึกสบายระหว่างการใช้งาน
รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับเครือข่าย 4G LTE with VoLTE และรองรับการใช้ 4G/3G ทั้ง 2 ซิม
รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Recognition Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเพียงแค่มองไปที่หน้าจอก็สามารถปลดล็อกได้แล้ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้
รองรับการปลดล็อคหน้าจอ ล็อคแอป และเก็บข้อมูลส่วนตัวด้วยการสแกนลายนิ้วมือหรือ Side Fingerprint Unlock โดยติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังบนปุ่มเปิดปิดเครื่องด้านขวาข้างเครื่อง สามารถปลดล็อคง่ายและเร็วเพียงแตะเบาๆ และรองรับการใช้งานสูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือ
OPPO A57 4GB+64GB มาพร้อมกับลำโพงแบบ Ultra-Linear Stereo ที่ให้ระบบเสียงรอบทิศทางมอบเสียงที่สมจริงและเสียงที่สูงได้มากกว่าปกติถึง 85dB ในโหมดการเล่นเริ่มต้น โดยในโหมด Ultra Volume สามารถเพิ่มระดับเสียงได้อีก 0.44 เท่า ไม่ว่าจะเป็นเสียงเรียกเข้า เสียงนาฬิกาปลุก และเสียงแจ้งเตือน ซึ่งจะได้เสียงที่ดังและคมชัดมากขึ้น
รวมทั้งรองรับระบบ Dirac 3.0 ลดเสียงเสียดแทรกและเพิ่มการสร้างเสียงเบสเพื่อรุณภาพเสียงที่ดีขึ้น และสามารถรองรับได้ในทุกแอป และ Dolby Atmos ringtones เสียงเรียกเข้าแบบกำหนดเอง 5 แบบและเสียงเตือนแสดงถึงพลังของลำโพงสเตอริโอรอบทิศทาง
นอกจากนี้ยังรองรับระบบเสียง Real Sound สามารถเลือกประเภทของการฟังได้ 4 รูปแบบคือสมาร์ท ภาพยนตร์ เกม และเพลง และเมื่อเชื่อมต่อกับชุดหูฟังก็จะเข้าสู่โหมด Real HD Sound ที่สามารถปรับแต่งเสียงอีควอไลเซอร์เพิ่มได้
ประสิทธิภาพ
OPPO A57 4GB+64GB ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล MediaTek Helio G35 (12 nm) แบบ Octa Core ความเร็วสูงสุด 2.3GHz จับคู่กับ RAM 4GB + ROM 64GB และเพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1TB มอบประสิทธิภาพที่เร็วแรงลื่นไหล รองรับการเล่นเกมได้อย่างราบรื่น
รวมทั้งยังมี AI System Booster ฟีเจอร์ที่ช่วยทำให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น เช่น การจัดการทรัพยากร ซ่อมแซมในขณะที่ไม่ได้ใช้งาน และเพิ่มารจัดเก็บข้อมูลอัฉริยะ เป็นต้น
และด้วยเทคโนโลยี RAM Expansion ของ OPPO ทำให้ OPPO A57 4GB+64GB ที่มาพร้อม RAM 4GB สามารถขยายเพิ่มได้อีก 4GB รวมเป็น 8GB โดยเทคโนโลยี RAM Expansion ของ OPPO จะนำความจุ ROM มาจำลองเป็นความจำ RAM ทำให้ตอบสนองการใช้งานที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น
เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ โดยเกม ROV ตั้งค่าเลือกเฟรมเรทระดับสูง ผลปรากฎว่าเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด โดยที่เฟรมเรทอยู่ที่ประมาณ 59-60fps
ขณะที่เกม PUBG Mobile ตั้งค่าปรับความคมชัดระดับสมดุล และเลือกเฟรมเรทระดับกลาง ผลปรากฎว่าสามารถเล่นได้ลื่น ไม่มีสะดุดเช่นเดียวกัน
แบตเตอรี่
OPPO A57 4GB+64GB ใช้แบตเตอรี่ขนาดความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จไว 33W SUPERVOOC ผ่านพอร์ต USB Type-C ชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วในเวลาประมาณ 71 นาที และใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที สามารถคุยโทรศัพท์ต่อได้ถึง 3.17 ชั่วโมง
OPPO A57 ยังมีการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร และกระแสไฟฟ้าไหลเกินระดับ 2 ใช้งานได้ไร้กังวล พร้อม Super Nighttime Standby โหมด AI ที่จะเรียนรู้นิสัยการนอนหลับของคุณเพื่อลดส่วนต่างๆ ที่ไม่จำเป็น และทำให้แบตเตอรี่ลดลงเพียง 2.23% ในเวลากลางคืน
รวมทั้งยังมี Super Power Saving Mode โหมดในการจำกัดการใช้งานแอปสูงสุดหกแอปที่ผู้ใช้กำหนดเอง เพื่อลดการใช้พลังงานให้มากที่สุด และ Optimized Night Charging เครื่องจะเรียนรู้การกำหนดว่าเมื่อใดควรชาร์จแบตเตอรี่ในเวลากลางคืน เพื่อรักษาสุขภาพแบตเตอรี่สูงสุด