คลังเก็บ

รีวิว OPPO A17 สมาร์ตโฟน ดีไซน์หนังสุดพรีเมียม กล้อง AI 50MP แบตใหญ่ 5,000mAh กันน้ำ IPX4 คุ้มค่ากว่าในราคาโดนใจ !!!

เมื่อช่วงต้นปีค่าย OPPO เปิดตัว OPPO A16k สมาร์ตโฟนน้องเล็กในตระกูล A Series สุดคุ้มที่มาพร้อมดีไซน์สวยงามทันสมัย โดดเด่นด้วยความบางเบา จับถือพกพาใช้งานได้สะดวกคล่องตัว ถือว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟน entry level ที่ได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลามของช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ล่าสุด OPPO ส่ง OPPO A17 รุ่นอัปเกรดต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นพี่ ที่รอบนี้ได้ยกระดับด้านดีไซน์ขึ้นไปอีกขั้นด้วย Premium Leather-Feel design ที่ตัวฝาหลังจะให้ฟิลลิ่งผิวสัมผัสเสมือนหนังแท้ ไม่เก็บรอยนิ้วมือ แถมยังกันน้ำได้ระดับ IPX4 อีกด้วย

ในด้านสเปคก็มีการอัปเกรดด้วยเช่นกัน ทั้งหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นแต่ยังให้ฟีเจอร์มาแบบอัดแน่นเหมือนเช่นเคย รวมถึงกล้องหลัง AI Dual Camera ที่ให้ความคมชัดถึง 50MP ผสานด้วยแรม 4GB + 4GB (RAM Expansion) พร้อมใช้งานได้ไหลลื่นด้วย ColorOS 12.1 อีกทั้งยังใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานด้วยแบตเตอรี่สุดอึดถึง 5,000mAh ในส่วนของฟีเจอร์และความน่าสนใจอื่น ๆ ของ OPPO A17 จะมีอย่างไรบ้าง มาติดตามรับชมรีวิวฉบับเต็มจาก MobileOcta กันได้เลยครับ 

สเปกเบื้องต้น OPPO A17

  • ขนาด 164.16 x 75.55 x 8.29 มม.
  • น้ำหนัก 189 กรัม 
  • หน้าจอแสดงผล 6.56-inch HD+ screen 1612 x 720 pixels; Refresh rate: 60 Hz; 89.8% Screen-to-Body-Ratio, Color saturation: 96% NTSC, Color gamut: 96% (100% DCI-P3; 100% sRGB), Brightness: 600nit (HBM) / 480nit (Typical)
  • ชิปเซ็ต MediaTek Helio G35 (12 nm) 
  • กล้องหลัก 50MP Sensor ขนาด 1/2.76″,  ขนาด Pixel Size 0.64 μm, ค่ารูรับแสง f/1.8 
  • กล้องตัวที่สอง VGA ค่ารูรับแสง f/1.8 
  • กล้องหน้า 5MP Sensor ขนาด 1/5″,  ขนาด Pixel Size 1.12 μm, ค่ารูรับแสง f/2.2
  • แรม 4GB + 4GB (RAM Expansion)
  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 64 GB (รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD)
  • ระบบปฏิบัติการ ColorOS 12.1 บนพื้นฐาน Android 12
  • แบตเตอรี่ 5,000mAh 
  • สีที่มีวางจำหน่าย สีฟ้า Lake Blue, สีดำ Midnight Black
  • ราคาเปิดตัว 5,499 บาท 

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

กล่องของ OPPO A17 ยังคงมาในโทนสีฟ้าสะอาดตา  สำหรับด้านหน้ากล่องจะมีชื่อรุ่น/แบรนด์และตัวอักษร A Series ขนาดใหญ่พร้อมกำกับขนาดความจุ ROM/RAM ไว้ที่มุมซ้ายบนของตัวกล่อง 

ส่วนด้านหลังกล่องเป็นการให้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเครื่อง เช่น ชื่อรุ่น, สีและขนาด ROM/RAM”

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง OPPO A17 สีดำ Midnight Black ซึ่งติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อยตั้งแต่โรงงาน สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องจะมีดังนี้

อแดปเตอร์ชาร์จไฟ OUTPUT 5V– 2A

สายชาร์จ Micro USB

Soft Case TPU แบบใส

อุปกรณ์เปิดถาด SIM Card

ใบรับประกัน, และคู่มือการใช้งานฉบับย่อ

รูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบ

รอบนี้ OPPO A17 มาพร้อมดีไซน์สุด Luxury ด้วยจุดขาย Premium Leather-Feel design ที่ส่งมอบความพรีเมี่ยมถึงมือผู้ใช้งานด้วยตัวบอดี้ Ultra-Slim แบบตัดขอบเรียบสุดคลาสสิก ให้รูปลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยวและทันสมัย โดย มีน้ำหนักประมาณ189 กรัม และมีความหนาประมาณ 8.29 มม. จึงช่วยให้จับถือและพกพาสะดวกคล่องตัวในทุกการใช้งานของชีวิตประจำวัน 

นอกจากนี้ OPPO A17 ยังมาพร้อมจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยฝาหลังที่ให้ฟิลลิ่งผิวสัมผัสเสมือนหนังแท้ที่สร้างขึ้นจากเทคนิค composite processing โดยพื้นผิวด้านในมีลายนูนด้วยเม็ดหนังสีอ่อน และชั้นนอกเคลือบด้วยรังสียูวี ทำให้พื้นผิวของโทรศัพท์ไม่เพียงแค่จับถือได้สบาย แต่ยังกันฝุ่นและทนทานกว่าผิวเคลือบชนิดอื่น ๆ อีกทั้งยังกันน้ำได้ระดับ IPX4 อีกด้วย

ทั้งนี้ OPPO A17 พร้อมวางจำหน่ายใน 2 สี  ได้แก่สีฟ้า Lake Blue และ สีดำ Midnight Black

OPPO A17 ไม่ได้เด่นในด้านดีไซน์เพียงอย่างเดียว ในแง่ของคุณภาพวัสดุและเทคโนโลยีการผลิตยังมาพร้อมมาตรฐาน OPPO Enduring Quality ซึ่งทางค่าย OPPO มุ่งมั่นที่จะจัดหาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและมอบการสนับสนุนลูกค้าที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

โดยผลิตภัณฑ์ OPPO ทั้งหมดต้องผ่านการทดสอบหลัก 6 หมวดหมู่ ได้แก่การทดสอบการตกหล่น การกันน้ำ การแผ่รังสี สภาพแวดล้อม การตกไม่แรง และสัญญาณ รวมถึงการทดสอบความทนทานอย่างเข้มงวดมากกว่า 130 รายการ และการทดสอบคุณภาพที่ครอบคลุมกว่า 320 รายการเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพที่ดีที่สุดก่อนส่งมอบถือมือไปยังผู้ใช้ทั่วโลก

OPPO A17 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล HD+ ขนาดใหญ่เต็มตา 6.56 นิ้ว ให้สีสันสดใสคมชัด โดยมีอัตราส่วนขนาดหน้าจอต่อเครื่อง 89.8% พร้อมรองรับอัตรารีเฟรทเรทที่ 60 Hz ในแง่ฟีเจอร์ถือว่าให้มาอย่างครับครัน ทั้งโหมดถนอมสายตา, รองรับขอบเขตสี Color gamut: 96%, Color saturation: 96% (100% DCI-P3; 100% sRGB) ให้ความสว่างสูงสุดที่ 600nit (HBM) / 480nit (Typical)

กล้องหน้าเซลฟีความละเอียด 5MP รูรับแสงกว้าง f/2.2 กล้องหน้าจัดวางอยู่ส่วนบนของหน้าจอแสดงผลรูปทรง Waterdrop ส่วนเซนเซอร์วัดแสงและลำโพงสนทนาจะวางตำแหน่งไว้ที่ขอบจอของตัวเครื่องซึ่งช่วยให้จอแสดงผลได้เต็มพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย

กล้องหลัง AI Dual Camera ความละเอียด 50MP พร้อมไฟแฟลช 1 ดวง

กล้องหลังจัดวางในแถบวงรีแบบแนวยาว โดยมาพร้อมการออกแบบอันโดดเด่น ส่วนตัวโมดูลกล้องจะเป็นทรงกลมและล้อมคาดด้วยขอบโลหะเพิ่มความพรีเมียม สำหรับกล้องหลัง AI Dual Camera บน OPPO A17 มีรายละเอียดดังนี้ 

กล้องหลักความละเอียด 50MP มี Sensor ขนาด 1/2.76″,  และขนาด Pixel Size ที่  0.64 μm, ค่ารูรับแสงกว้าง f/1.8  กล้องตัวที่สองความละเอียด VGA ค่ารูรับแสงกว้าง f/1.8 

ด้านบนของตัวเครื่องจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ  ส่วนด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ตามด้วยไมค์สนทนา / พอร์ต Micro USB   / และลำโพงหลักของตัวเครื่อง

สำหรับฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่องจะเป็นที่อยู่ของช่องถาดซิมการ์ด ส่วนฝั่งขวามีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์  โดยตัวปุ่มพาวเวอร์จะมีการฝั่งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Side Fingerprint Unlock ที่รองรับการใช้งานได้ 5 ลายนิ้วมือ 

ตัวถาดซิมการ์ดจะเป็นแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบนาโนซิม พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกชนิด MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 1TB

ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน OPPO A17 

OPPO A17 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง MediaTek MT6765G Helio G35 บนสถาปัตยกรรม 12 nm มอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยความเร็ว CPU สูงถึง 2.3 GHz ผสานด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVR GE8320 พร้อมหน่วยความจำขนาดใหญ่ 4GB + 64GB และการกำหนดค่าพื้นที่เก็บข้อมูลที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพที่ลื่นไหลเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ OPPO A17 ยังรองรับการใช้งานแบบซิมคู่ และสามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริม MicroSD Card ได้ถึง 1TB สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติม

RAM Expansion

เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ RAM Expansion แล้ว RAM มาตรฐานจะสามารถยืมหน่วยความจำได้มากถึง 4GB จาก ROM ที่ไม่ได้ใช้งาน และด้วยฟีเจอร์อัปเกรดหน่วยความจำเป็น 4GB+4GB ส่งผลให้สามารถใช้งาน RAM ได้สูงสุดถึง 8GB จึงพร้อมตอบโจทย์การสลับไปมาระหว่างหลายแอปหรือเกมที่เน้นการประมวลผลในพื้นหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่นไม่มีสะดุดตลอดทั้งวัน 

เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ใช้งานบน ColorOS 12.1

OPPO A17 รองรับการใช้งานพื้นฐานได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง ท่องเว็บและเล่นโซเชี่ยล อีกทั้งยังรองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันยอดนิยมได้อย่างครบถ้วนโดยไม่พบปัญหาแต่อย่างใด

ในภาพรวม OPPO A17 พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย ColorOS 12.1 และผสานด้วยฟีเจอร์  RAM Expansion ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สมาร์ตโฟนทำงานได้อย่างลื่นไหลทุกเวลา ทำให้การตอบสนองของแอปและเกมเร็วขึ้นและช่วยให้เล่นเกมได้ไม่กระตุกและดูวิดีโอได้โดยไม่ดีเลย์อีกด้วย 

ปรับแต่งรูปแบบการใช้งานในสไตล์ที่เป็นตัวตนของคุณ

ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอโฮม,  ธีม, แบบอักษร, วอลเปเปอร์, ไลฟ์วอลเปเปอร์, ริงโทนแบบวิดีโอ ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอย่างจุใจ ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน นอกจากนี้ตัว ColorOS ยังตั้งค่า UI ได้อย่างยืดหยุ่น อาทิ รูปแบบหน้าจอหลัก, ไอคอน, การจัดวางแอป, แถบรายการแจ้งเตือน ฯลฯ 

FlexDrop

ฟีเจอร์แบ่งหน้าจอเป็น 2 หน้าต่าง ถือว่าเป็นเบสิคในสมาร์ตโฟนในยุคปัจจุบัน แต่ FlexDrop บน OPPO A17 จะมีฟีเจอร์ที่จัดเต็มกว่า โดยสามารถใช้งานแอปแบบเต็มหน้าจอ แบบหน้าต่างลอยขนาดเล็ก (โต้ตอบได้) หรือแม้แต่ย่อเป็นหน้าต่างขนาดเล็กที่เล็กกว่า (ดูเท่านั้น) ทำให้สามารถใช้งานสลับไปมาระหว่างแอปต่าง ๆ ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

EasyMode2.0

Easy Mode 2.0 ใน OPPO A17 ทำให้อินเทอร์เฟซของระบบปฏิบัติการง่ายขึ้น และทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้งานสามารถปรับการตั้งค่าระบบของ OPPO A17 ให้มีฟอนต์ที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงไอคอนที่ใหญ่ขึ้น เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้น และระดับเสียงที่ดังขึ้นได้

Three-finger Translate ด้วย Google Lens

ด้วยการขับเคลื่อนโดย Google Lens การปัดด้วยสามนิ้วจากด้านบนลงมาด้านล่างของจอแสดงผล จะเป็นการจับภาพหน้าจอและสามารถแปลข้อความภายในภาพทั้งหมดได้ในคราวเดียว

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Freeform Screenshot ที่รองรับการบันทึกภาพหน้าจอได้หลากหลายรูปแบบ เมื่อเลือกพื้นที่ภาพหน้าจอที่แคปแล้ว เพียงแตะปุ่ม “แปล” เพื่อเปิด Google Lens ก็จะสามารถแปลเนื้อหาเป็นภาษาต่างๆ ได้ถึงกว่า 100 ภาษา

เครื่องมืออำนวยความสะดวก

จะช่วยให้การใช้งาน OPPO A17 เป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดปุ่มนำทางของระบบ, การบันทึกหน้าจอ, ปุ่มย้อนกลับแบบด่วน, แถบด้านข้างอัจฉริยะ, รวมถึงท่าทางและการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก เช่น วาดตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน, จับภาพหน้าจอ หรือการควบคุมการเล่นเพลงเป็นต้น 

All-Day AI Eye Comfort

นอกจากจะให้หน้าจอขนาดใหญ่ ที่ให้สีสันสดใสคมชัดแล้ว OPPO A17  ยังมาพร้อม All-Day AI Eye Comfort ฟีเจอร์ที่ประกอบไปด้วย Sunlight Display, Moonlight Display และ AI Smart Backlight ที่ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การใช้งานที่ดีต่อสุขภาพและสบายตามากยิ่งขึ้นตลอดทั้งวัน

Sunlight Display และ Moonlight Display

จอแสดงผลของ OPPO A17 จะปรับความสว่างโดยอัตโนมัติตามระดับแสงทางตรงและแสงแวดล้อมที่แตกต่างกัน โดยโหมด Sunlight Display สามารถเพิ่มความสว่างของจอแสดงผลได้ถึง 600 nits ช่วยให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดขึ้นแม้อยู่ภายใต้แสงจ้า ในทางกลับกัน Moonlight Display สามารถปรับความมืดหน้าจอลง 2 nits เพื่อความสบายตาสูงสุดเมื่ออ่านหรือดูคอนเทนต์ในสภาพแวดล้อมที่มืด

AI Smart Backlight

AI Smart Backlight สามารถปรับค่าความสว่างได้อย่างชาญฉลาดเพื่อให้พอดีกับระดับความสว่างที่สบายที่สุดของของผู้ใช้งาน โดยเรียนรู้วิธีปรับความสว่างของหน้าจอในสภาพแสงต่าง ๆ ของผู้ใช้งานด้วยตนเอง 

นอกจากนี้ OPPO A17 ยังมีฟีเจอร์ Dark Mode สำหรับปรับสีของหน้า UI ให้อยู่ในโทนสีดำ เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่ในตัวด้วย

ประสบการณ์เสียงสมจริง

OPPO A17 มาพร้อมเสียงที่ดีกว่าและระดับเสียงที่สูงขึ้น ด้วยระบบเสียง Dirac 3.0 ที่อัปเกรดแล้ว ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงที่ชัดใสเต็มช่วงได้ตลอดเวลา นอกจากนั้น OPPO A17 ยังมีโหมด Ultra-Volume สำหรับเสียงลำโพงที่ดังถูกใจโดยไม่ถูกเสียงรอบด้านเข้ามารบกวนอีกด้วย

ด้านความปลอดภัย

OPPO A17 รองรับระบบไบโอแมทริกซ์ทั้งการสแกนลายนิ้วมือที่ติดตั้งมาในปุ่มพาวเวอร์แบบ Side Fingerprint Unlock โดยรองรับการใช้งานได้ 5 ลายนิ้วมือ ส่วนการปลดล็อกใบหน้าสามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังตั้งค่าได้ค่อนข้างยืดหยุ่น โดยสามารถตั้งค่าความสว่างหน้าจอแสดงผลอัตโนมัติเพื่อให้สามารถปลดล็อกได้ดีแม้ในที่แสงน้อย รวมถึงกำหนดค่าให้ปลดล็อกเฉพาะเมื่อลืมตาเท่านั้นได้อีกด้วย

5-Grade Access Control

ด้วยฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ เช่น Privacy Dashboard, Approximate Location Sharing, Microphone and Camera Indicators, Microphone and Camera Toggles, และ Presentation of Notifications ให้คุณสามารถควมคุมการเข้าถึงข้อมูลของตัวเองได้ทุกเมื่อ

รวมถึงยังมาพร้อมฟีเจอร์ Photo Information Protection เมื่อแชร์รูปภาพหรือวิดีโอในอัลบั้มรูปภาพ ตัวจัดการไฟล์ และแอปพลิเคชันอินเทอร์เน็ตของบริษัทอื่น OPPO A17 มีตัวเลือกในการลบข้อมูลตาแหน่งของรูปภาพและข้อมูลเมตาของรูปภาพเพิ่มเติม (ชื่อ เวลา รุ่นโทรศัพท์ พารามิเตอร์) เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ

ด้านการเล่นเกม 

Game Space ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสุด ซึ่งสามารถเลือกการทำงานได้ถึง 3 โหมดตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นโหมดโปรแกรมเมอร์ ที่สามารถรีดพลังในการเล่นเกมออกมาได้แบบเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น, โหมดสมดุล ที่จัดสรรทั้งในด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานไปควบคู่กัน, และโหมดกำลังไฟฟ้าต่ำ เพื่อการประหยัดพลังงาน 

นอกจากนี้ Game Space ยังมี Graphics Acceleration สำหรับรีดประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU เพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหลที่สุด รวมไปถึง Network Protection สำหรับจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตของแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อช่วยลดอาการแลคขณะเล่นเกมออนไลน์ที่จำเป็นต้องมีการรับ-ส่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา

ในภาพรวม OPPO A17 เป็นสมาร์ตโฟนระดับ entry level ที่พร้อมตอบโจทย์ในด้านการเล่นเกมได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ควรเลือกค่าเริ่มต้นที่ตัว OPPO A17 กำหนดให้อย่างเหมาะสม ซึ่งในภาพรวมการเล่นเกมบน OPPO A17 ถือว่าตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดี ด้วยจอแสดงผลคุณภาพสูงผสานระบบ Game Space รวมถึงชิปเซ็ตที่สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมได้ค่อนข้างสมูท

แต่ทั้งนี้ตามที่เกริ่นไปในตอนต้น  ควรตั้งค่าให้เหมาะสมตามที่ตัวเกมแนะนำ ซึ่งจะสามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นไม่เสียอรรถรสอย่างแน่นอน

แบตเตอรี่

OPPO A17 แม้จะมีดีไซน์ที่บางเบา แต่ก็ให้แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000mAh พร้อมซอฟต์แวร์อัจฉริยะ จึงมั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง ไม่พลาดทุกการติดต่อและมอบความเพลิดเพลินด้านความบันเทิงได้ตลอดทั้งวัน และนอกจากจะให้แบตเตอรี่ความจุสูงแล้ว  OPPO A17 ยังอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เด่น ๆ ที่ช่วยให้สามารถใช้งานได้ยาวนานและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้  

ฟีเจอร์ประหยัดพลังงาน

Super Nighttime Standby
อัลกอริธึมนี้จะจดจำรูปแบบการนอนหลับของคุณและลดการใช้พลังงานโดยการจากัดแหล่งจ่ายไฟสาหรับส่วนประกอบต่างๆระดับแบตเตอรี่จะลดลงเพียง 2% ถึง 3% ในชั่วข้ามคืน

Optimized Night Charging
ฟีเจอร์นี้จะจัดกำหนดแผนการชาร์จแบตเตอรี่แบบแบ่งกลุ่มในช่วงเวลากลางคืนเพื่อให้แบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณมีสุขภาพที่ดี

SuperPowerSavingMode
เมื่อระดับแบตเตอรี่ลดลงเหลือ10% ระบบจะปรากฏขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มจำนวนแบตเตอรี่บิตสุดท้ายให้สูงที่สุด

อ่านต่อหน้า 2