ทดสอบการเล่นเกม
Pro Gaming
เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมขึ้นไปขั้นด้วย Pro Gaming Mode ซึ่งจะช่วยปรับแต่งการแสดงผลให้สวยงามสมจริงยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ด้วยการบล็อคการแจ้งเตือนต่าง ๆ ทั้งข้อความและสายเรียกเข้า รวมถึงยังมาพร้อมฟีเจอร์ในการบันทึกหน้าจอและล็อคระดับความสว่างของหน้าจอแสดงผลในขณะเล่นเกมได้อีกด้วย
เริ่มต้นทดสอบกันด้วยเกม Asphalt 9 โดยสามารถปรับกราฟิกที่ “คุณภาพสูง” ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 750G 5G ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ผสานด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 619 และ จอรีเฟรชเรท 90Hz ทำให้สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ให้ภาพสมูทสวยงาม ในภาพรวมถือว่าน่าประทับใจมาก ๆ
ต่อกันด้วย PUBG เกม แบตเทิลรอยัล สามมิติเต็มรูปแบบ เบื้องต้นสามารถตั้งค่ากราฟิกที่ระดับ HD และเฟรมเรทระดับสูง ซึ่งในการทดสอบจริง ทั้งการเคลื่อนไหว รวมถึงแอคชั่นต่าง ๆ ภายในเกมนั้นให้ความลื่นไหลที่ดีมาก ๆ เรียกว่าเล่นได้ไหลลื่น ไม่พบอาการหน่วงให้หัวร้อนอย่างแน่นอน
ตามด้วย ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา โดยค่าเริ่มต้น ตั้งค่าภาพ HD ได้ในระดับสูงมาก พร้อมเลือกการแสดงผลระดับสูง สามารถเล่นบนเฟรมเรทสูงได้สบาย ๆ โดยมีความ stable ในระดับ 58- 59 FPS แต่ถ้าแนะนำ ควรเลือกเป็นค่าเริ่มต้นที่เกมกำหนดให้ เพราะจะช่วยให้การเล่นเกมนั้นไหลลื่นสมูทสุด ๆ สามารถตีป้อมได้โดยไม่หงุดหงิดใจ
อีกหนึ่งเกมมาแรง Katekyō HITMAN REBORN! ด้วยเนื้อหาถูกลิขสิทธิ์ และยังมาพร้อมกราฟิคสวยงาม มีเอฟเฟคที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ โดยสามารถตั้งค่าการแสดงผลในระดับ “ขั้นสูง” ส่วนความลื่นไหลนั้นหายห่วง ไม่ว่าจะเป็นขณะแอคชั่น ตะลุมบอน ปล่อยเอฟเฟคพิเศษ ไม่พบอาการแลคให้เห็น เป็นอีกหนึ่งเกมที่เล่นได้สมูท ๆ บน OnePlus Nord CE 5G
สำหรับ Call of Duty สามารถปรับตั้งค่า คุณภาพกราฟิก Very High และเฟรมเรท Very High ในการทดสอบใช้งานจริง พบว่าการเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง ไม่พบอาการแลคหรือหน่วงให้หงุดหงิดใจ สามารถเล่นได้ไหลลื่น และมีความเสถียรในระดับที่น่าพึงพอใจมาก ๆ
ปิดท้ายกันด้วยสุดยอดเกม Survival shooter ที่มีผู้เล่นมากที่สุดในโลก ซึ่งการเล่นบน OnePlus Nord CE 5G สามามรถตั้งค่า กราฟิกระดับสูง, ความคมชัดระดับสูง, เปิดชาโดว์ และเฟรทเรทสูง ในแง่ Game Play นั้นไหลลื่น ไร้อาการแลคให้เห็น ส่วนหนึ่งตกยกความดีให้กับตัว ชิปเซ็ตที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ รวมถึง RAM 12GB แบบ LPDDR4 ผสานหน่วยความจำแบบ UFS2.1 ที่ช่วยในการอ่านเขียนข้อมูลและเปิดแอปพลิเคชั่นได้อย่างรวดเร็วทันใจ สรุป OnePlus Nord CE 5G เป็นสมาร์ตโฟน Mid-Range ที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างยอดเยี่ยมในราคาที่จับต้องได้อย่างแท้จริง
ด้านการใช้งาน
OnePlus Nord CE 5G ยังคงมาพร้อมกับ OxygenOS 11 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ลื่นไหลและตอบสนองได้เร็วที่สุดของ OnePlus และ OxygenOS 11 ได้มีการปรับปรุงคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ผู้ใช้งานชื่นชอบให้ดียิ่งขึ้น เช่น Dark Mode, Zen Mode และ Always-On Display (AOD)
นอกจากนี้ OxygenOS 11 ยังได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานด้วยมือเดียว ด้วยการปรับตำแหน่งระบบควบคุมแบบสัมผัสและการออกแบบที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ คำนึงถึงผู้ใช้งานจริง
นอกจากนี้ OnePlus ยังให้ความสำคัญการการอัพเดต Software โดย OnePlus Nord CE 5G จะได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นเวลาสองปี และการอัปเดตความปลอดภัยเป็นเวลาสามปีเพื่อให้สมาร์ตโฟนทำงานได้อย่างราบรื่นตลอดเวลา เทียบเท่ากับสมาร์ตโฟนระดับเรือธง OnePlus ทั้งหมด
มาพร้อมฟีเจอร์ด้าน Network และการโทรที่มีความโดดเด่นด้วยการรองรับเทคโนโลยี 5G ในแบบ NSA / SA (Dual-Mode) สามารถจับสัญญาณ 5G/4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รวมไปถึงยังรองรับการโทรผ่าน Wi-Fi และ Dual VoLTE ที่สามารถเปิด VoLTE ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม ทำให้การโทรผ่านสัญญาณที่มีความเร็วสูง มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบลื่นอีกด้วย
โดดเด่นด้วยอัตรารีเฟรชเรท 90Hz พร้อม Software ที่ปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งในเรื่องของโทนสี, โหมดมืด และโหมดการอ่านที่ช่วยถนอมสายตาของผู้ใช้งานเป็นต้น
ผู้ใช้งานสามารถที่จะ Customization การแสดงผลในภาพรวมของ OnePlus Nord CE 5G ได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, ชุดรูปแบบไอคอน, ฟอนต์, ภาพเคลื่อนไหวลายนิ้วมือ, รูปแบบหน้าจอ Ambient Display , เส้นไฟแจ้งเตือนสถานะที่ขอบด้านข้างตัวเครื่อง, โทนสีในเมนูต่าง ๆ รวมถึงฟีเจอร์ Canvas ที่จะเปลี่ยนรูปถ่ายให้กลายเป็นรูปลายเส้นการ์ตูน เพื่อใช้งานในหน้าล็อค สกรีน เป็นต้น
ตัวปรับเสียง Dirac สามารถปรับรูปแบบการเล่นเสียงได้ทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ Dynamic สำหรับปรับการเล่นเสียงให้เหมาะสมกับคอนเทนต์ที่กำลังเล่นอยู่แบบอัตโนมัติ, Flim สำหรับปรับการเล่นเสียงให้สมจริง เน้นเสียงพูดที่มีความชัดเจน และ Music สำหรับปรับแต่งการเล่นเสียงให้อยู่ในระดับกลาง ไม่หนักไปด้านใดด้านหนึ่ง รวมทั้งสามารถปรับแต่งเสียงอีควอไลเซอร์อัจฉริยะได้เมื่อเชื่อมต่อกับหูฟัง
สำหรับปุ่มนำทาง สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะกับความถนัดของเราได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมี Full Screen gesture ที่มาพร้อมฟีเจอร์สั่งการง่าย ๆ และสามารถใช้งานจอแสดงผลได้แบบเต็ม 100%
โดย Navigation gestures เป็นฟีเจอร์ที่ใช้การสไลด์นิ้วบนหน้าจอแสดงผลแทนการกดปุ่ม navigation เพื่อให้เหลือพื้นที่การใช้งานที่มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะใช้รูปแบบการสั่งการแบบไหน เช่นการลากจากขอบด้านล่างจากตำแหน่งตรงกลาง เพื่อกลับไปที่หน้าโฮม ซึ่งก็เหมือนการกดที่ปุ่มโฮมนั่นเอง
และยังมาพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกในการใช้งานด้วยท่าทางด่วน ที่สามารถจับภาพหน้าจอได้ง่าย ๆ ด้วยการปัดหน้าจอด้วยสามนิ้ว แตะสองครั้งเพื่อปลุกหน้าจอแสดงผล รวมถึงการวาดตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นตามที่กำหนด
มาพร้อมฟีเจอร์ยอดนิยมที่มีมาให้ใช้งานอย่างยาวนาน ก็คือโหมดการแบ่งหน้าต่างเพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่นไปพร้อม ๆ กัน เช่นแชทไปด้วยพร้อมดู YouTube ในขณะเดียวกัน และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คือแอพโคลน ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยม เช่น Line, Facebook หรือ Instagram ได้พร้อม ๆ กันถึง 2 แอคเคาท์ในเครื่องเดียว
ในภาพรวม OnePlus Nord CE 5G มีการจัดสรรพลังงานได้น่าประทับใจมาก ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปสามารถใช้งานได้ครบวันแบบสบาย ๆ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4000mAh ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน รวมถึง Firmware ที่ปรับแต่งมาให้สามารถจัดสรรพลังงานได้อย่างเหมาะสม
ส่วนถ้าใครเน้นเล่นเกมหรือใช้งานหนัก ๆ ตลอดทั้งวัน ก็ไม่ต้องซีเรียสครับ เพราะ OnePlus Nord CE 5G รองรับชาร์จไวด้วยเทคโนโลยี Warp Charge 30T Plus ที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นโดยเฉพาะ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใหญ่มากขึ้นถึง 4,500 mAh แต่ใช้เวลาชาร์จเท่าเดิมจาก 0 ถึง 70% ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ไม่ว่าจะถ่ายรูป ฟังเพลงหรือเล่นเกม ก็พร้อมให้คุณใช้งานได้ตลอดเวลา
ประสิทธิภาพ
OnePlus Nord CE 5G ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 750G 5G มอบประสบการณ์ที่เร็วและลื่นไหล มีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นก่อนหน้า 20% พร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 619 ที่แรงขึ้นกว่าเดิม 10% ในภาพรวม OnePlus Nord CE 5G เป็นสมาร์ตโฟน Mid-Range ระดับกลางค่อนไปทางสูงที่มาพร้อมความลื่นไหล สามารถตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป ๆ และรองรับการเล่นเกมได้ดีขึ้นกว่าเดิม
สำหรับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ก็ให้มาอย่างครบถ้วน อาทิ Gyroscope, Magnetic, Accelerometer ในส่วนของภาครับสัญญาณ GPS พบว่ามีความเร็วและความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ