เปิดตัวและวางจำหน่ายในบ้านเราอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ OnePlus 6 สมาร์ทโฟนเจ้าของฉายา “Flagship Killer” หรือ “นักฆ่าเรือธง” ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของแบรนด์ OnePlus ที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา และได้รับการตอบรับจากผู้ใช้เป็นอย่างดีด้วย
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อดีไหม? ลองมาอ่านรีวิวของ OnePlus 6 กันก่อนได้ครับ
อุปกรณ์ในกล่อง
กล่องแพ็คเกจจิ้งของ OnePlus 6 เป็นกล่องกระดาษแข็งสีขาวตัดแดง โดยด้านหน้ากล่องมาพร้อมตัวเลข 6 ขนาดใหญ่ และมีโลโก้ OnePlus อยู่ตรงกลางด้านบน ด้านซ้ายข้างกล่องมีสโลแกน The Speed You Need ส่วนด้านขวาข้างกล่องมีชื่อรุ่น OnePlus 6 และด้านหลังเป็นรายละเอียดของเครื่องรุ่นนี้
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับตัวเครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่, สายดาต้าลิงคฺ์ USB Type-C, เคสซิลิโคนสีดำใส, อุปกรณ์ถอด SIM Card, สติ๊กเกอร์ OnePlus, ใบรับประกัน และคู่มือการใช้งาน
รูปลักษณ์ดีไซน์
ตัวเครื่อง OnePlus 6 มีดีไซน์โค้งมนสวยหรู โดยใช้วัสดุที่ทำจากโลหะอย่างดีขึ้นรูปชิ้นเดียวแบบ Unibody ด้วยขนาด 155.7 × 75.4 × 7.75 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 171 กรัม เรียกว่ามีขนาดและน้ำหนักที่เหมาะมือกำลังดี พกพาและใช้งานได้ด้วยมือเดียวอย่างสะดวก
ด้านหน้าเครื่อง เริ่มจากด้านบนตรงกลางเป็น Notch หรือรอยบากตามเทรนด์นิยม ซึ่งเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ช่องลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้งปิดหน้าจอ และปรับความสว่างอัตโนมัติ
ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ Full Optic AMOLED ความละเอียด FHD+ 2280 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.28 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 พร้อมกระจกขอบโค้งแบบ 2D และที่ด้านล่างไม่มีปุ่มใดๆ โดยปุ่มควบคุมการใช้งานต่างๆ จะอยู่บนหน้าจอ และแสดงให้เห็นเมื่อใช้งาน
ด้านหลังเครื่องดีไซน์ขอบโค้งทั้ง 4 ด้านช่วยให้ถือจับใช้งานได้ถนัดมือ โดยตรงกลางด้านบนมีเลนส์กล้องคู่ในแนวตั้งความละเอียด 16+20 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ถัดลงมามีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และโลโก้ OnePlus
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องใส่ SIM Card ซึ่งรองรับ 2 SIM แบบ nanoSIM กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Alert Slider ใช้สำหรับเลื่อนขึ้นลงเพื่อปิดเสียง โดยเป็นปุ่มที่มีลักษณะขรุขระ ใช้งานเลื่อนขึ้น-ลง ได้ 3 สเต็ป ซึ่งบนสุดจะเป็นปิดเสียง ถัดลงมาตรงกลางเป็นการเปิดสั่น และล่างสุดคือการเปิดทั้งสั่นและเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power สำหรับเปิดและปิดเครื่อง
ด้านบนเครื่องมีช่องไมโครโฟนตัดเสียง
ด้านล่างเครื่อง ด้านซ้ายมีช่องลำโพงเสียง ตรงกลางมีพอร์ต USB Type-C ส่วนด้านขวามีช่องไมโครโฟน และช่องเสียบชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
สเปก OnePlus 6
ขนาด | 155.7 × 75.4 × 7.75 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 171 กรัม |
หน้าจอ | Full Optic AMOLED 16 ล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2280 พิกเซล ขนาด 6.28 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 |
หน่วยประมวลผล | Octa Core ความเร็ว 2.8GHz, ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 845 AIE, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 630 |
RAM | 6GB/8GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 64GB/128GB/256GB |
microSD Card- | – |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลังคู่ โดยกล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX 519 รูรับแสง f/1.7 และระบบโฟกัส DCAF กล้องรองความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX376K รูรับแสง f/1.7 และระบบโฟกัส PDAF พร้อมไฟแฟลช LED ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX 371 รูรับแสง f/2.0 |
ระบบปฏิบัติการ | OxygenOS based on Android Oreo |
เชื่อมต่อ | รองรับ 2×2 MIMO, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4G/5G, Bluetooth 5.0, NFC, USB Type-C |
รองรับระบบ | 4G LTE Band 1/2/3/4/5/7/8/12/17/18/19/20/25/26/28/29/30/32/66/71 และ 3G 850/900/1900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย) |
แบตเตอรี่ | 3,300 mAh รองรับ เทคโนโลยีชาร์จไว Fast Charge (5V 4A) |
ราคา | รุ่น RAM 6GB, ROM 64GB ราคา 17,999 บาท
รุ่น RAM 8GB, ROM 128GB ราคา 19,999 บาท รุ่น RAM 8GB, ROM 256GB ราคา 21,999 บาท |
คุณสมบัติการใช้งาน
OnePlus 6 รันบนระบบปฎิบัติการ OxygenOS 5.1 บนพื้นฐานระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo พร้อมสีสันสวยงามในแบบฉบัยสมาร์ทโฟน OnePlus ที่ไหลลื่น สามารถปรับแต่งเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และตั้งค่าต่างๆ
โดยในส่วนของหน้าจอหลักนั้น มีหน้าจอเริ่มต้นให้ใช้ทั้งหมด 3 หน้าหลักด้วยกัน โดยด้านซ้ายเป็นหน้า Smart Assistant หรือผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับใข้งานฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยโดยการแตะครั้งเดียว และดูข้อมูลสำคัญอย่างรวดเร็วในขั้นตอนเดียว ส่วนอีก 2 หน้าจอจะเป็นหน้าจอหลักสำหรับวางวิตเจ็ตต่างๆ
เมื่อใช้นิ้วแตะที่ด้านบนแล้วลากลงมาจะเป็นหน้าจอแจ้งเตือน Notifications รวมถึงเปิดปิดการเชื่อมต่อต่างๆ ทั้งอินเทอร์เน็ต, WiFi รวมทั้งปรับความสว่าง และตั้งค่าใช้งานต่างๆ และถ้าเลื่อนจากใต้หน้าจอขึ้นมาจะหน้ารวมแอปพลิเคชั่นทั้งหมด
สามารถปรับเลือกโทนสีของหน้าจอได้ โดยเข้าไปที่เมนูตั้งค่า > การแสดงผล > การคาลิเบรทหน้าจอ โดยจะมีให้เลือกปรับกว่า 5 โหมด ได้แก่ ค่าเริ่มต้น, sRGB, DCI-P3, โหมดปรับตัว และสีกำหนดเอง
OnePlus 6 มาพร้อมจอ Notch หรือจอที่รอยบาก เพื่อแสดงหน้าจอได้กว้างเต็มขอบ ซึ่งใครที่ไม่ชอบก็สามารถตั้งค่าเลือกเปิด/ปิดได้ โดยเข้าไปที่เมนูการแสดงผล > แสดงรอยบาก > เลือกแสดง หรือซ่อนรอยบากบนหน้าจอได้
รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับเครือข่าย 4G LTE with VoLTE และรองรับ Dual 4G สามารถใช้งานบนเครือข่าย 4G ทั้ง 2 ซิม
ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง รองรับการตั้งค่าได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ โดยก่อนใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือพร้องตั้งรหัสแบบ PIN หรือแบบอื่นๆ ก่อน
มาพร้อมฟีเจอร์ Face Unlock หรือการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น และหน้าจอจะต้องสว่างก่อนถึงใช้งานได้ แต่ก็ทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเอียง หรือหน้าตรง
รองรับ Parallel Apps หรือแอปคู่ขนาน ผู้ใช้สามารถใช้งาน 2 บัญชีบนแอปพลิเคชันที่รองรับอย่าง Facebook, LINE หรือแอปสังคมออนไลน์ต่างๆ ได้พร้อมกัน เหมือนแอปโคลน
คุณสมบัติอื่นๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน
ด้านการถ่ายภาพ
OnePlus 6 มาพร้อมกล้องหลังคู่ Dual Camera และไฟแฟลชคู่ Dual Tone LED โดยกล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX 519 รูรับแสง f/1.7 และระบบโฟกัส DCAF กล้องรองความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX376K รูรับแสง f/1.7 และระบบโฟกัส PDAF
รวมถึงมีโหมด HDR, Portait, เคลื่อนไหวช้า, โหมดถ่ายภาพโปร, การหน่วยเวลา, พาโนราม่า และโหมดหน้าสวย โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4608 x 3456 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K @60FPS
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX 371 รูรับแสง f/2.0 ขนาดพิกเซล 1.0 µm พร้อมโหมดถ่ายภาพ Portrait ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการเป็นผู้ช่วยประมวลผลอัจฉริยะทุกชอตที่คุณถ่ายจึงออกมาสวยงาม
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
[Best_Wordpress_Gallery id=”26″ gal_title=”OnePlus6″]
ประสิทธิภาพ
OnePlus 6 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.8GHz, ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 845 AIE, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 630, RAM 6GB/8GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 64GB/128GB/256GB
ทดสอบประสิทธิภาพโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า สามารถใช้งานได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม Asphalt 9 และ RoV ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และเล่นนานๆ เครื่องก็ไม่มีอาการร้อนอีกด้วย โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ OnePlus 6 ผ่านแอป Antutu
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ OnePlus 6 ผ่านแอป GeekBench
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ที่ใช้กับเครื่องรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ถึง 3,300 mAh โดยมาพร้อมระบบชาร์จไว Dash Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% – 50% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และชาร์จเต็ม 100% ก็ราวๆ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้หากใช้งานทั่วไป แบตเตอรี่เต็มอยู่ได้หนึ่งวันโดยไม่ต้องชาร์จ
และมาพร้อมโหมดประหยัดแบตเตอรี่ หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานต่อเนื่องใน 1 วันปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 10-12 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้งานอินเทอร์เน็ตในเครือข่าย 4G แบตก็อาจหมดเร็วขึ้น โดยรวมแล้วสามารถใช้งานได้ใน 1 วันสบายๆ
บทสรุป
OnePlus 6 ถือเป็นสมาร์ทโฟนเจ้าของฉายานักฆ่าเรือธงรุ่นที่ 6 ที่มาพร้อมดีไซน์สวยหรูสะดุดตา พร้อมหน้าจอแบบ Full Screen ที่รอยบากตามเทรนด์นิยม รวมไปถึงการใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 845 สุดแรงที่ช่วยทำให้การประมวลผลเป้นไปอย่างราบลื่นไม่มีสะดุด
และ OxygenOS ระบบปฏิบัติการของ OnePlus 6 ถูกพัฒนาให้ดีเยี่ยมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ใช้งานได้ลื่นไหล เรียบง่าย สะอาดตา และมีความสามารถในการปรับแต่งได้มากกว่าอุปกรณ์แอนดรอยด์ทั่วไป
นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องหลังคู่ที่มาพร้อมระบบ Advanced HDR ที่ทำให้แสงและเงาจากภาพถ่ายของ OnePlus 6 สวยคมชัดในทุกสภาพแสง รวมถึงโหมดถ่ายภาพ Portrait ที่ถ่ายหน้าชดหลังละลายทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ในการเป็นผู้ช่วยประมวลผลอัจฉริยะทุกชอตที่คุณถ่ายจึงออกมาสวยงามโดดเด่นกว่าที่เคย
ปิดท้ายด้วยพีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งเลยนั่นก็คือ เทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dash Charge เพียงชาร์จแค่ 30 นาทีก็เพียงพอต่อการใช้งานได้ตลอดทั้งวันแล้ว
ทั้งนี้ตัวเครื่อง OnePlus 6 ที่นำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรามีให้เลือก 3 สีคือ Mirror Black, Midnight black และ Silk White วางจำหน่ายแล้วในราคาเริ่มต้นที่ 17,999 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์จากพาร์ทเนอร์ชั้นนำอย่าง AIS, JD Central และช่องทางออฟไลน์จาก PowerBuy ทั้ง 15 สาขา
คลิกซื้อสมาร์ทโฟน OnePlus 6 ได้ที่นี่ >>>