คลังเก็บ

รีวิว nubia Neo 3 GT 5G เกมมิ่งโฟนสเปคแรง, จอ AMOLED 120Hz, แบตอึด 6,000 mAh และมีปุ่ม Triggers ในราคาจับต้องได้

ช่วงนี้ ใครที่มองหาสมาร์ตโฟนสำหรับเล่นเกมเครื่องใหม่ ลองดูรุ่นที่เราจะรีวิวกันครับ นั่นคือ nubia Neo 3 GT 5G เกมมิ่งโฟนรุ่นอัปเกรดใหม่ประจำปี 2025

หลังจากที่รุ่นก่อนหน้าที่เรารีวิวไปอย่าง nubia Neo 2 5G ก็เป็นเกมมิ่งโฟนราคาประหยัดที่มาพร้อมสเปคเล่นเกมลื่นๆ กลับมาในรุ่นใหม่นี้มีหลายอย่างที่อัปเกรดขึ้นจากเดิม ซึ่งเราจะไปเล่าให้ฟังกันในรีวิวนี้กันครับ 

nubia Neo 3 GT 5G

เกริ่นคร่าวๆ กันก่อน nubia Neo 3 GT 5G เป็นเกมมิ่งโฟนที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สวยสะดุดตา มีหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ 6.8 นิ้ว 120Hz ความละเอียด Full HD+ มีระบบระบายความร้อนขั้นสูงด้วยห้องไอ VC เล่นเกมมันส์ขึ้นด้วยปุ่ม Shoulder Triggers ที่ตั้งค่าให้เป็นปุ่มลัดได้ตามใจชอบ และที่สำคัญ ให้แบตมาเยอะจุใจเช่นเคยที่ 6,000 mAh และชาร์จไว 80W Super Charging ด่วนๆ สเปคจัดจ้านขนาดนี้ ใช้จริงจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ ก่อนอื่นไปดูอุปกรณ์ในกล่องและสเปคกันก่อน

แกะกล่อง nubia Neo 3 GT 5G 

  • สมาร์ตโฟน nubia Neo 3 GT 5G 
  • หัวชาร์จเร็ว 80W
  • สายดาต้า USB-C
  • เคสใส
  • เข็มถอดซิม
  • คู่มือและใบรับประกัน

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องถือว่าให้มาครบถ้วนพร้อมใช้เช่นเคย ซึ่งแม้ว่าในปีนี้ความเร็วการชาร์จของโทรศัพท์จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 33W เป็น 80W แต่ในกล่องก็ยังแถมที่ชาร์จความเร็วสูงขึ้นมาให้ด้วย จัดว่ายังใส่ใจผู้ใช้เช่นเคย 

นอกจากนี้ เคสใสที่ให้มายังเป็นเหมือนสไตล์เดิมครับ คือเป็นเคสใสที่มีความขุ่นเล็กน้อย ให้ได้โชว์ดีไซน์สวยๆ ของฝาหลัง และเป็นเคสที่ปกปิดด้านข้างแค่มุมตัวเครื่องเช่นเดิม

สเปค nubia Neo 3 GT 5G

  • หน้าจอขนาด 6.8 นิ้วแบบ OLED, 120Hz ความละเอียด Full HD+ (2392 x 1080 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 1300nits 
  • CPU Unisoc T9100 5G (6nm) แบบ Octa-Core 2.7GHz 
  • RAM 12GB + virtual RAM 12GB รวมเป็น 24GB
  • หน่วยความจำภายใน 256GB 
  • ไม่รองรับ MicroSD Card
  • กล้องถ่ายภาพ
    • กล้องหลัก 50MP Auto Focus
    • กล้องเสริม Depth 2MP 
    • กล้องหน้า 16MP
  • ลำโพงคู่ Stereo
  • ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. 
  • รองรับ NFC
  • มีสแกนนิ้วบนหน้าจอ และสแกนใบหน้า
  • แบตเตอรี่ 6,000 mAh 
  • ชาร์จเร็ว 80W รองรับ Bypass Charging
  • รองรับ 5G Dual nano SIM
  • เซ็นเซอร์ GPS, WiFi 2.4G/5G, 802.11 a/b/g/n/ac, BT 5.2, Accelerometer, VOLTE, DTS X Ultra, Live island,mini-LED light, Linear Motor
  • ตัวเลือกสี สีเหลือง Electro Yellow และสีเทาดำ Interstellar Gray
  • ราคาเปิดตัว 8,999 บาท

ดีไซน์การออกแบบ

nubia Neo 3 GT 5G ยังคงมาพร้อมภาษาการออกแบบที่ดูทันสมัย มีชีวิตชีวาไม่เหมือนใคร ซึ่งทาง nubia เรียกการออกแบบนี้ว่า Cyber-Mecha Design ที่ดูคล้ายหุ่นยนต์รบจากอนาคต และที่สำคัญ ในปีนี้มีการเพิ่มไฟ Mini LED และไฟ RGB ที่ด้านหลัง ที่จะเรืองแสงขึ้นขณะเล่นเกม หรือทำการชาร์จแบต ให้การเล่นเกมที่มีฟิลลิ่งมากขึ้นด้วยไฟ RGB ที่เกมเมอร์ชื่นชอบ

ด้านหน้าจอปีนี้ก็ขยายใหญ่ขึ้น จากเดิม 6.72 นิ้วเพิ่มเป็น 6.8 นิ้ว แถมยังอัปเกรดหน้าจอจาก LCD 120Hz เป็น OLED 120Hz ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดที่สำคัญ เนื่องจากหน้าจะสามารถแสดงสีสันได้สดโดดเด้งมากขึ้น รวมถึงการสแกนนิ้วมือ จากเดิมจะสแกนบนปุ่ม Power ด้านข้าง ปีนี้ได้จอดีขึ้นก็สามารถสแกนบนหน้าจอตามเทรนด์สมัยนิยมได้แล้ว จัดว่าล้ำไปอีก

และที่ขาดไม่ได้สำหรับเกมมิ่งโฟนตระกูล Neo Series ของ nubia คือปุ่มบริเวณไหล่เครื่อง Dual Gaming Shoulder Triggers ที่เราสามารถตั้งค่าได้ตามใจชอบ เหมาะมากสำหรับเกมแบบ FPS หรือเกมยิงๆ หรือแม้แต่เกมแข่งรถก็สามารถ Map ให้เป็นปุ่มลัดไม่เหมือนใครได้ครับ 

ส่วนปุ่มควบคุมเสียงปีนี้ถูกย้ายมาอยู่ฝั่งขวาข้างปุ่ม Power สีแดงสุดโดดเด่น ทำให้อีกฝั่งทางด้านซ้าย ตอนนี้ไม่มีปุ่มอะไรเลย

ด้านบนมีไมค์ตัวที่สอง

ส่วนด้านล่างจะมีช่องลำโพง, พอร์ต USB-C, ไมค์สนทนา และถาดใส่ซิม ซึ่งรุ่นนี้จะใช้นาโนซิมคู่ และไม่มีช่องใส่ซิมเสริม เช่นเดียวกับพอร์ต 3.5 มม. ในรุ่นนี้ก็ไม่ได้ให้มาเช่นเคย

ด้านดีไซน์การออกแบบของ nubia Neo 3 GT 5G โดยรวมจะดูพัฒนามาจากรุ่นเดิม แต่มีการปรับแต่งในหลายส่วน ทำให้ดูสวยเข้มขึ้น เกาะกล้องด้านหลังยังเป็นแบบ 8 เหลี่ยม แต่รอบนี้แยกไฟแฟลชออกมาเป็นของตัวเอง โดยรวมถึงว่ายังสวยและดูดีมากเช่นเคย ในส่วนของขนาดก็ถือว่ากำลังดีจับได้ถนัดดี และมีน้ำหนักกำลังถือสบาย เล่นเกมนานๆ ก็สบายมือ

ประสิทธิภาพการใช้งาน

nubia Neo 3 GT 5G มาพร้อมชิป Unisoc T9100 ชิปเซ็ตระดับกลางแบบ Octa-Core ทำงานแบบ 3 คลัสเตอร์ ประกอบด้วยคอร์หลัก Cortex-A76 ทำงานที่ความเร็ว 2.7GHz x1, คอร์รอง Cortex-A76 2.3GHz x3 และคอร์ประหยัดพลังงาน Cortex-A55 2.1GHz x4 โดยจะทำงานร่วมกับกราฟฟิกชิป Mali-G57 และยังมีฟีเจอร์ NeoTurbo ที่ใช้อัลกอริทึม AI ในการจดจำลักษณะการใช้งานของผู้ใช้และปรับแต่งอัตโนมัติเพื่อให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อม RAM เยอะถึง 12GB (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 8GB) ทำงานร่วมกับ RAM เสมือนอีก 12GB รวมแล้วเป็น 24GB เหลือเฟือสำหรับทั้งการใช้งาน multi-tasking หรือเล่นเกมลื่นๆ ในขณะที่หน่วยความจำจะให้มาที่ 256GB ถือว่าให้เยอะประมาณนึง

แต่อย่างไรก็ตาม เทียบกับปีก่อนที่ให้มา 256GB เท่ากัน ถือว่าจุดนี้น่าจะให้เยอะขึ้น เพราะปีนี้หลายค่ายก็เริ่มให้ 256GB กันเป็นปกติแล้ว และรุ่นนี้อย่าลืมว่าไม่รองรับ microSD Card ด้วย ดังนั้นอาจทำให้เกิดการเปรียบเทียบได้ แต่ส่วนตัวก็ถือว่าพอเพียงสำหรับคนไม่เก็บหนังเก็บไฟล์อะไรเยอะแยะ

การทดสอบการเล่นเกมเราจะใช้เกม RoV ซึ่งเป็นเกมที่ยังได้รับความนิยมบนมือถืออย่างต่อเนื่อง กราฟฟิกก็ถือว่าทำได้ลื่นมาก สามารถรันเฟรมเรทแบบ 60FPS ได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด

ถัดมาเราลองมาเล่นเกมยิ่งสไตล์ FPS หรือ First-Person Shooting กันบ้าง อย่างเช่นเกม PUBG Mobile เพื่อให้ได้ทดสอบการเล่นเกมด้วย Triggers ซึ่งเราตั้งค่าเอาไว้ให้เป็นปุ่มยิง และปุ่มซูม รวมถึงยังสามารถตั้งค่าให้เป็นการกดปุ่มครั้งเดียว กดค้าง หรือกดรัวๆ โดยรวมการใช้งานถือว่าสะดวกมาก สามารถยิงคู่แข่งได้อย่างแม่นยำสมกับสโลแกน Born To Win จริงๆ 

ในส่วนของการเล่นเกมยังมาพร้อม AI Game Space 3.0 เวอร์ชั่นใหม่ โดยในรุ่นนี้มีการปรับหน้าตาให้ดูสวยงาม ทันสมัยมากขึ้น มาพร้อม UI ที่เข้าใจง่าย สามารถกดใช้งานหรือปรับตั้งค่าได้หลากหลาย และมีฟังก์ชันการใช้งานที่มีประโยชน์สำหรับการเล่นเกม เช่น การบล็อคการโทรขณะเล่นเกม การบันทึกหน้าจอ ตั้งค่าความสว่าง ปรับระดับความดังของเสียง และยังมีระบบ AI ช่วยปรับสมรรถนะตัวเครื่องให้เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมที่สุด เป็นต้น 

จุดเด่นอีกอย่างด้านการเล่นเกมก็คือ การมาพร้อมระบบระบายความร้อนระดับสูงด้วยห้องไอ VC ขนาด 4083mm² ช่วยจัดการความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เล่นเกมได้นานขึ้น ช่วยรักษาประสิทธิภาพสูงสุดได้สม่ำเสมอ ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่น ไม่หน่วง 

และแม้ว่าแบตเตอรี่จะให้มาเท่าเดิมที่ 6,000 mAh แต่อัปเกรดความเร็วขึ้นสูงถึง 80W จากเดิม 33W เท่านั้น และยังใจดีแถมที่ชาร์จเร็วมาให้ในกล่องด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ระบบชาร์จยังรองรับ Bypass Charging ที่ระบบชาร์จจะส่งพลังงานไปที่เครื่องโดยตรงโดยไม่ผ่านแบตเตอรี่ ช่วยให้ลดอุณหภูมิขณะเล่นเกม และยังช่วยถนอมแบตให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วย 

ระบบเสียงของรุ่นนี้เป็นแบบ Stereo ซึ่งใช้ลำโพงด้านล่างทำงานร่วมกับช่องเสียงด้านบนหน้าจอ พร้อมรองรับระบบเสียง DTS:X Ultra ให้เสียงที่มีมิติ นุ่มลึกขึ้น

และด้านล่างนี้เป็นการทดสอบ Benchmark ด้วยโปรแกรมต่างๆ ครับ คะแนนถือว่าอยู่ในระดับที่น่าประทับใจสำหรับกลุ่มราคานี้

ผลทดสอบ AnTuTu Benchmark

ผลทดสอบ 3DMark

ผลทดสอบ PCMark for Android

ผลทดสอบ Geekbench 6

ด้านระบบรักษาความปลอดภัย สมาร์ตโฟนรุ่นนี้รองรับการปลดล็อคเครื่อง 2 แบบหลักๆ คือ การสแกนใบหน้า และการสแกนนิ้ว ซึ่งในปีนี้จะอัปเกรดจากเดิมที่ใช้การสแกนที่ปุ่ม Power เปลี่ยนมาสแกนบนหน้าจอที่ทันสมัยและแม่นยำมากขึ้น

นอกจากจะเล่นเกมดีแล้ว ยุคนี้ใครๆ ก็มี AI ใช้ครับ โดยรุ่นนี้ยังรองรับ AI เช่น AI Real-time Translate ที่ช่วยแปลภาษาแบบสดในการสนทนาโทรศัพท์ หรือ AI Conversation Translate สำหรับแปลข้อความสด เป็นต้น

กล้องถ่ายภาพ

แม้จะเป็นมือถือที่เน้นการเล่นเกมเป็นหลัก แต่ nubia Neo 3 GT 5G ก็เป็นมือถือมีกล้องถ่ายภาพที่ใช้ได้เช่นกัน โดยมาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับการโฟกัสภาพอัตโนมัติ Auto Focus ทำงานร่วมกับกล้องเสริม 2 ล้านพิกเซล และมีไฟแฟลช LED ที่บอกเลยว่าสว่างมากๆ จะใช้เป็นแฟลชเพิ่มความสว่างในการถ่ายที่แสงน้อยก็ดี หรือจะใช้เป็นไฟฉายก็มีประโยชน์

คุณภาพของกล้องก็ถือว่าดีใช้ได้ครับ โดยระบบกล้องสามารถโฟกัสภาพได้อย่างรวดเร็ว และในรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมระบบการถ่ายภาพด้วย AI ที่เรียกว่าระบบ Neovision AI สำหรับการถ่ายภาพและวีดีโอให้สวยงามทุกที่ทุกเวลา ดังนี้ AI Super Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืน, AI Sport Snapshop สำหรับถ่ายภาพเคลื่อนไหวเร็ว, AI HDR ถ่ายภาพเก็บรายละเอียดทั้งส่วนมืดและสว่าง หรือ AI Magic Editor แต่งวัตถุในภาพด้วย AI เป็นต้น

ลองชมตัวอย่างภาพด้านล่างนี้เลยครับ 

บทสรุป

nubia Neo 3 GT 5G เกมมิ่งโฟนรุ่นใหม่สำหรับปี 2025 ยังเป็นมือถือที่น่าใช้อีกเครื่องในงบประมาณต่ำหมื่นครับ โดยเฉพาะคนที่ชอบมือถือสเปคแรง จอสวย เล่นเกมลื่น ซึ่งปีนี้ยังคงจุดแข็งในส่วนของปุ่มพิเศษที่ไหล่เครื่อง Shoulder Triggers, มี AI Game Space 3.0 ที่ชาญฉลาด, มีระบบระบายความร้อนชั้นสูง 4083mm² VC Cooling และดีไซน์สวยงามที่ด้านหลังซึ่งตกแต่งด้วยไฟ RGB Light ที่สวยงาม

ทำให้สมาร์ตโฟนรุ่นนี้เป็นเกมมิ่งโฟนที่มีสเปคดีในราคาจับต้องได้ สามารถเล่นเกมได้หลากหลายตั้งแต่กราฟฟิกระดับเริ่มต้น ไปจนถึงกราฟฟิกระดับสูง แถมยังมีแบตเตอรี่เยอะสุดอึด 6,000 mAh ชาร์จเร็ว 80W พร้อมระบบ Bypass Charging ที่ช่วยลดความร้อน พร้อมถนอมแบตฯ อีกด้วย

nubia Neo 3 GT 5G มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 8,999 บาท เทียบกับ Neo 2 5G ปีที่แล้วซึ่งเปิดตัวด้วยราคา 6,999 บาท กับราคาที่เพิ่มขึ้นส่วนตัวผู้เขียนถือว่าไม่แพงเลยครับ เพราะรุ่นใหม่มาพร้อมหน้าจอดีขึ้น เทคโนโลยีใหม่ขึ้น เช่น หน้าจอ AMOLED 120Hz, ใหญ่ขึ้นเป็น 6.8 นิ้ว, RAM เยอะขึ้น, การสแกนนิ้วบนหน้าจอ, มีไฟ RGB สวยขึ้น, ชาร์จไวขึ้น 80W, เพิ่ม AI ที่ใช้งานได้จริง และมีระบบระบายความร้อน VC โดยรวมส่วนตัวคิดว่าคุ้มมากครับ