คลังเก็บ

รีวิว nubia Music พลังเสียงชัดกระหึ่ม 600% เสียบหูฟัง 2 คู่ ดูหนังฟังเพลงสุดมันส์

สมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ในตลาดปัจจุบัน มักจะเน้นอยู่ 2 ด้านหลักๆ ครับ คือด้านการถ่ายภาพ หรือด้านการเล่นเกม แต่วันนี้เรามีสมาร์ตโฟนที่ค่อนข้างแหวกแนว จับกลุ่มสำหรับคนชื่นชอบการฟังเพลงเป็นหลัก คือ nubia Music ที่เราได้มารีวิวนี้นั่นเอง

nubia Music

โดย nubia Music ถูกเปิดตัวที่งาน Mobile World Congress 2024 หรือ MWC24 อุปกรณ์มาพร้อมการออกแบบพิเศษด้วยลำโพงคุณภาพสูงและอัลกอริธึมระดับเสียงสูงสุดที่ขับเคลื่อนด้วย AI มอบพลังเสียงที่สูงกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 600% และยังมีแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม. อีก 2 ช่อง มอบประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำแก่ผู้ใช้และอำนวยความสะดวกในการแบ่งปันเสียงดนตรีกับคนข้างๆ แต่ใช้งานจริงในด้านต่างๆ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น พวกเราทีมงาน MobileOcta ทดสอบมาเล่าให้ฟังกันแล้วครับ ไปติดตามกันได้เลย

แกะกล่อง nubia Music

  • สมาร์ตโฟน nubia Music
  • สายดาต้า
  • หัวชาร์จ
  • เคสใส
  • ฟิล์มกันรอย
  • หูฟังสองคู่
  • คู่มือและใบรับประกัน

nubia Music เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ให้อุปกรณ์ในกล่องค่อนข้างครบถ้วนทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นสายชาร์จและหัวชาร์จ เคสใส ฟิล์มกันรอย แค่นี้จริงๆ ก็ถือว่าให้มาครบพร้อมใช้แล้ว แต่ยังพิเศษกว่าค่ายทั่วไปด้วยการให้หูฟัง ที่ไม่ใช่แค่ 1 แต่ให้มาถึง 2 คู่ ซึ่งจริงๆ การแถมหูฟังในกล่องเราแทบจะไม่ได้เห็นมาหลายปีแล้ว ดังนั้น ณ จุดนี้ในส่วนของอุปกรณ์ในกล่องต้องถือว่าให้ 10 คะแนนเต็ม 10 ไปเลยครับ ส่วนที่ชาร์จจะเป็นแบบ 2.0A ธรรมดา ก็ชาร์จได้ความเร็วธรรมดาครับ

สเปค nubia Music 

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว รองรับความถี่ 90Hz ความละเอียด 1612 x 720 พิกเซล (267 ppi) 
  • ขนาดตัวเครื่อง 163.6 x 74.9 x 8.6 มม.
  • CPU Unisoc SC9863A (28 nm) Octa-Core Cortex-A55 1.6 GHz x4, Cortex-A55 1.2GHz x4
  • GPU IMG8322
  • ระบบปฏิบัติการ Android 14
  • RAM 4GB + Virtual RAM 4GB
  • หน่วยความจำภายใน 128GB
  • รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB 
  • กล้องถ่ายภาพ
    • กล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล PDAF + กล้องเสริม AI พร้อมไฟแฟลช LED 
    • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
  • รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi 2.4GHz, Bluetooth 5.2, GPS, A-GPS, BDS, GLONASS, GALILEO, QZSS, USB OTG
  • แบตเตอรี่ 5000mAh 
  • สแกนนิ้วมือข้างตัวเครื่องบริเวณปุ่ม Power 
  • รองรับ FM Radio แบบมีเสาอากาศในตัว
  • ตัวเลือกสี : Pop Art (เครื่องที่เรารีวิว) และสีส้ม Zeel Orange 
  • ราคาเปิดตัว 2,999 บาท

ดีไซน์การออกแบบ

nubia Music เป็นสมาร์ตโฟนที่ออกแบบภายใต้สโลแกน “Be Yourself” ที่จับกลุ่มผู้ใช้คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความเป็นตัวของตนเอง ไม่ชอบทำตามใคร ดังนั้น nubia Music จึงเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการดูหนังฟังเพลงเป็นหลัก 

มีดีไซน์การออกแบบ Classic Vinyl Record Player Design ที่ด้านหลังที่คล้ายกับเครื่องเล่นเพลงไวนิลสุดคลาสสิค พร้อมกับกราฟฟิกสะท้อนแสงแบบ Holographic Optical Film และมีการเล่นสีสันที่ดูสนุกสนาน ไม่ซ้ำซากจำเจ ไม่เหมือนใคร และมีลำโพงขนาดใหญ่พร้อมโลโก้ระบบเสียง UTS:X Ultra การันตีคุณภาพเสียงเพลงกระหึ่มสะใจ ซึ่งเราจะเล่าให้ฟังกันในส่วนต่อไป

ด้านหน้าจอ IPS LCD มีขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1612 x 720 พิกเซล และรองรับความถี่ 90Hz ที่ลื่นไหล ซึ่งเหมาะมากสำหรับโทรศัพท์ที่เสียงดีแบบนี้ครับ เพราะจะช่วยให้การดูหนังฟังเพลง ดูซีรีย์ หรือดูคลิปโซเชียลได้มันส์ขึ้นไปอีกระดับเลยครับ 

ด้านบนจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ถึง 2 ช่อง จะฟังกับแฟนหรือกับเพื่อนบนรถไฟฟ้า ก็เพลินเต็มอรรถรส ไม่ต้องแบ่งกันคนละหูเหมือนที่ผ่าน ฟังเพลงดูหนังพร้อมกันได้เต็มพลัง

ด้านซ้ายไม่มีอะไรนอกจากช่องใส่ซิมการ์ด ซึ่งรุ่นนี้จะใช้ซิมการ์ดแบบนาโนซิม รองรับ 2 ซิมการ์ด และซิมสองจะเป็นแบบไฮบริดครับ ซึ่งต้องเลือกใส่ระหว่างซิมการ์ด หรือว่าการ์ด microSD ที่รองรับสูงสุดที่ 1TB

ปุ่มควบคุมจะอยู่ที่บริเวณด้านขวา โดยจะมีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สีแดงแรงฤทธิ์ ที่ใช้สำหรับการสแกนนิ้วเพื่อตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล หรือ Biometrics ด้วยนั่นเอง

และด้านล่างจะมีไมค์และพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จและโอนถ่ายข้อมูลครับ 

โดยรวมด้านการออกแบบของ nubia Music ทำมาค่อนข้างดีครับ ให้ความรู้สึกสวยคลาสสิค เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มองหาอุปกรณ์ที่มีดีไซน์โดดเด่น แปลกใหม่ ฉีกจากการออกแบบที่เหมือนกับ copy&paste ของหลายค่ายในตลาด โดยเฉพาะบริเวณลำโพงด้านหลังขนาดใหญ่ ที่พอได้เห็นก็ไม่ต้องบอกว่ารุ่นนี้เน้นเสียงเพลงอย่างแน่นอน 

พลังเสียงดังสะท้านตับ 600%

จุดเด่นแรกของ nubia Music แน่นอนว่าต้องเป็นด้านพลังเสียงอย่างแน่นอนครับ เพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับลำโพงนอกขนาดใหญ่ ให้พลังเสียงที่ดังลั่นทุ่ง มีความดังมากกว่ามือถือทั่วไปถึง 6 เท่า หรือ 600% 

ซึ่งจากที่เราทดสอบก็เป็นตามนั้นครับ nubia Music ให้พลังเสียงที่ดังดีจริงๆ สามารถสู้เสียงแวดล้อมที่ดังอย่างริมถนนได้เป็นอย่างดี แต่ตรงนี้ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวังด้วยครับ เพราะในที่สาธารณะก็อาจต้องใช้เสียงอย่างเหมาะสม ซึ่งอาจจะไปรบกวนคนอื่นได้ 

ด้านคุณภาพเสียงยังรองรับระบบ DTS:X Ultra ที่ปรับเสียงให้นุ่มนวลมากขึ้น ไม่แหลมบาดหูอย่างมือถือราคาประหยัดรุ่นอื่นๆ ครับ เหมาะทั้งสำหรับการฟังเพลงหรือการดูหนังก็ให้เสียงที่ดีครับ 

การเปิดใช้งานพลังเสียงให้ดังสุด 600% ขั้นแรกต้องเปิดลำโพงให้ดังสุดก่อนครับ จากนั้นกดเพิ่มเสียงอีกครั้งจะเป็นการเพิ่มความดังไป Volumn Booster ระดับแรก และกดเพิ่มเสียงอีกครั้ง ก็จะเป็นระดับสูงสุด ดังเต็ม MAX กระฉูดแตกกันไป

เสียบหูฟังได้ 2 คู่ ไม่ต้องแบ่งฟังคนละข้าง

เบื่อมั้ยครับ หากต้องการเสียบหูฟังสำหรับดูหนังด้วยกันกับแฟนหรือกับเพื่อน แต่ต้องแบ่งกันฟังด้วยหูฟังคนละข้าง? จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถเสียบหูฟังได้ 2 คู่พร้อมกัน ทำให้ดูหนังหรือฟังเพลงได้เต็มอรรถรสยิ่งขึ้น จุดนี้ nubia Music ถือว่าทำมาได้ดีทีเดียวครับ

และที่สำคัญ ไม่ต้องไปหาหูฟังเพิ่มที่ไหน เพราะในกล่องเขาให้มาแล้ว 2 คู่ด้วยกัน ใจดีขนาดนี้ ไม่รักยังไงไหว 

แต่อย่างไรก็ตาม คุณภาพของหูฟังที่ให้มาก็อยู่ในระดับที่พอใช้ พอฟังได้นะครับ ดังนั้นหากต้องการคุณภาพของเสียงที่ดีขึ้น ก็สามารถเอาหูฟังแพงๆ หรือชอบแบบไหนก็ซื้อหากันมาเสียบฟังเพลงของตัวเองกันได้เลย

เอฟเฟคแสง Dual Musical Light Effects 

เสียงเพลงเพราะสบายใจแล้ว เอฟเฟคแสงก็ดูเพลินไม่แพ้กันครับ เพราะ nubia Music ให้เอฟเฟคแสง Dual Musical Light Effects สำหรับแสดงขณะเล่นเพลงถึง 2 แบบ อย่างแรกเลยจะเป็น Dreamy Breathing Light Effect ซึ่งเป็นไฟกระพริบบริเวณลำโพงด้านหลัง ตรงตัวอักษร dts:x นั่นล่ะครับ ซึ่งจะแสดงสีสันได้หลากหลายสีสันเป็นจังหวะที่สวยงาม

อีกส่วนจะเป็นเอฟเฟค Screen Light Effect ที่จะเป็นไฟกราฟฟิกรอบหน้าจอดูเพลินตาเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถปรับแต่งให้เป็นแบบที่ชื่นชอบได้เองด้วยครับ 

มีเสาสัญญาณ FM Radio ในตัว

ส่วนใหญ่สมาร์ทโฟนที่รองรับ FM Radio จะต้องใช้หูฟังเพื่อรับสัญญาณใช่มั้ยครับ แต่สำหรับ nubia Music รุ่นนี้จะให้เสาสัญญาณในตัวมาเลย เพิ่มความสะดวกสำหรับคนชอบฟังเพลงผ่านวิทยุ FM ฟังข่าว หรือฟังบอลผ่านวิทยุครับ

แต่จุดนี้เล่าให้ฟังกันตรงๆ ว่าการรับสัญญาณที่ดีต้องอยู่ในที่โล่งหรือ Outdoor ครับ การฟังในบ้านหรือในอาคาร การรับสัญญาณอาจมีสัญญาณแทรกบ้าง ตรงนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่การใช้งานของแต่ละคนด้วยครับ 

ประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไป

nubia Music มาพร้อมชิปเซ็ต Unisoc SC9863A ซึ่งพัฒนาแบบสถาปัตยกรรม 28nm โดยเป็น CPU แบบ Octa-Core ที่มีคอร์ Cortex A55 ความเร็ว 1.6GHz และ 1.2GHz แบบละ 4 คอร์ ทำงานร่วมกับ GPU IMG8322 RAM 4+4GB ความจำภายใน 128GB รองรับ microSD Card และรัน Android 14 จากในกล่อง

ในส่วนของแอปพลิเคชันภายในก็ถือว่าไม่ได้ให้มาเยอะจนเกินความจำเป็นครับ ส่วนใหญ่เป็นแอปที่ควรมีติดเครื่อง 

การใช้งานทั่วไปต้องบอกว่าอยู่ในระดับลื่นไหลพอใช้ครับ จะไม่ลื่นขนาดมือถือเครื่องแพงๆ ซึ่งก็ตามราคาครับ การเปิดแอปต่างๆ ก็อาจไม่ได้เร็วปรู๊ดปร๊าดอะไร ก็อยู่ในระดับใช้งานได้ปกติ ไม่ได้ช้าจนเกินไป 

การเล่นเกมก็ถือว่าทำได้พอใช้ การทดสอบด้วยเกมอย่าง RoV เปิดกราฟฟิกระดับ 60fps ก็สามารถเล่นได้ลื่น โดยเฟรมเรทจะทำได้ที่ระดับ 50-60fps ก็ถือว่าไม่ได้แย่ครับ เล่นได้ไม่ติดขัดอะไร ทำได้ตามราคานั่นล่ะครับ 

แบตเตอรี่ให้มาที่ 5000mAh ซึ่งถือว่าให้มาเยอะตามมาตราฐานปัจจุบัน ไม่มากไม่น้อย กำลังดีครับ การชาร์จไม่ได้อยู่ในระดับที่เร็วอะไร แต่ตัวเครื่องที่ไม่ได้แรงมาก ก็มีข้อดีตรงที่ไม่กินแบตเยอะครับ สามารถฟังเพลงยาวๆ ข้ามวันได้สบาย หรือเล่นเยอะหน่อยก็อยู่ได้เต็มๆ วันได้อยู่ 

การปลดล็อคหน้าจอของอุปกรณ์หลักๆ นอกจากจะใช้การปลดล็อคด้วยการใส่รหัสแล้ว ยังรองรับการสแกนใบหน้า และการสแกนนิ้วบริเวณปุ่ม Power ได้อีกด้วย 

ส่วนการทดสอบ Benchmark ด้วยโปรแกรมต่างๆ ก็มีผลในระดับพื้นฐานตามด้านล่างนี้เลยครับ 

ทดสอบ nubia Music ด้วยโปรแกรม Geekbench 6

ทดสอบ nubia Music ด้วยโปรแกรม 3DMark

ทดสอบ nubia Music ด้วยโปรแกรม PCMark

ทดสอบ nubia Music ด้วยโปรแกรม CPU-Z

กล้องถ่ายภาพ 50MP ก็ถ่ายสวยใช้ได้

การถ่ายภาพบน nubia Music จะมาพร้อมกล้องหลักด้านหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และมีกล้องเสริม AI อีกตัว ในขณะที่กล้องหน้าจะมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับรุ่นพื้นฐานในปัจจุบันที่จะให้กันที่ 8 ล้านพิกเซล 

ในส่วนของคุณภาพของกล้องหลัง ถือว่าทำได้ดีครับ กล้องมีระบบโฟกัสแบบ PDAF ที่โฟกัสได้ดีในระดับพอใช้ได้ ถ่ายในที่แสงเพียงพอได้สวยในระดับนึง ส่วนการจับภาพทำได้ไม่เร็วมาก แต่ก็พอถ่ายเล่นสนุกๆ ได้ครับ ในขณะที่การถ่ายภาพในที่แสงน้อย การจับภาพอาจทำได้ช้าสักหน่อย ก็ถือว่าทำได้ดีตามราคาเช่นกัน ลองชมภาพตัวอย่างด้านล่างนี้เลยครับ 

บทสรุป 

nubia Music เหมาะกับใคร? ก็ต้องบอกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เหมาะมากสำหรับวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการดูหนัง ฟังเพลงเป็นหลักแน่นอนครับ ด้วยจุดเด่นที่หาอุปกรณ์ไหนเทียบได้ยากอย่างลำโพงขนาดใหญ่ที่ด้านหลัง ที่ให้เสียงที่ดังระดับต้นๆ ของกลุ่มราคาระดับเริ่มต้น ซึ่งรุ่นนี้มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 2,999 บาทเท่านั้น 

นอกจากนี้ยังมีจุดขายที่มีช่องเสียบหูฟัง 2 ช่อง จุดนี้ก็มีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ กับเพื่อนหรือคนรู้ใจ ทำให้สามารถเสียบหูฟังของใครของมันฟังได้เลย ไม่ต้องแบ่งกันฟังคนละข้าง เพิ่มความสุนทรีได้ดีมากครับ และยังมีหน้าจอขนาดใหญ่แบบ 90Hz แบ่งกันดูสบายตา และมีแบตที่ค่อนข้างอึด ดูหนังฟังเพลงกันได้ยาวๆ เลย

ส่วนจุดสังเกตของรุ่นนี้ก็คือด้านการประมวลผล ที่อาจไม่ใช่มือถือที่รวดเร็ว เกมก็ถือว่าพอเล่นเกมระดับกราฟฟิกเริ่มต้นได้อยู่ แต่ก็ถือว่าทำได้ดีพอใช้ในราคาระดับนี้ครับ ใครที่หามือถือราคาไม่แพง ไม่เกิน 3,000 บาท และยิ่งเป็นคนชอบดูหนัง ดูติ๊กต็อกแบบเสียงกระหึ่มๆ แนะนำว่ารุ่นนี้ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากทีเดียวครับ