สวัสดีครับ กลับมาพบกับการรีวิวหูุฟัง TWS รุ่นใหม่ที่น่าสนใจกับพวกเราทีมงาน MobileOcta อีกครั้งนะครับ วันนี้เรามีโอกาสได้หูฟังบลูทูธรุ่นใหม่จากค่าย Jabra ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ อย่าง Jabra Elite 5 ซึ่งบริษัทนี้มีชื่อเสียงมานานในด้านการทำหูฟังบลูทูธประเภทการคุยชัด เน้นการสนทนาเป็นหลักมาก่อน
แต่ในปัจจุบัน Jabra ถือว่าก้าวข้ามมาเป็นหนึ่งในผู้นำโดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาในผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเอง อย่างเช่นในหูฟัง Jabra Elite 5 รุ่นนี้ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสนทนาชัดแจ๋วด้วยไมค์ถึง 6 ตัว
รวมถึงยังรองรับระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid Active Noise Cancellation (ANC) อีกด้วย แต่ใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น วันนี้เราจะเล่าให้ฟังครับ
แกะกล่อง Jabra Elite 5
- หูฟัง Jabra Elite 5
- เคสชาร์จ (หูฟังถูกใส่ไว้ในเคส)
- ปลายหูฟัง EarGels 3 ชุด 3 ขนาด
- สายชาร์จ USB-A to USB-C
- คู่มือและใบรับประกัน
สเปค Jabra Elite 5
- ขนาดไดร์เวอร์เสียง 6 มม.
- น้่ำหนักเคส 40 กรัม
- น้ำหนักหูฟัง 5 กรัมต่อข้าง
- กันน้ำมาตราฐาน IP55
- มีไฟ LED สำหรับแสดงสถานะแบตเตอรี่ หรือการเชื่อมต่อ
- ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid Active Noise-Cancellation
- ความถี่ที่รองรับ
- Music Mode 20Hz – 20000Hz
- Speak Mode 100Hz – 8000Hz
- Codecs – AAC, Qualcomm aptX, SBC
- จำนวนไมค์ 6 ชุด
- ซอฟท์แวร์ Jabra Sound+
- รองรับ Google Fast Pair (Android Only), Spotify Tap
- ระบบสั่งการด้วยเสียง
- Amazon Alexa
- Apple Siri
- Google Assistant (Android Only)
- รองรับ Mono Mode
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2, A2DP v1.3, AVRCP v1.6, HFP v1.8, HSP v1.2
- ระยะทางการรับสัญญาณ ประมาณ 10 เมตร
- เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน
- มีระบบ Auto Pause, Auto Power On และ Power Off
- การรับประกัน 2 ปี
- ราคา 5,290 บาท มี 2 สีให้เลือกคือ Titanium Black และ Gold Beige
ดีไซน์การออกแบบ
หูฟัง Jabra Elite 5 เป็นหูฟังที่มาพร้อมการออกแบบที่สวยหรู ดูดี อีลิทสมชื่อครับ โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สีครับ คือ Titanium Black และ สีทอง Gold Beige ที่เราได้มารีวิวนี้เอง
วัสดุในส่วนของเคสและหูฟังจะเหมือนกันครับ คือเป็นวัสดุผิวด้านให้สัมผัสค่อนข้างพรีเมี่ยมทีเดียว ตัวเคสมีดีไซน์ที่โค้งมนพร้อมจุดตัดบริเวณบนและล่าง ทำให้สามารถหยิบจับได้ถนัด และสามารถตั้งชาร์จบนแท่นชาร์จไร้สายได้อย่างมั่นคง
ด้านหน้ามีโลโก้ Jabra พร้อมช่องไฟ LED สำหรับแสดงสถานะการชาร์จ และการเชื่อมต่อ
บริเวณด้านหลังมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จ และ Jabra Elite 5 ยังรองรับการชาร์จไร้สายตามมาตราฐาน Qi ด้วย ทำให้สามารถใช้ที่ชาร์จไร้สายร่วมกับอุปกรณ์อื่นอย่างเช่นสมาร์ทโฟนได้เลยครับ
เมื่อเปิดฝาขึ้นจะพบกับหูฟัง 1 คู่วางเรียงอย่างสวยงามพร้อมใช้ และหากใช้ร่วมกับอุปกรณ์ Android OS อย่างเช่นสมาร์ทโฟน ระบบบนมือถือจะบอกให้เราเชื่อมต่อหูฟังได้อย่างรวดเร็วเลยครับ
ดีไซน์ในส่วนของหูฟังจะมาแนวกะทัดรัดครับ มีขนาดเบาๆ เล็กๆ สามารถสวมใส่ได้ง่าย สบายตลอดทั้งวัน จนบางครั้งลืมไปเลยว่ากำลังใส่หูฟังอยู่ ดูแล้ววัยรุ่นที่มีไลฟ์สไตล์ Active น่าจะชอบครับ เพราะสามารถใส่สบายได้ตลอดวันโดยไม่เมื่อยล้า รวมถึงยังให้ปลายหูฟังขนาดแตกต่างกันมา 3 แบบ คือ เล็ก กลาง ใหญ่ (ขนาดกลางใส่มากับหูฟังแล้ว) ทำให้สามารถเข้ากับขนาดช่องหูของแต่ละบุคคลได้ดีมาก สามารถใส่ทำงาน อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย หรือรับชมความบันเทิงได้อย่างเต็มรูปแบบ
ประสิทธิภาพการใช้งาน
Jabra Elite 5 ถือเป็นหูฟังไร้สายที่ค่อนข้างอยู่ในระดับ Flagship ทีเดียวครับ เพราะมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านการใช้งานระดับสูงที่หลากหลาย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างชัดเจน และยังเน้นความเป็นหูฟังที่มีน้ำหนักเบา ใส่สบาย ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใส่ทำงาน ออกกำลังกาย หรือใช้งานเพื่อความบันเทิงก็ดีเช่นกัน
อย่างแรกที่ต้องชมเลยคือระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid Active Noise Cancellation ที่ยอดเยี่ยมครับ เพราะมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงแวดล้อมรอบทิศทางมากถึง 6 ตัว ทำให้สามารถตัดเสียงได้รอบทิศทาง ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว เพิ่มสมาธิให้กับเราได้ดีมากครับ
ผู้รีวิวนำออกไปทดสอบนั่งทำงานในร้านกาแฟนอกสถานที่ ช่วยให้สามารถทำงานได้เป็นส่วนตัวมากทีเดียวครับ รวมถึงเวลาว่างก็ยังผ่อนคลายด้วยการดูหนัง หรือฟังเพลงได้เต็มอารมณ์ดีมาก เสียงแวดล้อมที่ตัดไปจะอยู่ที่ราวๆ 70-80% ทำให้เรายังพอได้ยินเสียงรบกวนเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัยครับ
และเมื่อถอดหูฟังออก ระบบก็จะหยุดเพลงชั่วคราวอัตโนมัติ การควบคุมจะใช้การกดบริเวณโลโก้ ไม่ใช่ระบบสัมผัสครับ ตรงนี้ก็แล้วแต่ชอบว่าถนัดแบบไหน แต่ผู้รีวิวจะชอบการกดจริงๆ แบบนี้มากกว่า เพราะการสัมผัสบางทีมือเปื้อนหรือเปียกเหงื่อก็กดติดบ้างไม่ติดบ้าง แต่กดแบบนี้ก็แม่นยำดี
โดยหูฟังฝั่งซ้าย จะเป็นการควบคุมโหมดต่างๆ เช่นการเปิดปิด ANC และหูฟังฝั่งขวา จะเป็นการเล่นเพลง หรือหยุดเพลงเป็นต้น โดยการกดปุ่มนี้จะสามารถตั้งค่าได้ภายในแอป Jabra Sound+ ตามภาพนี้เลยครับ
ตัวหูฟังมาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 6 มม. พร้อมรองรับโคเดค Qualcomm aptX, AAC และ SBC ให้คุณภาพเสียงในระดับสูง ด้านการฟังเพลง Jabra Elite 5 จากการทดสอบคุณภาพเสียง จะให้เสียงที่ฟังสนุกครับ มีรายละเอียดเสียงที่ครบถ้วน เสียงเครื่องดนตรีแยกชิ้นชัดเจน เสียงเบสมวลเสียงกำลังสวย นุ่มนวลน่าฟัง เสียงร้องชัดเจน เสียงแหลมไม่บาดหู
โดยรวมถือว่าผ่าน น่าใช้มากๆ ครับ ซึ่งแน่นอนว่าเราสามารถเข้าไปปรับตั้งค่าเสียงได้จากแอปพลิเคชั่น Jabra Sound+ ได้ตามชอบเลยครับ
สำหรับผู้หาหูฟังใส่ออกกำลังกาย วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือเข้าฟิตเนส Jabra Elite 5 ก็ถูกออกแบบให้กันน้ำได้ในระดับ IP55 ทำให้ไม่ต้องกลัวเปียกเหงื่อ ไปจนถึงตากฝนก็ไม่เสียครับ มั่้นใจได้ว่าใส่ออกกำลังกายได้ดีแน่นอนครับ
และหากต้องการสั่งการด้วยเสียง หูฟัง TWS รุ่นนี้ยังรองรับระบบ Hand-Free Voice Assistant เข้ากันได้กับทั้ง Siri ของทางฝั่ง Apple iOS หรือ Google Assistant ของทางฝั่ง Android OS รวมไปถึง Amazon Alexa ด้วยครับ และตัวหูฟังยังรองรับการ Pair จับคู่กับหูฟังได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ ทำให้สามารถสลับการใช้งานอย่างเช่น กำลังฟังเพลงผ่านโน้ตบุ๊ค แล้วมีสายเรียกเข้า ก็สามารถสลับมารับสายผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างไร้รอยต่อ
ด้านการใช้งานแบตเตอรี่ หูฟังสามารถเปิด ANC และฟังเพลงต่อเนื่องได้นานถึง 7 ชั่วโมง ซึ่งถือว่านานมากเมื่อเทียบกับหูฟังในตลาดครับ และเมื่อรวมกับแบตในเคสชาร์จจะสามารถใช้งานรวมได้ประมาณ 28 ชั่วโมงอย่างน่าประทับใจ และยังรองรับการชาร์จอย่างรวดเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที จะสามารถฟังเพลงได้นาน 60 นาที และรองรับการชาร์จไร้สายผ่านเครื่องชาร์จทั่วไปได้ด้วยครับ สะดวกมาก
บทสรุป
Jabra Elite 5 เป็นหูฟัง TWS ที่ค่อนข้างตอบโจทย์ผู้ใช้ที่กำลังหาหูฟังไร้สายประเภทใส่เบาๆ สบายๆ ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่รู้สึกอึดอัดครับ พร้อมทั้งมาพร้อมฟีเจอร์ที่ทันสมัยอย่างเช่น ระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid ANC ที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว เพิ่มสมาธิในการทำงาน หรือใช้ไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวเอง รวมถึงมีไมค์ 6 ตัว ที่ช่วยจับเสียงได้แม่นยำ เชื่อถือได้ คุยชัดตามสไตล์ Jabra ที่ยอดเยี่ยม
ด้านคุณภาพเสียงและการใช้งานก็ถือว่าพรีเมี่ยมตามชื่อซีรีย์ครับ คือมีพลังเสียงเหลือล้นเหมาะทั้งสำหรับด้านความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ตลอดจนการสนทนาโทรศัพท์หรือประชุมออนไลน์ สามารถกันน้ำได้ระบบ IP55 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ไม่หยุดนิ่งของวัยรุ่น มีแบตเตอรี่ที่อึดมาก เปิด ANC ฟังเพลงต่อเนื่องได้ราวๆ 7 ชั่วโมง พร้อมการชาร์จที่รวดเร็ว และรองรับการชาร์จไร้สายด้วยครับ
ถ้าคุณกำลังมองหาหูฟังดีไซน์สวยงาม คุณภาพและฟีเจอร์ระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม เชื่อว่า Jabra Elite 5 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ
โดย Jabra Elite 5 มีให้เลือก 2 สี คือสีดำ Titanium Black และสีทอง Gold Beige ที่เรารีวิวนี้ เปิดราคาที่ 5,290 บาท และสำหรับลูกค้า 200 ท่านแรก รับฟรีเคสหูฟัง DIY ที่มีให้เลือก 3 แบบ เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน โดยส่งหลักฐานการซื้อได้ที่ไลน์ @GadgetByRTB หรือรับฟรีทันทีเมื่อซื้อหูฟัง Jabra Elite 5 ที่ Digital Lab สยามดิสคัฟเวอรีเท่านั้นด้วยครับ
ผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ตามตัวแทนจำหน่ายในช่องทางต่างๆ เช่น Gadget by RTB, Munkong Gadget, Banana IT, Studio7, 425 Degree, Mercular, Siam Discovery, Central Online, Lazada, หรือ Shopee เป็นต้น สำหรับการรีวิวก็ต้องขอจบเพียงเท่านี้ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ 😀