คลังเก็บ

รีวิว itel P40 สมาร์ตโฟนแบตอึด 6000mAh อยู่ได้นาน 3 วัน ไม่ต้องชาร์จบ่อย ในราคาสบายกระเป๋า

กลับมาทำตลาดในบ้านเราอีกครั้งสำหรับ itel แบรนด์สมาร์ตโฟนจากแดนมังกร ที่ครั้งนี้ บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับการแต่งตั้งจาก ไอเทล โมบาย (itel mobile) สมาร์ตโฟนแบรนด์คุณภาพ เป็นผู้จัดจำหน่ายรายเดียวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

โดยประเดิมนำเข้ามาทำตลาดด้วยกัน 2 รุ่นแรกคือ itel S23 และ itel P40 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ในทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ มั่นใจบริการหลังการขาย และประกันตัวเครื่องนาน 1 ปีเต็ม และรุ่นที่ทาง MobileOcta ได้มารีวิวคือ itel P40

itel P40

สเปคเบื้องต้น itel P40

ขนาดN/A
น้ำหนักN/A
หน้าจอIPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1612 พิกเซล (267 ppi) ขนาด 6.6 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9
หน่วยประมวลผลOcta Core ความเร็ว 1.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Unisoc SC9863A (28nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก IMG8322
RAM4GB (UP TO 8GB EXTENDED RAM)
หน่วยความจำภายในเครื่อง128GB
microSD Cardสูงสุด 512GB
กล้องถ่ายภาพกล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช Dual LED ประกอบด้วย
– กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล

กล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ระบบปฏิบัติการAndroid 12 (Go edition) ครอบทับด้วย itel OS 8.6
เชื่อมต่อWi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot, Bluetooth 5.0, GPS with A-GPS, microUSB
รองรับระบบ4G LTE และ 3G 850/900/1900 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่6,000 mAh รองรับระบบชาร์จไว 18W 
ราคาราคา  2,799 บาท 

อุปกรณ์ภายในกล่อง

กล่องแพ็คเกจจิ้งของ itel P40 เป็นกล่องกระดาษแข็งสีขาวตัดกับสีแดง ด้านหน้ากล่องมีรูปตัวเครื่อง โดยชื่อรุ่น พร้อมระบุแบตเตอรี่ความจุ 6,000mAh และชาร์จไว 18W อยู่มุมซ้ายด้านบน และระบุหน่วยความจำ RAM 8GB (4+4GB) กับหน่วยความจำภายใน 128GB อยู่มุมขวาด้านบน

ส่วนด้านหลังกล่องจะระบุสเปกเบื้องต้นเช่น ความจุแบตเตอรี่, รองรับชาร์จไว, หน้าจอแสดงผล, หน่วยประมวลผลซีพียู, รองรับ 4G, ความละเอียดกล้องหลัง เป็นต้น พร้อมข้อมูลผู้ผลิต และผู้นำเข้า

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

  • ตัวเครื่อง itel P40
  • ฟิล์มกันรอย
  • เคสใส
  • เข็มจิ้มถาดซิม
  • สายชาร์จ microUSB
  • หูฟัง 3.5 มม.
  • คู่มือการใช้งาน

รูปลักษณ์ดีไซน์

ตัวเครื่อง itel P40 มีรูปลักษณ์ดีไซน์ทันสมัย พร้อมลายเส้นในแนวทแยง ช่วยให้ไม่ลื่นมือเวลาถือจับใช้งานได้ (สำหรับคนที่ไม่ใช่เคส) และไม่ติดรอยนิ้วมือ มีให้เลือก 3 สีเฉดสี ได้แก่ สีดำ Force Black, สีทอง Luxurious Gold และสีฟ้า Fantasy Blue ซึ่งสีที่ทางทีมงาน MobileOcta ได้มารีวิวคือ สีดำ Force Black

หน้าจอแสดงผลทรงหยดน้ำ Dot Dorp Design แบบIPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1612 พิกเซล (267 ppi) ขนาด 6.6 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9

ตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้องเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รวมทั้งมีช่องลำโพงสนทนา และเซนเซอร์ต่าง ๆ อาทิ LIGHT SENSOR และ PROXIMITY SENSOR เป็นต้น

พลิกมาด้านหลังตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้องเลนส์คู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช Dual LED รวมทั้งมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และข้อความ 6,000mAh MEGA POWER อยู่โมดูลกระจกสี่เหลี่ยม

โดยกล้องเลนส์คู่ ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล

รองรับการถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงสุด 4160 x 3120 พิกเซล และถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด
1080p@30fps

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก 1 ช่อง

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง

ด้านบนเครื่องออกแบบเรียบๆ ไม่มีช่อง หรือปุ่มกดใดๆ

ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต microUSB และช่องลำโพงเสียง

คุณสมบัติการใช้งาน

itel P40 รันบนระบบปฏิบัติการ Android 12 Go Edition บนพื้นฐานของ Android 12 ครอบทับด้วย
itel OS 8.6 โดย Android Go คือระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ตโฟนราคาประหยัดที่มี RAM 2GB หรือน้อยกว่า (แต่รุ่นนี้มี RAM ถึง 4GB) เน้นประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหล แม้จะใช้ทรัพยากรระบบจำกัด

โดยมีหน้าตาเมนูที่ดูเรียบง่าย มี Theme ให้เลือกดาวน์โหลดมากมาย อีกทั้งมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจอย่าง Freeze หรือตู้แช่แข็ง ที่สามารถย้ายแอปที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ หรือแอปที่ชอบทำงานอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หรือแอบทำงานโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งสามารถย้ายเข้าไปเก็บไว้ได้ ทำให้แอปเหล่านั้นหยุดการทำงานทั้งหมด

รองรับ 2 SIM แบบ dual sim dual standby สามารถใช้งาน 4G ได้พร้อมกันทั้งซิมหนึ่ง และซิมสอง

รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยการสแกนใบหน้า

ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่องในโมดูลกล้อง

และมีฟีเจอร์ Phone Master สำหรับการจัดการระบบเครื่อง และเคลียไฟล์ขยะ รวมเอาไว้ให้ในแอปเดียว

ประสิทธิภาพ

itel P40 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 1.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Unisoc SC9863A (28nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก IMG8322, RAM 4GB + 4GB RAM Extension และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 128GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 512GB

โดย Unisoc SC9863A เป็นชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นที่มีความแรงเทียบเท่ากับชิปเซ็ท Snapdragon 4XX แต่ราคาประหยัดกว่า

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปเช่น เล่นโซเชี่ยล หรือดูคลิป YouTube, TikTok เป็นต้น ปรากฏว่า สามารถใช้งานได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV โดยเลือกโหมดเฟรมเรทสูง ปรากฎว่าสามารถเล่นได้ลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น แถมเล่นนานๆ เครื่องก็ไม่มีอาการร้อนอีกด้วย

และเกม PUBG Mobile เลือกกราฟิกระดับสมดุล และตั้งค่าเฟรมเรทปานกลาง ปรากฎว่าสามารถเล่นได้ลื่นพอสมควร ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และเล่นนานๆ เครื่องก็ไม่มีอาการร้อนอีกด้วย โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน

แบตเตอรี่

itel P40 ใช้แบตเตอรี่ขนาดความจุ 6,000mAh สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 3 วัน ไม่ต้องชาร์จบ่อย โทรต่อเนื่องนานสุดถึง 32 ชั่วโมง ดูคลิปวีดิโอต่อเนื่องนานสุด 28 ชั่วโมง ด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะ “Battery Lab” ที่จะประมวลผล และวิเคราะห์การใช้พลังงานให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานให้ได้ใช้งานยาวนานที่สุด พร้อมระบบชาร์จไฟเร็ว 18W เพียงครึ่งชั่วโมงได้พลังงานเต็ม 100%

หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานแบบทั่วไปปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ข้ามวันได้สบายๆ ไม่ว่าจะเล่นเกม ท่องอินเทอร์เน็ต ดูคลิปวิดีโอ หรือใช้งานทั่วไป

ด้านการถ่ายภาพ

itel P40 ติดตั้งกล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช Dual LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล

สามารถเลือกโหมดการถ่ายทั้งแบบปกติ, รูปบุคคล, วิดีโอ, แสงน้อย, มืออาชีพ, พาโนรามา และ HDR รวมทั้งตั้งค่าตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ, เปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมด AI, เลือกฟิลเตอร์ และตั้งค่าอื่นๆ โดยภาพนิ่งสามารถถ่ายที่ได้ความละเอียดสูงสุด 4160×3120 พิกเซล ส่วนวิดีโอสามารถบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด FHD 1080P

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมดตกแต่งด้วย AI, โหมดบิวตี้ ที่เลือกการปรับความสวยได้ถึง 5 ระดับ รวมถึงมีโหมด Portrait ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ, วิดีโอ, แสงน้อย, ถ่ายกว้าง และโหมด HDR

ตัวอย่างภาพจากกล้อง

บทสรุป

itel P40 ถือเป็นสมาร์ตโฟน 4G ราคาย่อมเยา ราคาไม่ถึง 3 พันบาท เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด แต่ได้ฟังก์ชันใช้งานครบ ด้วยตัวเครื่องที่มีดีไซน์ทันสมัย หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว ความละเอียด HD+ แสดงผลได้เต็มตา รวมทั้งติดตั้งกล้องเลนส์คู่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด AI beauty ช่วยปรับภาพให้สวยสมจริงมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 6,000mAh อยู่ได้นาน 3 วัน ไม่ต้องชาร์จบ่อย โทรต่อเนื่องนานสุดถึง 32 ชั่วโมง ดูคลิปวีดิโอต่อเนื่องนานสุด 28 ชั่วโมง ด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะ “Battery Lab” ที่จะประมวลผล และวิเคราะห์การใช้พลังงานให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานให้ได้ใช้งานยาวนานที่สุด พร้อมระบบชาร์จไฟเร็ว 18W เพียงครึ่งชั่วโมงได้พลังงานเต็ม 100%

ทั้งนี้ itel P40 มีให้เลือก 3 สีได้แก่ สีดำ Force Black, สีทอง Luxurious Gold และสีฟ้า Fantasy Blue วางจำหน่ายในราคา 2,799 บาท พร้อมการรับประกันสินค้านานถึง 1 ปี และบริการหลังการขายที่อำนวยความสะดวกพร้อมดูแลผู้บริโภคถึงหน้าประตูบ้าน (Door-to-Door Service)

ติดตามโปรโมชั่นหรือสั่งซื้อ 🛒

Shopee : https://shp.ee/5mwnqfr

Lazada : https://s.lazada.co.th/s.mZbHE

Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSFecTry2/

#itelthailand #itelmobile #itelP40 #มือถือราคาถูก #มือถือไม่เกิน3000 #มือถือถูก


ขยะ E-Waste ทิ้งแล้วไปไหน ใครรู้บ้าง! เมื่อทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้ว จะถูกเข้าสู่กระบวนการคัดแยกชิ้นส่วน เพื่อการกำจัดอย่างถูกวิธี โดยไม่มีเศษซากหลงเหลือ รู้แบบนี้แล้ว ขอชวนเพื่อนๆ ที่มีมือถือ สายชาร์จ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน มาทิ้งให้ถูกที่ เพื่อสร้างโลกใบนี้ให้น่าอยู่ ได้ที่ AIS ผ่านแอป E-Waste+ ที่มีจุดบริการรองรับถึง 2,500 สาขาทั่วประเทศ  เช็กจุดรับทิ้งได้ที่ https://sustainability.ais.co.th/th/sustainability-projects/ais-ewaste/collection-channels

#AISewaste #Hubofwaste