ด้านการถ่ายภาพ
กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 64MP พร้อม AI
Infinix Note 10 Pro ติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลช Quad LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/1.72 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.6 ไมครอน, โครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์ และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide & Super Macro ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมมุมรับภาพ 120 องศา และโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Monochrome (B&W) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
สามารถเลือกโหมดการถ่ายทั้งแบบปกติ AI CAM, โหมดบิวตี้, รูปบุคคล, โหมดประสิทธิภาพในที่มืด, วิดีโอ และวิดีโอสั้น รวมทั้งตั้งค่าเลือกโหมดถ่ายภาพแบบเต็มจอ, 4:3 และ 1:1, เลือกเปิดปิดโหมด HDR, โหมดความละเอียด 64 ล้านพิกเซล, เปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เลือกฟิลเตอร์ และตั้งค่าอื่นๆ ได้ โดยภาพนิ่งสามารถถ่ายที่ได้ความละเอียดสูงสุด 6912 x 9216 พิกเซล ส่วนวิดีโอสามารถบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K@30FPS
ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง
กล้องหน้า AI Beautify Selfie ความละเอียด 16MP
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ AI Beautify Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลขคู่ Dual LED มาพร้อมโหมด AI CAM, โหมดบิวตี้ รวมถึงมีโหมด Portrait ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ, ปรับผิวให้เรียบเนียน, ปรับสีผิว, ปรับใบหน้าให้เรียวบาง และขยายตวงตา รวมทั้งมีโหมดถ่ายภาพ AR ที่มีตัวการ์ตูนน่ารักๆ ให้เลือกตามใจชอบ, โหมด HDR+ ที่สามารถถ่ายภาพย้อนแสงได้ คมชัดแม้ในที่แสงน้อย และบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K@30FPS
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า
ประสิทธิภาพ
Infinix Note 10 Pro ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Helio G90T, หน่วยประมวลผลกราฟิก ARMG76 MP4 900MHz, RAM 8GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 128GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 2TB
เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า สามารถใช้งานได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV โดยเลือกโหมดเฟรมเรทสูง ปรากฎว่าสามารถเล่นได้ลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และเล่นนานๆ เครื่องก็ไม่มีอาการร้อนอีกด้วย
และเกม PUBG Mobile เลือกกราฟิกระดับ HD และตั้งค่าเฟรมเรทสูง ปรากฎว่าสามารถเล่นได้ลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และเล่นนานๆ เครื่องก็ไม่มีอาการร้อนอีกด้วย โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน
นอกจากนี้ยังมาพร้อมซอฟต์แวร์ Dar-link Ultimate Game Booster ของ Infinix สำหรับปรับการทำงานให้เหมาะสม โดยจะทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ของสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มความเสถียรของภาพและความไวในการตอบสนองของจอ ซอฟต์แวร์จะปรับความเร็วในการประมวลผลของซีพียูและจีพียูอย่างชาญฉลาด และจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงภาพและการเคลื่อนไหวในฉากต่าง ๆ ระหว่างเล่นเกมอย่างเหมาะสม
ระบบเสียง DTS Audio และ AI Noise Cancelling เพื่อคุณภาพเสียงแบบรอบทิศทางและการรองรับเสียงที่มีความถี่สูงในฉากต่าง ๆ ของเกม สมาร์ทโฟนตระกูล NOTE 10 จึงได้จัดลำโพงแบบคู่มาให้พร้อมกับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนที่ทำงานด้วยระบบ AI รวมถึงระบบประมวลผลไฟล์เสียง DTS และเทคโนโลยีที่ช่วยในการรับรู้ตำแหน่งของเสียง
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Infinix Note 10 Pro ผ่านแอป Antutu
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Infinix Note 10 Pro ผ่านแอป GeekBench 5
แบตเตอรี่
Infinix Note 10 Pro ใช้แบตเตอรี่ขนาดความจุ 5,000mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 33W
นอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน (Ultra Power Mode) ซึ่งช่วยยืดเวลาสำหรับการโทรได้นานถึง 58 ชั่วโมงเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 5% นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Power Marathon ที่สามารถสำรองแบตเตอรี่ได้ 25% และเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ปลอดภัย
หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานแบบทั่วไปปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ข้ามวันได้สบายๆ ไม่ว่าจะเล่นเกม ท่องอินเทอร์เน็ต เรียนออนไลน์ หรือใช้งานทั่วไป
บทสรุป
Infinix Note 10 Pro ถือเป็นเกมมิ่งสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดของ Infinix ในราคาจับต้องได้ ด้วยฟีเจอร์ที่พร้อมตอบโจทย์เกมเมอร์ตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Helio G90T ที่รองรับเทคโนโลยี HyperEngine Gaming ของ MediaTek ที่ช่วยให้การตอบสนองต่างๆ รวดเร็วกว่าเดิม จับคู่กับ RAM 8GB สามารถรันแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด
นอกจากนี้ยังมีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.95 นิ้ว แบบ Super Fluid Display ความละเอียดระดับ FHD+ ที่รองรับการรัชมคอนเทนต์ความละเอียด Full HD 1080p ได้อย่างเต็มตาเต็มอารมณ์ รวมถึงมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัา 180Hz ที่ช่วยให้ใช้งาน และเล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น
ด้านการถ่ายภาพ Infinix Note 10 Pro มาพร้อมกล้องหลังความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล ผสานเข้ากับเลนส์อัลตราไวด์ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูเปอร์มาโครเลนส์ที่มีองศาในการรับภาพ 120 องศา เลนส์ 5P และเลนส์สำหรับการถ่ายภาพขาวดำและภาพบุคคล ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่แบบ AI Beautify Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ที่รองรับการเล่นเกมนานต่อเนื่องสูงสุด 11 ชั่วโมง และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W X-Charge ที่ช่วยให้ชาร์จได้เร็ว ไม่ต้องรอนาน โดยรวมแล้ว Infinix Note 10 Pro เป็นเกมมิ่งสมาร์ตโฟนสเปกแรง ราคาย่อมเยาที่เหมาะกับเกมเมอร์อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ Infinix Note 10 Pro วางจำหน่ายแล้ววันนี้แบบเอ็กซ์คลูซีฟบน Shopee เท่านั้น ในราคา 5,999 บาท โดยให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ (95 Degree Black) สีม่วง (7 Degree Purple) และ สีรุ้ง (Nordic Secret)