คลังเก็บ

รีวิว HUAWEI WATCH FIT 3 สมาร์ทวอทช์ดีไซน์บางเฉียบ หรูหราหน้าจอ AMOLED เติมความฟิตรอบด้าน ชาร์จครั้งเดียวใช้นาน 10 วัน

แรกเริ่มเดิมทีอุปกรณ์ Activity Tracker รุ่นราคาประหยัดตระกูล HUAWEI Watch Fit Series จะเป็นสมาร์ทแบนด์ที่เน้นการสวมใส่ที่เรียบง่าย บางเบา แต่มีประสิทธิภาพ เน้นฟีเจอร์ด้านสุขภาพบางอย่าง และมีการติดตามกิจกรรมรวมถึงการเล่นกีฬาบางประเภท

จนมาถึงปัจจุบันกับ HUAWEI WATCH FIT 3 ที่ยกระดับมาเป็นสมาร์ทวอทช์เต็มตัว มีฟังค์ชั่นการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น มาการปรับดีไซน์ให้สวยงามตามเทรนด์แฟชั่น มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 1.82 นิ้ว ใช้หน้าจอแบบ AMOLED Display ที่สวยหรู มีตัวเรือนบางเฉียบ ลงตัวทั้งการสวมใส่ใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือจะติดตามกิจกรรมเพื่อสุขภาพ

HUAWEI WATCH FIT 3

และที่สำคัญยังมีการอัพเกรดระบบการจัดการสุขภาพใหม่ ไม่ว่าจะเป็น TruSeen หรือ TruSleep เป็นต้น พร้อมรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ทั้ง iOS และ Android OS ผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health และที่สำคัญมีแบตเตอรี่ที่ อึด ทึก ทน สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 10 วันเต็มๆ

เกริ่นมาน่าใช้ขนาดนี้ เดี๋ยวพวกเราทีมงาน MobileOcta จะเล่าให้ฟังหลังใช้ว่าเจ้า HUAWEI WATCH FIT 3  มาระยะหนึ่งจะมีฟีเจอร์และฟังค์ชั่นอะไรที่ใช้แล้วโดน รวมถึงข้อสังเกตของแฟชั่นสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้กันด้วยครับ ไปติดตามกันเลย

แกะกล่อง HUAWEI WATCH FIT 3  

  • สมาร์ทวอทช์ HUAWEI WATCH FIT 3 
  • สายชาร์จแม่เหล็ก
  • คู่มือและใบรับประกัน 

อุปกรณ์ในกล่องของ HUAWEI WATCH FIT 3 ก็ถือว่าให้มาครบถ้วนไม่ขาดไม่เกินครับ มาครบทั้งสายชาร์จแม่เหล็ก คู่มือและใบรับประกัน ที่ไม่มีก็จะเป็นในส่วนของหัวชาร์จ ซึ่งในปัจจุบันสมาร์ทวอทช์ยี่ห้อต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้ให้มาในกล่องอยู่แล้วครับ เพราะสามารถใช้ร่วมกับหัวชาร์จสมาร์ทโฟนหรืออื่นๆ ได้อยู่แล้ว

สเปค HUAWEI WATCH FIT 3  

  • ขนาดตัวเรือน 43.2 x 46.3 x 9.9 มม. 
  • ขนาดสายนาฬิกา
    • สีขาว (หนัง) และสีชมพู 120-190 มม.
    • สีเทา, สีเขียว, สีขาว, สีดำ 130-210 มม. 
  • น้ำหนัก ประมาณ 26 กรัม (ไม่รวมสาย)
  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.82 นิ้ว ความละเอียด 480 x 408 พิกเซล, 347 PPI
  • วัสดุตัวเรือน อะลูมิเนียมอัลลอย
  • วัสดุสายรัดข้อมือ
    • สายหนัง ขาว, สายเทา ไนลอน, สายยางดำ, สายชมพู, สายยางเขียว, และสายยางขาว
  • ระบบตรวจวัด
    • เซ็นเซอร์ IMU แบบ 9 แกน (เซนเซอร์มาตรความเร่ง, เซนเซอร์ไจโรสโคป, เซนเซอร์ Magnetometer)
    • เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัล
    • เซ็นเซอร์แสงโดยรอบ
  • การควบคุม ปุ่มกด (มงกุฎ และปุ่มฟังค์ชั่น) และหน้าจอสัมผัส
  • ระบบปฏิบัติการที่รองรับ
    • Android 8.0 หรือใหม่กว่า
    • iOS 13.0 หรือใหม่กว่า
  • ระดับการกันน้ำ 5ATM (กันแรงดันน้ำ 50 เมตรเป็นเวลา 10 นาที)
  • การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0, WiFi 2.4GHz, BLE
  • รองรับอุณหภูมิ -10 ถึง 45 องศาเซลเซียส
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่
    • 10 วัน สำหรับการใช้งานทั่วไป
    • 4 วันสำหรับการเปิด Always-on Display 
  • ราคาเปิดตัว
    • สีดำ, สีชมพู, สีเขียว, สีขาว วางจำหน่ายในราคา 3,990 บาท
    • สีเทา สายไนลอน และ สีขาว สายหนัง วางจำหน่ายในราคา 4,990 บาท 

ดีไซน์การออกแบบ

จุดเด่นอย่างแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะค่อนข้างน่าประทับใจตั้งแต่แรกเห็นก็คือด้านดีไซน์การออกแบบของ HUAWEI WATCH FIT 3 นี่ล่ะครับ เพราะในรุ่นใหม่นี้มีการปรับปรุงดีไซน์ได้อย่างน่าสนใจ โดยใช้ตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมที่มีความโค้งมนลงตัว บอดี้มีความบางเฉียบเพียง 9.9 มม. และมีน้ำหนักเพียง 26 กรัม ทำให้เมื่อสวมใส่ไม่รู้สึกรำคาญ ใส่ได้นานตลอดวันไม่เว้นแม้แต่ขณะนอนหลับ ก็สามารถใส่ได้สบาย

วัสดุงานประกอบก็ทำได้ประณีตเรียบหรู ด้วยเฟรมกลางวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยน้ำหนักเบา มอบความทนทานในรูปลักษณ์ที่หรูหรา คล้ายเครื่องประดับของผู้ใส่

การควบคุมจะใช้ระบบสัมผัสหน้าจอ รวมถึงมีปุ่มมงกุฎขนาดใหญ่ที่สามารถหมุนเพื่อเลื่อนเมนูและกดเลือกได้ หรือจะใช้ซูมเข้าออกและปรับระดับเสียง ช่วยให้ควบคุมได้แม้มือเปียกหรือว่ายน้ำอยู่ก็ตาม และถัดลงมาด้านล่างจะมีอีกปุ่มฟังค์ชั่น ซึ่งปุ่มยังสามารถตั้งค่าเป็นเมนูลัดสำหรับเปิดแอปด่วนต่างๆ ในเครื่องได้

ปุ่มต่างๆ จะอยู่บริเวณด้านขวา ในขณะที่ด้านซ้ายจะเป็นลำโพงนอกสำหรับสนทนาโทรศัพท์เมื่อเชื่อมต่อบลูทูธ ทำให้เราสามารถติดต่อสื่อสารได้แม้ว่าไม่ได้จับโทรศัพท์อยู่ก็ตาม รวมถึงยังสามารถโทรออกด่วนผ่านรายชื่อติดต่อได้อีกด้วย ตรงนี้ก็สะดวกดีครับ 

ตัวเลือกสีทั้งหมดที่มีให้เลือกจะมีทั้งหมด 6 สี 3 วัสดุสาย กลุ่มแรกจะเป็นสายแบบ Fluoroelastomer (วัสดุคล้ายยาง) จะเหมาะสำหรับทำกิจกรรมหรือใส่ออกกำลังกาย เนื่องจากจะสามารถล้างทำความสะอาดได้ง่าย มีสีให้เลือก 4 แบบ คือ สีดำ, ชมพู, เขียว และสีขาว วัสดุที่ 2 คือ Nylon Strap หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นสายผ้าครับ ตัวนี้จะมีสีเดียวคือสีเทา และสุดท้าย สายหนัง ซึ่งจะมีสีขาวซึ่งสายนี้จะดูไฮโซหรูหราที่สุด เหมาะสำหรับวันสบายๆ ใส่เที่ยว ไปทำงาน หรือออกงานก็เข้ากันกับทุกชุดที่สวมใส่ 

แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะรักพี่เสียดายน้อง ชอบไปหมดทุกสี เพราะว่าตัวสายสามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายครับ จะซื้อสายแนว Sport เพิ่มเติม หรือหาสายนาฬิกาจริงๆ มาเปลี่ยนก็ยังได้ 

หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่สดใสเต็มตา

ต่อไปมาเจาะลึกในส่วนของจอแสดงผลกันบ้างครับ HUAWEI WATCH FIT 3 ถูกขยายขนาดหน้าจอออกเป็นสี่เหลี่ยม 1.82 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอสูงระดับ Retina ที่ 347PPI (หรือละเอียดขนาดที่ตามนุษย์มองไม่เห็นพิกเซล) ทำให้สามารถแสดงผลได้อย่างสวยงาม พร้อมกับเป็นหน้าจอแบบ AMOLED ที่แสดงสีสันได้สดใสสมจริง และมีความสว่างสูงสุดถึง 1500 nits ช่วยให้การแสดงผลกลางแจ้งสามารถอ่านแจ้งเตือนได้ง่าย ใช้สะดวกทั้ง Indoor และ Outdoor และยังมีอัตรารีเฟรชที่ 60Hz มองนานๆ ก็ไม่เมื่อยดวงตาอีกด้วย

และไม่ใช่แค่ฮาร์ดแวร์จะแจ่มแจ๋วแล้ว ในส่วนของซอฟท์แวร์ก็อัพเกรดใหม่ด้วยหน้าปัดแบบใหม่ที่มีให้เลือกถึง 200 กว่าแบบ เช่น หน้าปัดแบบอีโมจิที่มีชีวิตชีวา สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายอารมณ์ เพิ่มความสนุกสนานตลอดวัน หรือจะเป็นหน้าปัดสไตล์เลขาคณิต หน้าปัดที่แจ้งเตือนสถานะการเคลื่อนไหว ออกกำลังกายตลอดวัน แสดงข้อมูลสุขภาพ และสามารถตั้งค่ากำหนดหน้าปัดนาฬิกาให้เป็นสไตล์ที่เราชื่นชอบได้เองด้วยครับ 

นอกจากนี้หน้าจอยังรองรับ Always-on Display หรือการแสดงผลค้างไว้ตลอดวันแบบกินพลังงานต่ำ แต่สามารถแสดงหน้าปัดนาฬิกาแสดงข้อมูลสำคัญๆ ได้ตลอด ช่วยให้เราไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าจอก่อนเพื่อดู และยังมี AoD มากมายหลากหลายตามแต่แบบฉบับ Watch Face ที่เราเลือกใช้ด้วยครับ จะเป็นหน้าปัดแบบตัวเลข หรือจะแบบเข็มนาฬิกาอนาล็อคก็เท่ไม่ซ้ำใคร

การแสดงผลการแจ้งเตือนก็ทำได้ค่อนข้างดีครับ ตัวหนังสืออ่านง่าย ใหญ่คมชัดสบายตา เช็คอีเมลบนข้อมือได้เลย

ฟีเจอร์ด้านสุขภาพเยอะเอาเรื่อง

HUAWEI WATCH FIT 3 มาพร้อมฟีเจอร์ติดตามสุขภาพของผู้ใช้ที่ครอบคลุมและหลากหลายครับ เริ่มกันที่ตัวขายอย่าง TruSleep 4.0 ใหม่ล่าสุด สำหรับการติดตามการนอนหลับ และนำข้อมูลการนอนของคุณมาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับมาตราฐานการประเมินคุณภาพการนอนหลับที่น่าเชื่อถืออย่าง Pittsburgh Sleep Quality Index (PSQI) จากนั้นก็ให้คะแนนการนอนหลับอย่างแม่นยำ พร้อมตรวจสอบการนอน และให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ ทำให้เราสามารถนำคำแนะนำไปปรับปรุงการนอนหลับของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ตื่นมาได้สดชื่นแจ่มใสในทุกเช้า มีพลังพร้อมลุยในทุกวัน

HUAWEI TruSleep 4.0 จะใช้การวิเคราะห์ทางสรีรวิทยาการนอนหลับขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น อัตราการหายใจ และอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เรารู้การหายใจขณะหลับ อัตราออกซิเจนในเลือดและการเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างนอนตลอดคืน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถติดตามได้ผ่านทางแอป HUAWEI Health บนโทรศัพท์ทั้ง iOS และ Android ของคุณ 

การวิเคราะห์การนอนหลับของเราสามารถเปิดชมได้ผ่านทางแอป HUAWEI Health ซึ่งจะมีคำแนะนำที่มีประโยชน์เพื่อใช้ในการปรับปรุงการนอนหลับและสุขภาพของเราให้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์นี้จะไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์นะครับ ดังนั้นหากต้องการผลวิเคราะห์เพื่อรักษาโรคอย่างจริงจัง ต้องใช้เครื่องมือแพทย์ที่โรงพยาบาลเท่านั้น สมาร์ทวอทช์จะทำได้แค่วิเคราะห์ในเบื้องต้นเท่านั้น

ไปต่อกันที่ HUAWEI TruSeen 5.5 ระบบนี้จะใช้สำหรับวิเคราะห์อัตราการเต้นของหัวใจและการตรวจวัดออกซิเจนขณะออกกำลังกายที่แม่นยำขึ้นอีกระดับ เพราะมีการเพิ่มอัลกอริธึมที่ได้รับการอัพเกรด รองรับการเรียนรู้ด้วยตนเองแบบออนไลน์ พร้อมอินเทอร์เฟซการวัดใหม่ที่ใช้เวลาน้อยลง เหลือเพียง 25 วินาทีเท่านั้น นอกจากนี้อุปกรณ์ยังรองรับการตรวจวัด SpO2 ตลอด 24 ชม. ช่วยให้เราติดตามสุขภาพได้ละเอียดมากขึ้น 

ในส่วนของสาวๆ HUAWEI WATCH FIT 3 จะรองรับการติดตามรอบประจำเดือน พร้อมปรับปรุงมุมมองปฏิทินรายเดือนเพื่อเพิ่มความชัดเจนในการติดตาม และยังสามารถบันทึกและแก้ไขเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของรอบประจำเดือนได้ผ่านนาฬิกาอย่างชาญฉลาด 

โหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 รูปแบบ  

สำหรับคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย มี HUAWEI WATCH FIT 3 ติดตัวไว้ ไม่ผิดหวังครับ เพราะมาพร้อมโหมดกำลังกายมากกว่า 100+ โหมด ครอบคลุมกีฬายอดนิยมไว้เพียบ ไม่ว่าจะเป็น การเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน ฟุตบอล บาสเก็ตบอล พาเดล eSports รวมถึงการออกกำลังกายในร่ม ยิม ฟิตเนส หรือกลางแจ้ง และยังมีฟังค์ชั่นเริ่มการออกกำลังกายอัตโนมัติ พร้อม GPS ในตัวที่มีความแม่นยำสูง

ที่น่าสนใจคือจะมีฟังค์ชั่น Heart Rate Broadcast ที่สามารถเชื่อมต่อ HUAWEI WATCH FIT 3 เข้ากับอุปกรณ์ออกกำลังกายที่รองรับของบุคคลที่สาม เช่น จักรยานอยู่กับที่อัจฉริยะ ทำให้สามารถแชร์ข้อมูลการออกกำลังกาย และอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ และเรายังสามารถติดตามข้อมูลการออกกำลังกายกับแอปของบุคคลที่สามได้อีกด้วย 

และอีกอย่างที่ผู้รีวิวค่อนข้างชอบก็คือ มีคอร์สการออกกำลังกายให้ใช้ฟรีมากกว่า 200 รายการ และสามารถดูได้ผ่านนาฬิกาเลยด้วยครับ เมื่อเราเปิดฟังค์ชั่นนี้ บนหน้าปัดจะแสดงท่าทางตัวอย่างสำหรับคอร์สการออกกำลังกายนั้นๆ ให้เห็นอย่างชัดเจน ถูกต้อง พร้อมตรวจนับการออกกำลังกายให้เราด้วย ช่วยเพิ่มคุณภาพการออกกำลังกายให้หลากหลาย และครอบคลุมได้ รวมถึงอุปกรณ์มีลำโพงมาในตัว ทำให้แต่ละขั้นตอนจะมีเสียงบอกการทำกิจกรรม เหมือนมีโค้ชผู้ช่วยออกกำลังกายให้กับเราด้วยครับ เจ๋งดี

ใครที่ชอบตั้งเป้าหมายความท้าทายในการออกกำลังกายในแต่ละวันให้ตัวเอง และต้องเอาชนะเป้าหมายให้ได้ในทุกวัน ลองเอาฟีเจอร์นี้ไปเล่นกันได้ครับ Activity 3-ring 2.0 หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็น “วงแหวนกิจกรรม” ซึ่งจะคอยติดตามการเคลื่อนไหว และบอกข้อมูลการเคลื่อนไหวในแต่ละวันว่าคุณไปถึงจุดไหนแล้ว เช่น แคลอรี่ที่คุณเผาผลาญ ระยะเวลาการออกกำลังกาย และชั่วโมงการยืนในแต่ละวันโดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้ขยับร่างกาย สร้างความกระตือรือล้น และพัฒนานิสัยการออกกำลังกายที่ดี และยังมีการสรุปเป้าหมายในทุกวัน ทุกสัปดาห์ และให้เหรียญรางวัลอีกด้วย

แบตอึดสะใจ ใช้นานกว่า 1 สัปดาห์

HUAWEI WATCH FIT 3 ยังคงรักษาข้อดีของอุปกรณ์สวมใส่ซีรีย์นี้เอาไว้น่าดีครับ คือเป็นอุปกรณ์ที่แบตอึด ถึก ทน ชาร์จครั้งเดียวใช้งานได้เป็นสัปดาห์ โดยจากที่ทดสอบการใช้งานทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 7-10 วันโดยปิด Always-on Display แต่หากเปิดฟีเจอร์ AoD นี้จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 5 วัน ซึ่งถือว่าโอเคมากๆ ทีเดียวครับ 

นอกจากนี้การชาร์จแบตยังรองรับการชาร์จที่รวดเร็วอีกด้วย ซึ่งการชาร์จเพียง 10 นาที จะสามารถใช้ได้นานอีก 1 วันเต็มๆ ดังนั้นหากลืมชาร์จก็เพียงเสียบชาร์จไว้แปปเดียว ก็ออกไปท่องโลกหรือออกกำลังกายได้สบายๆ แล้วครับ 

บทสรุป

HUAWEI WATCH FIT 3 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความหรูหรา แต่ยังมีความสปอร์ต สามารถใส่ออกงานได้ทุกโอกาส โดดเด่นด้วยหน้าจอสวยงามขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้สามารถอ่านคอนเท้นต์ต่างๆ บนหน้าจอได้ง่าย สวยงาม ตัวเครื่องมีความบางเบาและน้ำหนักเบา นอกจากนี้หน้าจอยังมีความสว่างเพียงพอสำหรับการแสดงผลกลางแจ้ง เหมาะสำหรับนักกีฬาหรือคนที่ชอบการออกกำลังกาย

นอกจากนี้ฟีเจอร์ด้านการติดตามสุขภาพก็ค่อนข้างโดดเด่นครับ มีโหมดติดตามการออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด รวมถึงการติดตามสุขภาพแบบครอบคลุมทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การนอนหลับ พร้อมกับมีคำแนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ชีวิตในทุกด้าน และที่สำคัญ มีแบตเตอรี่ที่ทนทาน ชาร์จครั้งเดียวใช้ได้นานประมาณ 1 สัปดาห์สำหรับการใช้งานเต็มที่ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทวอทช์ที่ค่อนข้างน่าใช้ทีเดียวครับ

HUAWEI WATCH FIT 3 มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีดำ, สีชมพู, สีเขียว, สีขาว วางจำหน่ายในราคา 3,990 บาท และสีเทา สายไนลอน และ สีขาว สายหนัง วางจำหน่ายในราคา 4,990 บาท พร้อมรับฟรี HUAWEI FreeBuds SE 2 สีขาว มูลค่า 1,499 บาท

โปรโมชันตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2567 เป็นเจ้าของได้ที่ HUAWEI Experience Store ตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน LazadaShopee และ TikTok