สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว MobileOcta ทุกท่าน วันนี้เรามีนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ดีไซน์สวยที่น่าสนใจมารีวิวให้ชมกันครับ คือ HUAWEI Watch Fit ซึ่งเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ได้รับความสนใจมากรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน
เพราะ Watch Fit รุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์ที่สวยหรูอย่างที่นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ชั้นนำในตลาดควรมี มีฟังค์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน และราคาที่ยากที่จะปฏิเสธได้ เรียกได้ว่าหากเทียบกับรุ่นใหญ่ของค่ายอย่าง HUAWEI Watch GT2 Pro เรียกได้ว่าฟังก์ชั่นสมาร์ทๆ ที่มีในรุ่นใหญ่ถูกยกมาไว้ในรุ่นประหยัดแทบจะครบถ้วนเลยทีเดียว ยกเว้นก็แต่ระบบการชาร์จไร้สาย, วัสดุเป็นไทเทเนี่ยม, กระจก sapphire และ ceramic ซึ่งหากไม่นับรวมที่กล่าวไป Watch Fit ก็เรียกได้ว่าจัดมาให้หมดในราคาไม่กี่พันบาทเท่านั้น
ว่าแล้วก็ไปชมรีวิวของรุ่นนี้ก่อนเลยครับ เริ่มกันที่แกะกล่องดูอุปกรณ์ภายในกล่องกันบ้างว่ามีอะไร
Unbox แกะกล่อง
อุปกรณ์ในกล่องที่ให้มาก็จะเป็นตัวเรือนนาฬิกาสมาร์ทวอทช์, คู่มือ และสายชาร์จเท่านั้นครับ ตามในภาพเลย
Design ดีไซน์การออกแบบ
บนตัวเรือนที่มีการออกแบบอย่างปราณีต ที่ด้านขวาจะมีปุ่มกดขนาดเรียวเล็กเพียงปุ่มเดียวครับ ที่ด้านหลังมีเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์วัดคลื่นหัวใจ heart rate ใกล้กันมีพอร์ตชาร์จแบบ pogo pin แบบแม่เหล็ก คือเมื่อต้องการชาร์จและนำสายชาร์จมาวางใกล้ๆ ในจุดชาร์จ ตัวแม่เหล็กจะดูดอุปกรณ์ติดกันทันทีครับ (หากใส่ถูกด้านน่ะนะ) ดูแล้วก็สะดวกดีไม่น้อย
ในรุ่นที่เรารีวิวนี้จะได้ตัวเรือนสีชมพู Rose Gold และสายสีส้ม Cantaloupe Orange ที่มีสีสันสดใสสวยงามทีเดียวครับ โดยหากต้องการสีอื่น ก็ยังจะมีสายสีชมพู Sakura Pink (ตัวเรือนชมพู Rose Gold), สายสีดำ Graphite Black (ตัวเรือนสีดำ) และสายสีเขียว (ตัวเรือนสีเงิน) ให้เลือกด้วย โดยบอดี้ของ Watch Fit ผลิตจาก polymer ที่มีดีไซน์เรียบหรูขัดเงาดูสวยงามมาก
สายซิลิโคนนี้ เราสามารถถอดเปลี่ยนเองได้ครับ เพราะที่ด้านหลังจะสีสลักสำหรับเปลี่ยนสายอยู่ แนะนำว่าควรใช้เล็บในการแงะนะครับ หากใช้ของแข็งอื่นๆ อาจทำให้สลักเสียหายได้เพราะมันเป็นพลาสติกเน้อ และค่อนข้างแกะยากนิดนึงด้วย ต้องดูจังหวะดีๆ
ตัวเรือนของ Watch Fit มีน้ำหนัก 34 กรัม ซึ่งถือว่าเบามาก ไม่รู้สึกแตกต่างจากการใส่นาฬิกาทั่วไปเลย
Display หน้าจอ
หน้าจอของ HUAWEI Watch Fit มีขนาด 1.64 นิ้ว ที่ถือว่ามีขนาดกำลังพอดีที่ผู้ชาย หรือผู้หญิงก็ใส่ได้เหมือนกัน โดยหน้าจอเป็นรูปสี่เหลี่ยมรองรับการแสดงผลได้เป็นอย่างดีบนหน้าจอขนาดใหญ่พอเหมาะ ซึ่งแน่นอนว่าคุณสามารถเลือกเปลี่ยน watch face ได้ตามรสนิยมของตัวเอง โดยจะเลือกให้แสดงเฉพาะเวลา หรือแสดง heart rate หรือการนับก้าวได้ในหลากหลายรูปแบบ
หน้าจอมีความละเอียด 456×280 พิกเซล (326ppi) ที่ถือว่าดีมากในราคาระดับนี้ และหาก watch face ที่ให้มายังไม่ถูกใจ ก็สามารถไปดาวน์โหลดเพิ่มได้ที่แอปพลิเคชัน Huawei Health ได้ทั้ง iOS และ Android OS เลยครับ รวมถึงมี watch face ที่รองรับหน้าจอ always-on ด้วย ซึ่งหน้าจอแบบนี้ก็จะแลกมาด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้พลังงานมากขึ้นด้วย อย่าลืมล่ะ ซึ่งในรีวิวนี้ผมทดสอบโดยไม่เปิดใช้โหมดนี้นะครับ บอกไว้ก่อน
นอกจากนี้การที่หน้าจอมีความโค้งงามๆ ในทุกด้าน ยังช่วยให้การควบคุมระบบสัมผัส โดยเฉพาะการปัดหน้าจอเพื่อเปิดเมนูต่างๆ สามารถทำได้เนียนยิ่งขึ้น ไม่รู้สึกติดขัดเวลาใช้งาน หน้าจอแสดงผลสามารถทำได้ดีมาก สีดำทำได้ดำสนิทดี การใช้งานกลางแจ้ง ก็มองได้ชัดสบายตามากๆ อันนี้ต้องชมเลย
Performance ประสิทธิภาพการใช้งาน
วันแรกที่ได้ทดสอบ Watch Fit จะมีการตั้งค่าต่างๆ และเล่นนั่นเล่นนี่ค่อนข้างเยอะครับ (อารมณ์คนเห่อของใหม่) แบตจากที่ชาร์จเต็ม 100% ในตอนเช้า (แบตรุ่นนี้ให้มาที่ 180mAh) ลดลงมาเหลือ 88% โดยประมาณในตอนค่ำ จากนั้นในวันต่อมาก็ใส่ทั้งวันทำงาน ใช้งานทั่วไป ดูการแจ้งเตือนบ้าง เล่นวัด heart rate เย็นเดินออกกำลังกาย แบตลดลงมาเหลือราว 80% และก็เป็นอย่างนี้ในทุกวันโดยประมาณ
ดังนั้นตามที่ Huawei เครมไว้ว่า Watch Fit สามารถใช้งานได้ 10 วัน ผมฟันธงให้เลยว่าไม่ได้โม้แน่นอน เพราะตีซะวันนึงใช้แบต 10% สำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่เล่นเยอะ ไม่หักโหม ก็จะประมาณ 10 วันพอดี อันนี้ถือว่าดีมาก
HUAWEI Watch Fit มาพร้อมชิปประมวลผล DK3.5+ST ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Lite OS ชิปไม่ใช่ Kirin A1 แบบที่ใช้ในสมาร์ทวอทช์ Huawei รุ่นอื่นๆ ครับ แม้จะไม่คุ้นชื่อชิปสักเท่าไหร่ แต่การทำงานก็ไม่ได้รู้สึกติดขัดตรงไหนเลย ทำงานลื่นไหลไม่สะดุด เทียบกับ Watch GT 2 Pro ที่เคยลองเล่น เผลอๆ จะลื่นกว่าด้วยซ้ำ
การควบคุมจะเน้นการปัดหน้าจอเป็นหลักครับ จากหน้าหลัก การปัดหน้าจอจากบนลงล่าง จะเป็นการเปิดส่วนควบคุมของวอทช์ ปัดจากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย จะเป็นการเปิด shortcut ไปยังฟังค์ชั่นที่ตั้งค่าไว้ เช่น การนับก้าว การวัด heart rate วัดความเครียด หรืออื่นๆ และการปัดหน้าจอจากล่างขึ้นบน จะเป็นการเช็คการแจ้งเตือน รวมๆ แล้วก็ถือว่าจัดมาให้ครบถ้วนดีครับ รวมถึงเราสามารถใช้นาฬิกาในการควบคุมเพลง หรือกดถ่ายภาพได้ด้วย
ส่วนปุ่มด้านข้าง บางท่านอาจสงสัยว่ามีไว้ทำไม สำหรับการกดปุ่มจะปลุกหน้าจอ ย้อนกลับมาหน้า Home หรือกดเพื่อเปิดดูเมนูต่างๆ ได้นั่นเองครับ และหากกดแช่ค้างสัก 3-5 วินาที จะมีเมนูขึ้นมาเพื่อรีสตาร์ต หรือปิดนาฬิกา
ส่วนการแสดงผลภาษาไทย รุ่นนี้สามารถทำได้ดีครับ การแจ้งเตือนต่างๆ ทำได้ดี ไม่มีอาการ สระลอย หรือวางพยัญชนะผิดเพี้ยนใดๆ ให้เห็น เช่นเดียวกับเมนูภาษาไทยก็มีให้เลือกใช้เต็มรูปแบบครับ
ด้านสเปคของนาฬิการุ่นนี้ นอกจากชิปประมวลผลตามด้านบน คือจะรองรับการเชื่อมต่อ BT5.0/Bluetooth LE มีความจำภายใน 4GB แต่ไม่สามารถใช้เก็บเพลงได้ รวมถึงเชื่อมต่อหูฟังเพื่อฟังเพลงก็ไม่ได้เช่นกัน และไม่รองรับการเชื่อมต่อ NFC ครับ
Activity and Fitness Tracking
ต่อมามาลองรีวิวในด้านการติดตามการออกกำลังกายบ้างครับ HUAWEI Watch Fit มาพร้อมฟังค์ชั่นการติดตามการทำกิจกรรมได้หลากหลายถึง 96 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง (indoor, outdoor) ว่ายน้ำ ใช้เครื่อง elliptical การเต้น ต่อยมวย โยคะ หรืออื่นๆ พวกนี้มีหมดครับ และที่ขาดไม่ได้สำหรับคนทำงานออฟฟิศ หรือพวกที่นั่งนานๆ จะมีระบบเตือนให้ขยับร่างกายด้วย อันนี้ดี
นอกจากนี้ Watch Fit ยังมี GPS ในตัว ทำให้เวลาวิ่งคุณไม่จำเป็นต้องพกพาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วยก็ได้ครับ แต่อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถเชื่อมต่อ Watch Fit กับหูฟังเพื่อฟังเพลงได้เหมือน Watch GT 2 Series รวมถึงการใช้งานแบตเตอรี่เมื่อเปิด GPS ยาวๆ จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 12 ชั่วโมงครับ
นอกจากนี้สำหรับคนที่จริงจังกับการออกกำลังกาย เราสามารถนาฬิกาในการสอนออกกำลังกายในสถานะการณ์ต่างๆ ได้ครับ เช่น ในที่ทำงานเป็นต้น พร้อมกับมีภาพเคลื่อนไหวแอนิเมชันสอนออกกำลังกายแบบเป็น coach ได้ด้วย อันนี้ดีเหมือนกัน ถือว่าให้เราได้ออกกำลังกายอย่างถูกท่าถูกทางครับ
ส่วนการว่ายน้ำก็สามารถทำได้เลยครับ เพราะ Watch Fit รองรับการกันน้ำตามมาตราฐาน 5ATM ดังนั้นใครจะใส่ไปวัดการว่ายน้ำถือว่าตัวนี้รองรับได้แน่นอน
Conclusion สรุป
สรุปรีวิว HUAWEI Watch Fit นะครับ จากที่ทีมงาน MobileOcta ได้ทดสอบสักระยะหนึ่ง เราค่อนข้างประทับใจกับดีไซน์ ฟังค์ชัน และการทำงานของสมาร์ทวอทช์เรือนนี้มากครับ โดยเฉพาะด้านดีไซน์การออกแบบที่สวยหรูดูดี ใส่ได้ทั้งชายและหญิง หน้าจอแสดงผลสวยงาม สายเปลี่ยนได้ตามชอบ ถือว่างานประกอบค่อนข้างเนี๊ยบทีเดียว
ด้านการใช้งานต้องบอกว่าตอบโจทย์คนมองหาสมาร์ทวอทช์ที่มีฟังค์ชั่น basic ครบๆ ครับ เช่น การติดตามการออกกำลังกาย วัดความเครียด จับการนอนหลับ กันน้ำใส่ว่ายน้ำได้ มี GPS ในตัว และแถมให้คือมีผู้ช่วยโค้ชช่วยสอนออกกำลังกายด้วย ถ้าประมาณนี้ถือว่านาฬิกาเรือนนี้ตอบโจทย์สบายๆ ด้วยการทำงานบน UI ลื่นๆ เลยครับ ก็ประมาณนี้ครับสำหรับการรีวิว แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าครับ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
ข้อดี
– หน้าจอ AMOLED สดใสสวยงาม จอใหญ่สบายตา
– ระบบตรวจวัดการออกกำลังกายที่ดี
– ราคาประหยัด
– แบตใช้ได้ประมาณ 10 วัน
– ดีไซน์สวยหรู ใส่ได้ในหลายโอกาส
– เปลี่ยนสายได้
– มีผู้ช่วยโค้ชสอนออกกำลังกาย
– มี GPS ในตัว
ข้อสังเกต
– Lite OS จำกัดการลงแอปเพิ่มเติม
– ไม่มี NFC