สวัสดีครับ พบกับการรีวิว HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายหัวเว่ยกับทีมงาน MobileOcta กันอีกครั้งนะครับ โดยในช่วง Work From Home ช่วงนี้ทำให้หลายคนต้องใช้เวลาอยู่บ้านกันมากขึ้น จึงไม่แปลกใจที่ช่วงนี้เราได้เห็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายเจ้าหันมาให้ความสำคัญกับแท็บเล็ตกันมากขึ้น จนทำให้ยอดขายช่วงนี้กลับมาบูมอีกครั้ง เพราะคนต่างมองหาอุปกรณ์เพื่อใช้งานทั้งด้านการเรียนออนไลน์ หรือทำงานที่บ้าน และที่ขาดไม่ได้ คือเพื่อความบันเทิง ทำให้วันนี้เราจึงมีโอกาสได้หยิบยกแท็บเล็ตตัวแรงรุ่นนี้มารีวิวให้ชมกันครับ
โดยจุดเด่นคร่าวๆ ของ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch รุ่นนี้สัมผัสแรกที่เราแกะกล่องออกมาดู เอาแบบยังไม่ได้ดูข้อมูลสเปคอะไรเลย ยังเดาได้ว่ารุ่นนี้เป็นแท็บเล็ตระดับพรีเมี่ยม hign-end แน่นอน เพราะวัสดุงานประกอบถือว่าสวยงามน่าประทับใจมาก เรียกได้ว่าดีระดับต้นๆ ของตลาดเลยก็ว่าได้
มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา 12.6 นิ้วแบบ OLED FullView Display ความละเอียดระดับ 2K QHD 2560×1600 พิกเซล จัดว่าสวยงามสะดุดตา พกพาชิปประมวลผล Kirin 9000E 5nm ที่ประมวลรวดเร็วลื่นไหลไม่มีสะดุด แบต 10050mAh ก็เยอะจุใจ ใช้งานได้ตลอดวัน รวมถึงกล้องถ่ายภาพที่ให้มายกชุดแบบครบช่วงเลนส์ ทำให้พกแท็บเล็ตเครื่องเดียว ก็สามารถใช้งานตอบโจทย์ได้ครบถ้วนกระบวนความทีเดียวครับ
แต่รายละเอียดที่น่าสนใจของ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch จะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้พวกเราจะมารีวิวให้รับชมกันอย่างละเอียดแน่นอนครับ ไปติดตามกันเลย
แกะกล่อง Unboxing
ก่อนอื่นเรามาแกะกล่อง ส่องอุปกรณ์ที่คุณจะได้กับแท็บเรือธง HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ตัวนี้กันครับ โดยอุปกรณ์ก็ให้มาดังนี้เลย
- ตัวเครื่องแท็บเล็ต HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch
- สายดาต้า Type-C
- ที่ชาร์จ 40W
- อุปกรณ์สำหรับถอดซิมการ์ด
- คู่มือเริ่มต้นใช้งาน
- ใบรับประกัน
ถือว่าให้มาครบถ้วนไม่มากไปไม่น้อยไปครับ นอกจากนี้ยังจะมาพร้อมเคสคีย์บอร์ดสำหรับการพิมพ์งาน ทำงานอย่างสะดวก และปากกาสไตลัส HUAWEI M-Pencil (2nd generation) รุ่นที่สอง สำหรับจดงาน หรือวาดภาพ เพิ่มความหลากหลายในการใช้งานได้สุดในทุกด้าน
สเปค HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch
- หน้าจอ 12.6 นิ้ว OLED FullView Display ความละเอียด 2K QHD (2560×1600 พิกเซล) 16:10, 240ppi, 100% DCI-P3, สว่าง 400nits และมีสัดส่วนจอต่อตัวเครื่องที่ 90%
- มิติตัวเครื่อง 286.5 x 184.7 x 6.7 มม.
- CPU : Kirin 9000E 5nm
- RAM : 8 GB
- ROM : 256 GB รองรับหน่วยความจำภายนอก: NM memory card, รองรับสูงสุดที่ 256GB
- แบตเตอรี่ 10050mAh
- รองรับความเร็วในการชาร์จ 40W
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 13MP f1.8 Auto Focus
- Ultrawide 8 MP f2.4 มุมกว้างพิเศษ
- เซ็นเซอร์วัดระยะ TOF
- กล้องหน้า 8MP f2.0 fixed focus
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6+ WLAN: 802.11 a/b/g/n/ac (wave2), MIMO, VHT160, 2.4G และ 5G
- บูลทูธ: BT5.2, รองรับ BLE, SBC, AAC, support LDAC HD Audio
- ระบบเสียง ลำโพง 8 ชุด Stereo Speakers (tuning tech by Harman/Kardon), ไมโครโฟน 4 ชุดเพื่อการสนทนา บันทึกวิดีโอ และบันทึกเสียง
- ระบบปฏิบัติการ Harmony OS 2.0
- มี 2 สีให้เลือก คือ Olive Green, Matte Gray
- ราคา 28,990 บาท
Design การออกแบบ
ดีไซน์การออกแบบของ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ถือว่ามาพร้อมดีไซน์ที่ค่อนข้างหรูหราทีเดียวครับ ด้านหน้ามาพร้อมขอบหน้าจอที่บางมากทุกทุกด้าน กล้องหน้าถูกวางไว้บริเวณขอบด้านบน ทำให้หน้าไม่สูญเสียพื้นที่สำหรับวางกล้อง สามารถแสดงผลได้เต็มตาแบบ FullView Display
บริเวณด้านหลังออกแบบในสไตล์เรียบหรู ดูดีครับ ทุกอย่างถูกวางในตำแหน่งที่พอเหมาะ ไม่เยอะจนเกินไป กล้องถ่ายภาพถูกวางไว้บริเวณมุมขวาบน เหมาะสมกับการใช้งาน ตรงกลางมีโลโก้ Huawei สะท้อนเงาอย่างสวยงาม และถัดลงมามีตัวอักษร “sound by harman/kardon” บ่งบอกถึงคุณภาพเสียงระดับไฮเอนด์ที่เราจะพูดถึงในส่วนต่อไปครับ
ขอบเครื่องด้านข้างมีดีไซน์แบบโค้งมน ทำให้เข้ากับการจับถือได้อย่างลงตัว ไม่เมื่อย ไม่คม ถือใช้งานนานๆ ได้อย่างสบาย โดยบริเวณด้านล่างจะมีช่องสำหรับใส่หน่วยความจำเสริม
ด้านซ้ายมีลำโพงนอก และพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จและเชื่อมต่อข้อมูล
ด้านบนมีไมค์สำหรับเสียงที่คมชัดในตำแหน่งต่างๆ และมีปุ่มปรับเสียง
ส่วนที่ด้านขวา มีปุ่ม power และลำโพงอีกชุด ถือว่าให้ลำโพงมารอบทิศทางเลยทีเดียว
ด้านดีไซน์โดยรวมของรุ่นนี้ถือว่ามาแบบ premium สุดๆ ครับ ถือทำงานที่ไหน สวยงามสะดุดตา ไม่อายใครแน่นอน แถมมีคีย์บอร์ด และสไตลัสทำงานด้วย ใครเห็นก็ต้องอิจฉาแน่นอน
Performance ประสิทธิภาพ
ต่อมาเราไปดูด้านการใช้งานกันครับ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ถือเป็นแท็บเล็ตซีรีย์สูงสุดของ Huawei ดังนั้นด้านประสิทธิภาพเชื่อว่าหลายคนก็น่าจะคาดหวังว่าจะให้มาในระดับสูง และจากที่เราได้ทดสอบ ผลลัพท์ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ
HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch นอกจากจะมีดีไซน์สวยหรูแล้ว ด้านการใช้งานก็สามารถตอบสนองผู้ใช้ในระดับสูงเช่นกัน ตัวเครื่องมาพร้อมชิปเซ็ต Kirin 9000E ที่พัฒนาด้วยสถาปัตยกรรม 5nm ทำให้มีความเร็วแรงในระดับต้นๆ ของตลาด ตอบรับการทำงานที่จำเป็นต้องรีดศักยภาพการประมวลผลได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น และยังสนับสนุนด้วย RAM 8GB ทำให้การใช้งานแบบ multi-tasking ลื่นไหลไม่มีสะดุดอีกด้วย
และที่สำคัญแท็บเล็ตรุ่นนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0 ที่พูดกันตรงๆ ก็ต้องบอกว่าสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลมากทีเดียวครับ พูดแบบไม่อวยตามความรู้สึกของผู้รีวิวคิดว่ามันลื่นกว่า Android OS แบบรู้สึกได้จริงๆ ตรงนี้อยากให้ได้ลองกัน ส่วนที่ว่าแอปสโตร์หรือ App Gallery ของ Huawei ยังมีแอปที่จำกัดอยู่บ้าง
อันนี้ต้องยอมรับว่าจริงเช่นกันครับ แต่แอปหลักๆ สำหรับการทำงาน เช่น แอปธนาคารหลักของประเทศไทย แอป Office ต่างๆ หรือแม้แต่แอปพวกความบันเทิงอย่างเกม หรือดูหนังฟังเพลง ก็มีให้เลือกใช้แทบจะใกล้เคียงกับ Play Store แล้วครับ และจุดนี้ทาง Huawei ก็สัญญาว่าจะเพิ่มแอปสำคัญๆ ให้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นระยะยาวคิดว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยถ้าพูดการใช้งานที่จำเป็นต้องใช้การประมวลผลค่อนข้างหนัก วิธีที่จะตรวจสอบได้ดีอีกวิธีหนึ่ง คือ การเล่นเกมครับ เพราะเกมยุคนี้นอกจากจะแข่งการด้าน Game Play ที่สนุกสนานแล้ว ด้านกราฟฟิกก็เป็นอีกอย่างที่ทางนักพัฒนา หรือผู้เล่นต่างนำมาขิงกันอยู่เสมอ ซึ่งทางผู้รีวิวเลือกทดสอบเล่นเกมต่างๆ ใน App Gallery ยกตัวอย่างเช่นเกม Free Fire เกม FPS ชื่อดังที่ได้รับความนิยม ต้องบอกว่าสามารถทำได้ดีไม่มีปัญหาเลยครับ
และยิ่งได้เล่นกับหน้าจอใหญ่ๆ ระดับ 12 นิ้วแบบนี้ ถือว่ามองเห็นคู่แข่งง่ายมากๆ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ของหน้าจอ ทำให้บางท่านอาจเล่นได้ไม่ถนัดเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเราทดสอบให้ชมแล้วว่าเกมระดับนี้ เปิดกราฟฟิกในระดับสูงสุด ก็สามารถเล่นได้แบบไม่มีสะดุด ก็ต้องบอกว่าแท็บตัวนี้พกพาสเปคระดับต้นของตลาดมาจริงๆ ครับ
Entertainment ด้านความบันเทิง
พอได้จับแท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ๆ จอสวยๆ อย่าง HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch เครื่องนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่ามันเหมาะกับเป็นแท็บเล็ตเพื่อความบันเทิงจริงๆ ครับ โดยเฉพาะสำหรับดูหนังฟังเพลง ดูซีรีย์เกาหลี หรือเปิดคลิปวีดีโอจากออนไลน์แพลตฟอร์มต่างๆ นอกจากการแสดงผลภาพจะทำได้อย่างน่าประทับใจบนหน้าจอ FullView Display แล้ว ด้านระบบเสียงของรุ่นนี้ก็ไม่ธรรมดาทีเดียว
เพราะแท็บเล็ตรุ่นนี้พกพาลำโพงมาถึง 8 ชุดรอบตัวเครื่อง สามารถขับพลังเสียงแบบ Stereo Speakers รอบทิศทาง และที่สำคัญยังถูกปรับจูนเสียงโดยบริษัทเครื่องเสียงชั้นนำของโลกอย่าง Harman/Kardon ทำให้เรื่องการดูหนังฟังเพลงสามารถจัดเต็มได้เต็มอรรถรสแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดฟังจากลำโพงในตัวเครื่อง หรือเชื่อมต่อกับลำโพงภายนอกก็ทำได้ดีเยี่ยมเต็มพลังเสียงจริงๆ
นอกจากนี้ด้านระบบเสียงยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะตัวเครื่องยังมีไมโครโฟนอีก 4 ชุดเพื่อการสนทนา ประชุม video call บันทึกวิดีโอ และบันทึกเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ตรงนี้ตอบโจทย์ทั้งด้านความบันเทิง และการทำงาน WFH เลยครับ (หรือจะเป็นการเรียนออนไลน์ก็ช่วยได้เยอะทีเดียว)
Working ด้านการทำงาน
แปะด้านบนจอปุ๊ป เชื่อมต่อปั๊บ พร้อมชาร์จทันทีสะดวกมาก
ไหนๆ พูดถึง Work From Home กันแล้ว ขอรีวิวด้านการใช้งานเพื่อการเป็นแท็บเล็ตสำหรับมืออาชีพ เน้นการทำงานเป็นหลักบ้างครับ อย่างแรกเลยที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือการรองรับปากกา HUAWEI M-Pencil (2nd generation) ที่สามารถจับถือได้ถนัดมือมาก เหมือนจับดินสอจริงๆ เลยครับ (รองรับแรงกด 4096 ระดับ) ตัวปากกามีความเหลี่ยม เข้ามือสุดๆ เหมาะกับการวาดภาพ เขียนแบบ แก้ไขงาน ตรวจงาน หรือการจดบันทึกเพื่อการเรียนต่างๆ ได้ดีมาก รวมถึง Huawei มีการติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับการวาดเขียนมาให้แล้วด้วย ถือว่าตอบสนองผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี
รองรับแรงกดที่หลากหลาย คล้ายดินสอจริง
นอกจากนี้ยังมีฟังค์ชั่นที่เรียกว่า Free Script ที่เปลี่ยนตัวเขียนเป็นตัวพิมพ์ได้ทันทีอย่างแม่นยำ เหมาะกับการจดบันทึกด่วนอย่างมาก และยังมีฟังค์ชั่นฉลาดๆ อย่างการใช้นิ้วชี้เคาะตรงหัวปากกาที่จับสองครั้ง ก็จะพบกับฟีเจอร์ใหม่ Double-tap ที่สามารถสลับการใช้งานระหว่างเครื่องมือปัจจุบันและยางลบ หรือสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ปัจจุบันและอุปกรณ์ก่อนหน้านี้ หรือเพื่อเรียกเปิดชุดสีได้ง่ายๆ ช่วยให้การจดบันทึกและการวาดภาพตามแรงบันดาลใจทำได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด เชื่อว่าใครที่ชอบแท็บเล็ตมีปากกาสไตลัส น่าจะชอบกันแน่นอน
ตัวขายจริงแป้นพิมพ์น่าจะมีภาษาไทยด้วย
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมเพื่อการทำงานอีกชิ้น คือ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard แบบไร้สายได้อย่างยอดเยี่ยมเสมือนแล็ปท็อปมีระยะห่างระหว่างตัวอักษร 1.3 มิลลิเมตรเทียบเท่าคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ PC ทั่วไป ทำให้สะดวกในการพิมพ์มากขึ้น แถมน้ำหนักเพียง 350 กรัมเท่านั้น และสามารถใช้เป็นเคสสำหรับใส่แท็บเล็ตได้อย่างสวยงาม ดูหรูหรามีระดับมากขึ้นไปอีก ที่ด้านหลังของเคสคีย์บอร์ด มีการเจาะช่องกล้องเอาไว้ด้วย ทำให้สามารถถือถ่ายภาพได้อย่างสะดวกทีเดียว
และอีกหนึ่งฟังค์ชั่นเด็ดที่ทีมงานได้ลองแล้ว ต้องบอกว่า “ชอบ” เลยฮะ ก็คือ HUAWEI Multi-screen Collaboration with laptop ที่ช่วยให้แท็บเล็ตเป็นเครื่องมือที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อทำงานร่วมกับโน้ตบุ๊ค โดยมีด้วยกัน 2 โหมด คือ Mirror Mode ที่ใช้การควบคุมคำสั่งต่างๆ บนแล็ปท็อปผ่านแท็บเล็ตได้อย่างง่ายดาย และ Extend Mode เปลี่ยนแท็บเล็ตให้เป็นจอภาพที่ 2 ขยายขีดความสามารถการทำงานของแล็ปท็อปไปในตัว
และที่สำคัญสามารถทำงานร่วมกันกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตในฟังก์ชัน HUAWEI Share ที่จะทำให้การทำงานของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยการใช้ปากกาในการเขียนบันทึก หรือตอบข้อความจากแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่เปิดบนแท็บเล็ต รวมไปถึงการโยนไฟล์งานไปมาระหว่างอุปกรณ์พกพา และโน้ตบุ๊คได้อย่างไร้รอยต่อ จะโหลดภาพย้ายไฟล์ หรืออื่นๆ ก็ง่ายเหมือนเป็นอุปกรณ์ชิ้นเดียวกัน ช่วยลดเวลาการทำงานได้เป็นอย่างดี
ทำงานเป็นหน้าจอที่สอง เหมือนมีมอนิเตอร์เพิ่มอีกตัวช่วยให้ทำงานสะดวกมาก
ควบคุมด้วยระบบสัมผัส เหมือนเป็นแท็บเล็ต Windows OS เลย
รวมถึงยังฟีเจอร์ Multi-Window ที่น่าสนใจ คือทำให้เราสามารถเปิดใช้งานหน้าต่างได้สูงสุดถึง 4 แอปฯ 4 หน้าจอ และสะดวกยิ่งกว่ากับการเก็บหน้าต่างลอยในแท็บเมนูด้านข้างได้มากสุด 10 หน้าต่าง เป็นต้น ด้วยฟีเจอร์เหล่านี้ จะช่วยให้เพื่อนๆ สามารถทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้นได้จริงๆ