ด้านการถ่ายภาพ
กล้องหลัง 4 ตัว AI Qaud Camera 64MP
HONOR X8 ติดตั้งกล้อง 4 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ส่วนโหมดถ่ายภาพนั้นมีให้เลือกทั้งโหมดปกติ, ภาพบุคคล (Portrait), โหมดกลางคืน, โหมดรูรับแสง, โหมดวิดีโอ, โหมด HDR, โหมดซุปเปอร์มาโคร, โหมดเรื่องราว, โหมด Panorama, โหมดสติ๊กเกอร์, โหมดความละเอียดสูง, โหมดมือโปร, โหมดหน่วงเวลา และโหมดมุมมองคู่ นอกจากนี้ด้านบนของ UI กล้องยังมีโหมด Honor Lens, เปิด/ปิดโหมด AI, เปิด/ปิดแฟลช, เลือกฟิลเตอร์ และตั้งค่าต่างๆ
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
โหมดปกติ
โหมด Portriat
โหมดฟิลเตอร์
คราวนี้มาดูภาพอื่นๆ จากกล้องหลังกันบ้าง
กล้องหน้า 16MP
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 พร้อมเทคโนโลยี AI Beauty และมีฟิลเตอร์ให้เลือก 8 แบบ พร้อมโหมด Portrait ที่มีฟีเจอร์ Beauty และ Bokeh ที่ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่ออกมาสวยงามโดดเด่น
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
โหมดปกติ
โหมด Portrait
โหมดฟิลเตอร์
ด้านบันเทิง
HONOR X8 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ทำให้รับชมความบันเทิงได้อย่างเต็มตาเต็มอารมณ์ รวมถึงรองรับฟีเจอร์ HONOR Histen สำหรับหูฟังโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยเพิ่มเอฟเฟกต์เสียงแบบต่างๆ ให้มีมิติและสมจริงยิ่งขึ้น โดยเราสามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับประเภทของหูฟังที่ใช้อยู่ ได้แก่หูฟังแบบ In-Ear, แบบ Earbuds และหูฟังแบบ Headset
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ที่ใช้กับเครื่องรุ่นนี้มีขนาด 4,000 mAh ซึ่งถือว่ามีขนาดมาตรฐานเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ และขุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 680 (6nm) ที่ประหยัดพลังงาน และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 22.5W HONOR SuperCharge
รวมทั้งยังมีโหมดเพิ่มประสิทธิภาพที่ปรับการตั้งค่าให้เหมาะสมกับการใช้งาน และโหมดประหยัดพลังงานที่ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้นานขึ้น หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานต่อเนื่องใน 1 วันปรากฏว่าสามารถใช้งานแบบทั่วไปได้ภายใน 1 วันแบบสบายๆ โดยรวมแล้วถือว่าพอใช้
บทสรุป
HONOR X8 ถือเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่หรูหรา กระทัดรัด กระชับมือที่บางเฉีย เพียง 7.45 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 177 กรัม มาพร้อมหน้าจอแบบ HONOR FullView Display ขนาด 6.7 นิ้ว และลื่นไม่มีสะดุดด้วยอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และประสิทธิภาพแรงด้วย Snapdragon 680 (6nm) ที่ประหยัดพลังงาน และด้วยเทคโนโลยี HONOR RAM Turbo ขยายความจำ RAM ได้อีก 2GB ให้ประสบการณ์การทำงานหลายอย่างที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
รวมทั้งติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 64MP ทำให้ภาพมีความคมชัดมาก แม้จะซูมหลายครั้งก็ยังชัดเจน พร้อมกล้องมุมกว้าง 5MP และกล้องเซลฟี่ที่สวยใสคมชัด 16MP ใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว HONOR SuperCharge 22.5W และมาพร้อม Google Mobile Services (GMS) ใช้บริการจาก Google ได้ 100% เหมาะสำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพ และชื่นชอบงานออกแบบที่สวยงามพรีเมียม
ทั้งนี้ HONOR X8 (6+128GB) มีให้เลือก 3 สีคือ Ocean Blue, Midnight Black และ Titanium Silver โดยเปิดตัวในราคา 7,999 บาท เริ่มวางจำหน่ายวันแรกในวันที่ 27 กรกฎาคม 2565
โปรโมชั่นสุดพิเศษ เมื่อจอง HONOR X9, HONOR X8 และ HONOR X7 ล่วงหน้า ผ่านตัวแทนจำหน่ายทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม ถึง 26 กรกฎาคม 2565 พร้อมรับสิทธิประโยชน์ มูลค่ารวมสูงสุด 5,499 บาท
- เมื่อจอง HONOR X9 รับฟรี สายเชื่อมต่อ S-GEAR HDMI+PD+VGA+USB Converter มูลค่า 899 บาท
- เมื่อจอง HONOR X8 หรือ HONOR X7 รับฟรี สายชาร์จ S-GEAR Cable 3-in-1 มูลค่า 359 บาท
โดยไม่ว่าจะจอง HONOR X Series รุ่นใด ก็มั่นใจได้กับคุณภาพเต็มเปี่ยมกับ HONOR X Privilege Card ด้วยสิทธิประโยชน์มูลค่า 4,600 บาท ซึ่งประกอบด้วยประกันหน้าจอแตกคุ้มครอง 90 วัน และ สิทธิรับการซ่อมบำรุง โดยไม่เสียค่าบริการเป็นเวลา 2 ปี และสามารถรับเครื่อง HONOR X Series ได้ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป