ในทุกวันนี้ที่เครื่องดูดฝุ่นเป็นเรื่องใกล้ตัวแทบจะเป็นสมาร์ตโฟนไปแล้วครับ เพราะในตลาดตอนนี้มีเครื่องดูดฝุ่นให้เลือกมากมายหลายแบบ หลายขนาด พลังการดูด หรือจะเป็นฟีเจอร์พิเศษที่เสริมเข้ามาทำให้แตกต่างจากคู่แข่งในท้องตลาด ไม่เชื่อลองเปิด Shopee หรือ Lazada ขึ้นมาแล้วค้นหาคำว่า เครื่องดูดฝุ่นสิครับ จะเห็นตัวเลือกขึ้นมากกว่า 10 แบบแน่นอน เพราะเครื่องดูดฝุ่นไร้สายกำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายอย่างรุ่นที่เราได้มารีวิวในวันนี้คือ Dreame T30 Cordless Vacuum รุ่นนี้นั่นเอง
รุ่นนี้เรียกสั้นๆ ว่า Dreame T30 ครับ โดยรุ่นนี้ถูกพัฒนาโดยบริษัท Dreametech ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องดูดฝุ่นยอดนิยมที่อยู่ในอุตสาหกรรมมาระยะหนึ่งแล้ว (และถ้าคุณชื่นชอบข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ น่าจะเคยคุ้นชื่อ Dreametech บนแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิ้ง อย่าง Indiegogo อย่างแน่นอน) ซึ่งแบรนด์นี้มีการสร้างชื่อมาแล้วมากมายโดยเพราะด้านความสวยงาม และการออกแบบที่หรูหรา
แต่เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dreame T30 จะมีอะไรที่น่าสนใจ หรือน่าสังเกตบ้างนั้น วันนี้พวกเราทีมงาน MobileOcta จะมาเล่าให้ฟังกันครับ
แกะกล่อง Dreame T30
อุปกรณ์ที่แถมมาให้ในกล่อง Dreame T30 จะประกอบด้วย:
- เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dreame T30
- อุปกรณ์สำหรับดูด หัวและแปรงประเภทต่างๆ
- ที่ชาร์จ (90mA)
- Wall Mount สำหรับแขวนเครื่องบนกำแพงพร้อมอุปกรณ์สำหรับติดตั้ง
- คู่มือ และใบรับประกันต่างๆ
ดีไซน์การออกแบบ Dreame T30
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dreame T30 อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นครับ เราค่อนข้างประทับใจด้านการออกแบบค่อนข้างมากครับ เพราะมาพร้อมดีไซน์ที่สวยทันสมัย วัสดุงานประกอบทำมาค่อนข้างดีครับ ส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกและคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีน้ำหนักเบา และให้ความทนทาน งานประกอบมีความแน่นหนาดีครับ จับถือแล้วให้ความรู้สึกที่ดี มีสีสันที่ดูแพงไม่แพ้ตัวแพงๆ ในตลาดเลยครับ
ในส่วนของชิ้นส่วนเสริมอย่างพวกหัว หรือท่อดูดต่างๆ ก็ทำมาได้สวยงาม แข็งแรง และใช้งานได้จริงครับ ส่วนข้อต่อที่เป็นคลิปสามารถเข้าล็อคได้อย่างแน่นหนา เชื่อว่าใช้ไปนานๆ ก็น่าจะทนทาน และไม่หลุดง่ายอย่างแน่นอน
ด้านการควบคุม ปุ่มกดบนเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้มีเพียง 3 ปุ่มเท่านั้นครับ คือปุ่มบริเวณด้ามจับ อีก 2 ปุ่มคือปุ่มปรับโหมด และปุ่ม Lock ที่ใช้สำหรับล็อคการดูด และเป็นปุ่มที่ดีมากครับ ผมใช้แทบตลอดเวลาในการทำความสะอาด เพราะช่วยให้ไม่เมื่อยมือเวลาดูดฝุ่น เครื่องจะล็อคการทำงานไว้ให้เลย โดยรวมแล้วถือว่าค่อนข้างใช้งานง่ายทีเดียว ไม่ซับซ้อน
จุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้คือมีหน้าจอ LCD Display ให้มาด้วยครับ ถือว่าเจ๋งดี ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ ในเครื่องดูดฝุ่นราคาประหยัดแบบนี้ โดยจะทำหน้าที่แสดงโหมดการทำงานในปัจจุบัน พลังงานแบตเตอรี่คงเหลือ และระดับฝุ่น (Dust Level) ซึ่งจะบอกว่าบริเวณที่กำลังทำความสะอาดอยู่มีฝุ่นเยอะขนาดไหน และจะแสดงผลเป็นกราฟที่สวยงาม เข้าใจง่าย
ส่วนปุ่มโหมดการทำงานนั้นก็ตามชื่อครับ ใช้สำหรับเปลี่ยนโหมดการดูดของ Dreame T30 ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 โหมด คือ Auto, Eco, Medium และ Turbo การใช้งานก็กดปุ่มโหมดไปเรื่อยๆ ระบบก็จะเลื่อนโหมดตามลำดับนั่นเอง
และในด้านการชาร์จจะมีพอร์ต DC อยู่บริเวณด้านล่างของด้ามจับครับ
บริเวณด้านหน้าจะมีปุ่มเปิดถังเก็บฝุ่น เพื่อเทฝุ่นได้อย่างสะดวก และเราไม่จำเป็นต้องให้นิ้วมือเปื้อนฝุ่นแต่อย่างใดครับ และเวลาใช้ไปนานๆ เราสามารถถอดชิ้นส่วนด้วยการกดปุ่มบริเวณใต้เครื่อง เพื่อถอดชิ้นส่วนออกมาล้างอย่างละเอียดได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว ง่ายมาก ส่วนการประกอบอุปกรณ์คืนหลังจากล้าง ก็ต้องเช็ดให้แห้ง หรือตากให้แห้งก่อนนะครับ ยังไงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เอาไว้ห่างๆ น้ำหน่อยก็ดีเนอะ
ประสิทธิภาพ ด้านการใช้งาน
Dreame T30 ถือเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ค่อนข้างครบเครื่องทีเดียวครับ และยังมีพลังการดูดที่ค่อนข้างแรงทีเดียวครับ คืออยู่ที่ 190AW แต่อย่างไรก็ตามในโหมด Eco ที่แม้จะประหยัดพลังงาน และเสียงค่อนข้างเงียบ เราแทบไม่ได้ใช้เท่าไหร่ครับ เพราะแรงดูดอาจจะเบาไปหน่อย ส่วนใหญ่จะใช้ในโหมด Auto ที่จะปรับแรงตามลักษณะการใช้งานและปริมาณฝุ่นที่ระบบตรวจพบอัตโนมัติ และในโหมด Turbo ที่ให้แรงดูดที่แรงมาก แต่เสียงก็ดังขึ้นมากพอสมควร อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติครับ
โดยเราจะแนะนำให้ใช้โหมด Auto ที่จะสามารถตรวจจับฝุ่นได้โดยอัตโนมัติมากกว่าครับ และเมื่อใช้งานในโหมดอัตโนมัติ เครื่องจะเลือกระดับการดูดที่เหมาะสมสำหรับการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพ และเวลาการใช้งานที่นานขึ้นเอง ฉลาดดี
และถ้าพื้นที่ที่เราทำความสะอาดมีฝุ่นมาก แนะนำให้เปิด Turbo เลยครับ เพราะแรงดูดสะใจมาก เราทดสอบลองใช้ดูดสมาร์ทโฟนยกขึ้นได้เลย ตรงนี้ถือว่าดีมาก
โดยรวมแล้ว Dreame T30 ด้านประสิทธิภาพถือว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่ดีมากครับ เพราะช่วยลดเวลาการทำความสะอาดได้ค่อนข้างดี ในขณะที่เสียงการใช้งานโดยเฉลี่ยแล้วถือว่าเงียบกว่าคู่แข่งพอสมควรทีเดียว
ส่วนหัวเปลี่ยน และข้อต่อต่างๆ ที่ให้มาในกล่องถือว่าให้มาค่อนข้างครบทีเดียวครับ ช่วยให้เราทำความสะอาดในส่วนต่างๆ ของบ้านได้แทบทั้งหลัง ไม่ว่าจะเป็นใต้ตู้ใต้โต๊ะ บนพรม บนพื้นผิวต่างๆ หรือจะเป็นเพดาน ผ้าม่าน อุปกรณ์เสริมที่ให้มาสามารถทำหน้าที่ได้ดีมากครับ ซึ่งที่แถมมาในกล่องจะมีชิ้นส่วนและหน้าที่ประมาณนี้ครับ
แปรงลูกกลิ้งหลัก: เราใช้แปรงนี้เป็นหลักในการทำความสะอาดพื้นครับ (ได้ทั้งไม้และพรม) และแทบทุกพื้นผิวเรียบที่มีพื้นที่ผิวขนาดใหญ่ทั่วไป ถือว่าใช้บ่อยที่สุด และลูกกลิ้งนี้ยังมีเทคโนโลยีป้องกันเส้นผมไปพันด้วย ตรงนี้ก็ถือว่าดีครับ ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อย (แต่ถ้าเลอะมากๆ ก็สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้เช่นกัน)
แปรงเล็ก – เหมาะสำหรับทำความสะอาดโซฟา เก้าอี้ เตียง หรือจะเป็นเบาะในรถ ชิ้นนี้ถือว่าเล็กน่าพกพาครับ
แปรงปัดฝุ่นแบบนุ่ม – ชิ้นนี้จะเหมาะสำหรับทำความสะอาดคีย์บอร์ด โต๊ะ ขอบผนัง หรือในรถก็ดีเช่นกัน
หัวแปรง 2 in 1 – หัวนี้จะสามารถยืดแปรงขึ้นและลงได้ เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย และไม่อยากถอดหัวเปลี่ยนบ่อยๆ ครับ (หัวนี้จะคล้ายหัวแปรง + กับหัวซอกซอนครับ)
หัวดูดซอกซอน – หัวนี้จะเท่มากครับ เพราะมีไฟ LED อยู่บริเวณปลายด้วยเพื่อตรวจสอบความสะอาด และมีประโยชน์สำหรับการทำความสะอาดพื้นที่แคบ
ท่อต่อแบบยืดหยุ่นและส่วนโค้งงอ – อันนี้ก็ตามชื่อครับ ใช้สำหรับต่อความยาว และโค้งงอได้เพื่อเข้าถึงพื้นที่เข้าถึงยาก อย่างเช่น ใต้โซฟา ใต้เตียง เป็นต้น ซึ่งช่วยได้เยอะมากเวลาดูดตามซอกต่างๆ
Wall Mount – เป็นตัวสำหรับยึดติดผนังเพื่อเก็บเครื่องดูดฝุ่นของคุณบนกำแพง เพื่อให้ไม่เปลืองพื้นที่ใช้สอยต่างๆ และยังช่วยให้อุปกรณ์เสริมต่างๆ เป็นระเบียบอีกด้วย
และข้อดีอีกอย่างคือระบบกรอง และซีลต่างๆ ที่ทำมาค่อนข้างดีครับ เพราะสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 99.97% หรือ 0.3 ไมครอน ทำให้ฝุ่นไม่ฟุ้งกระจาย หรือรั่วไหลเวลาใช้งาน ปลอดภัยต่อผู้ใช้ด้วย
แบตเตอรี่
เนื่องจาก Dreame T30 เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย แบตเตอรี่จึงเป็นหัวใจหลักแน่นอนครับ โดยอุปกรณ์มีแบตเตอรี่ขนาด 2900mAh ซึ่งถือว่าพอใช้ได้ ไม่มากไม่น้อยครับ แต่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานสูงสุด 90 นาที หรือประมาณ 1.5 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงานหรือโหมด Eco แต่อย่างไรก็ตาม อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่า Eco Mode อาจจะดูดเบาไปสักหน่อย ซึ่งเราใช้งานจริงในโหมด Auto ซึ่งจะทำงานแรงกว่า ดังนั้นเวลาการใช้งานจึงน้อยกว่านั้นเล็กน้อย แต่ในโหมด Turbo ใช้ได้ประมาณ 7 นาทีนิดๆ เท่านั้น น้อยไปหน่อยนะ
และเวลาที่แบตหมดก็สามารถชาร์จได้ด้วยที่ชาร์จ DC ที่แถมมาให้ในกล่อง โดยเวลาการใช้จะใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมงสำหรับการชาร์จ 0-50% และใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาทีในการชาร์จจนเต็ม 100% ซึ่งถือเป็นเวลาที่ไม่ช้า ไม่เร็วครับ แต่ถ้าชาร์จเร็วกว่านี้ได้ก็จะดีมาก
สรุป
Dreame T30 ถือเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่น่าสนใจเครื่องหนึ่งครับ ซึ่งมีจุดแข็งอยู่ที่แรงดูดที่ยอดเยี่ยม (ในโหมด Turbo) มีโหมดการทำความสะอาดที่ฉลาด มีหน้าจอ LCD สำหรับแสดงระดับฝุ่นในพื้นที่ที่ทำความสะอาด ดูดง่ายไม่เมื่อยนิ้วเพราะมีโหมด Lock ไม่ต้องกดไกค้างตลอดเวลา เสียงการทำงานค่อนข้างเบา ให้อุปกรณ์เสริมหัวดูดและข้อต่อต่างๆ ค่อนข้างเยอะ หลากหลาย และมีประโยชน์ และเหมาะมากสำหรับทั้งการทำความสะอาดในบ้าน หรือในรถครับ เพราะไม่มีสายเกะกะ ตรงนี้สะดวกมากทีเดียว
ส่วนข้อสังเกตจริงๆ น่าจะมีแค่ในโหมด Eco ที่แรงดูดเบาไปสักนิด จนแทบไม่มีประโยชน์เลยครับ แนะนำให้ใช้โหมด Auto หรือกลางๆ ขึ้นไปจะใช้งานได้ดีกว่า
นอกจากนี้ข้อดีที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ น้ำหนักที่ค่อนข้างเบาครับ ทำให้เวลาที่เราต้องการทำความสะอาดที่สูงก็สามารถถือได้ด้วยมือข้างเดียว หรือแม้จะเป็นเด็ก หรือผู้หญิง ก็สามารถยกขึ้นใช้งานได้ไม่ยากเช่นกัน
ส่วนทางด้านราคา Dreame T30 Cordless Vacuum มีราคาอยู่ที่ 13,999 บาท สามารถซื้อได้จากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วไปครับ สำหรับการรีวิวก็ต้องขอจบลงเพียงเท่านี้ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ 😀