หลังจาก Apple ได้ทำการตัดชุดหูฟังออกจากกล่องที่วางจำหน่าย iPhone ออกไป ทำให้ผู้ใช้ที่ต้องการการรับฟังเพลง หรือสนทนาโทรศัพท์จะต้องหาซื้อหูฟังแบบมีสาย หรือไร้สายเพื่อใช้งานเอง แต่จะให้ซื้อหูฟังดีๆ ก็มีราคาแพงเกินไป แต่จะหาถูกๆ ใช้ ก็ไม่มั่นใจในคุณภาพ
ดังนั้นเพื่อตอบรับกับความต้องการส่วนนี้ Apple จึงเปิดตัวหูฟังไร้สาย Beats Flex ที่พัฒนาโดยบริษัท Beats ที่ตอนนี้อยู่ภายใต้แบรนด์ Apple เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหูฟังรุ่นนี้พกพาฟีเจอร์บางอย่างของหูฟังรุ่นพรีเมี่ยมอย่าง AirPods เอาไว้หลายอย่าง ในราคาที่ถูกกว่าหลายเท่าตัว
โดยราคาของหูฟัง Beats Flex จะอยู่ที่ 1,900 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่พอรับได้ เมื่อเทียบกับคุณภาพครับ เพราะถือว่าถูกกว่า AirPods รุ่นต่างๆ หลายเท่าทีเดียว
วันนี้ทีมงาน MOBILEOCTA มีโอกาสได้ทดสอบ รีวิว Beats Flex รุ่นนี้ครับ มาดูกันครับว่าหูฟังรุ่นนี้มีอะไรที่เราประทับใจ หรือขัดใจกันบ้าง
Design การออกแบบ
หูฟังไร้สาย Beats Flex รุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์แบบหูฟังไร้สายที่มีสายคล้องคอครับ คล้ายกับหูฟังสำหรับใส่ออกกำลังกาย เพราะจะไม่หลุดหล่นหายได้ง่าย มีน้ำหนักประมาณ 18.6 กรัม ถือว่าเบากว่าหูฟัง Powerbeats ราว 7.7 กรัม มีวัสดุเป็นพลาสติกค่อนข้างดี ผสมกับยางในบางส่วน
มีปลายหูฟังที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งในกล่องมีหูฟังขนาดอื่นๆ ใส่มาให้ด้วยรวมทั้งหมด 4 ขนาด จากที่ทดสอบใส่ฟังเพลงนานประมาณ 2-4 ชั่วโมง ไม่รู้สึกอึดอัด หรือไม่สบายตัวครับ สามารถใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกรำคาญเลย อยากฟังก็หยิบยัดหู ไม่อยากฟังก็ถอดปล่อยคาคอไว้เลย ซึ่งไม่ต้องกลัวตกหายเพราะแม่เหล็กที่หูฟังทั้ง 2 ข้างดูดแรงมาก จัดว่าดี
Specification & Connectivity
ด้านสเปค และการเชื่อมต่อ Flex มาพร้อมชิปเสียง Apple W1 ไม่ใช่ชิปรุ่นใหม่อย่าง H1 แบบที่ใช้บน AirPods รุ่นล่าสุด หรือ Powerbeats ที่มีราคาแพงกว่าหลายขุมครับ แต่อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นรุ่นประหยัด แต่ก็รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 ที่สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone ได้อย่างรวดเร็ว รองรับการแจ้งสถานะแบตเตอรี่บน iOS ได้ และสามารถสลับใช้งานระหว่างอุปกรณ์ Apple Devices ได้อย่างไร้รอยต่อ
อย่างไรก็ตาม หากอยากได้หูฟังตัวนี้ไปใช้กับอุปกรณ์ Android OS ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Beats ในสโตร์เพื่อใช้งานได้ ซึ่งจะสามารถทำงานได้เหมือนบนไอโฟนเลย ทั้งการช่วยเหลือในการเชื่อมต่อ ดู battery status ไปจนถึงการอัพเดตซอฟท์แวร์ต่างๆ ได้
ส่วนการเรียกใช้ Siri หูฟังรุ่นนี้จะไม่มีโหมด always-listening hands-free Siri ที่เรียกใช้ได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องกดปุ่มอะไรนะครับ ดังนั้นหากจะเรียกใช้ Siri ต้องใช้การกดปุ่มนั่นเอง (หรือเรียก Google Assistant ก็ต้องกดปุ่มเช่นกัน)
ปุ่มควบคุมหลักๆ จะอยู่ที่บริเวณตัวควบคุมด้านซ้าย เช่นเดียวกันกับพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จ และไมค์สนทนา ส่วนปุ่มที่มีทางฝั่งนี้ ประกอบไปด้วย ปุ่มปรับเสียง และปุ่ม multi-function ที่สามารถเรียกใช้งานฟังค์ชั่นต่างๆ ได้ตามลักษณะที่กด เช่น กดครั้งเดียวเพื่อ play/pause , กด 2 หรือ 3 ครั้ง เพื่อเปลี่ยนแปลง , หรือกดค้างเพื่อเรียก voice assistant ส่วนทางด้านขวาจะมีปุ่มเดียวคือปุ่ม power นั่นเอง
ส่วนเมื่อเราไม่ฟังเพลง และปล่อยหูฟังให้ติดกัน (ผ่านแม่เหล็ก) ระบบจะหยุดเพลงให้เราอัตโนมัติครับ
Sound คุณภาพเสียง
Beats Flex มาพร้อมคุณภาพเสียงที่คุ้มค่าตามราคาครับ รองรับการฟังเพลงหลากหลายแนว มีเบสที่ดีเกินคาด รวมถึงเสียงกลาง และเสียงสูงที่ดีใช้ได้ ทำให้หูฟังรุ่นนี้เป็นหูฟังที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับคนทั่วไปครับ
ส่วนด้านแบตเตอรี่ หูฟังแบบนี้ดีอย่างคือไม่ต้องหาเคสเสียบชาร์จบ่อยๆ ครับ เพราะเฉพาะแบตในตัวก็สามารถฟังเพลงได้เกิน 10 ชั่วโมงแล้ว ตามสเปคบอก 12 ชั่งโมง ซึ่งจากที่ทดสอบเปิดเสียงกลางๆ ก็สามารถทำได้เกือบตามนั้นจริงๆ และยังมีฟีเจอร์อย่างการชาร์จเร็ว ที่ชาร์จเพียง 10 นาทีตอนที่แบตใกล้หมด จะสามารถฟังเพลงได้นานขึ้นอีก 90 นาที และการชาร์จ 0-100% จะทำได้ที่ประมาณ 90 นาที ถือว่าไม่ช้าเลย
สำหรับการสนทนา หูฟังตัวนี้สามารถให้เสียงที่ดีครับ ทั้งปลายสาย และต้นทาง สามารถได้ยินเสียงที่ชัดเจนใช้ได้ แต่อาจจะไม่ดีเท่าบน AirPods แต่เมื่อดูที่ราคา ก็ถือว่าสอบผ่าน
Conclusion สรุป
สรุปนะครับ จากที่เราได้ทดลองใช้ Beats Flex มาสักระยะ ต้องบอกเลยว่าหูฟังรุ่นนี้ถือเป็นหูฟังที่ดีมากในระดับหนึ่งครับ คุ้มกับเงินที่จ่ายไปแน่นอน เพราะมีฟีเจอร์ค่อนข้างครบ และคุณภาพดีสมราคา
ส่วนราคาในไทยตอนนี้อยู่ที่ 1,900 บาท ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อครับ เมื่อเทียบกับ AirPods ที่มีราคา 5 พัน +/- เลยทีเดียว โดยหูฟังสามารถเชื่อมต่อได้ง่าย สลับอุปกรณ์ได้รวดเร็ว และมีสัญญาณการเชื่อมต่อที่แข็งแรง ไม่ว่าจะใช้กับ iPhone หรือ Android ก็ตาม
ส่วนข้อสังเกตของ Beats Flex คือการมาพร้อมดีไซน์แบบคล้องคอครับ ไม่ใช่แบบ True Wireless เสียบหูไม่มีสาย ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ชอบ เพราะอย่างที่บอกไป การมีดีไซน์แบบนี้ ทำให้สามารถใส่แบตได้มากกว่า ฟังเพลงได้นานกว่า และไม่หลุดง่ายนั่นเอง
สรุปถ้าคุณกำลังมองหาหูฟังเอาไว้ใช้ทั้งการฟังเพลง และการสนทนาพอๆ กัน Beats Flex ถือว่าตอบโจทย์คุณได้เต็มๆ ครับ เพราะมาพร้อมแบตที่อึดมาก ชิปเสียงดี ใช้งานได้ดีทั้ง iOS และ Android OS มีปุ่มควบคุมกดง่าย เข้าใจไม่ยาก และคุณภาพเสียงที่ดีสมเป็นแบรนด์ Beats ใครหาหูฟังประมาณนี้อยู่ รับรองไม่ผิดหวังครับ