รีวิว : ASUS ROG Phone ขีดสุดของเกมมิ่งสมาร์ทโฟนสุดแรง พร้อมอุปกรณ์เสริมที่โดนใจสายเกมเมอร์อย่างแท้จริง

 

ปีที่ผ่านมาเราได้เห็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งออกมาแข่งขันในตลาดหลายรุ่นด้วยกัน มาปีนี้ ROG (Republic of Gamers) แบรนด์ย่อยของ ASUS ไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดไปในฐานะเจ้าแห่งตลาดเกมมิ่งอันดับ 1 ของโลก ด้วยการเปิดตัว ROG PHONE สุดยอดเกมมิ่งสมาร์ทโฟนแห่งยุคที่มาพร้อมขุมพลังสุดแรง และอุปกรณ์เสริมที่ครบครับ

แม้ว่าราคาของ ROG Phone จะค่องข้างสูง เมื่อเทียบกับเกมมิ่งสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นในตลาดตอนนี้ แต่ด้วยประสิทธิภาพ พร้อมด้วยฟีเจอร์ต่างที่ทำออกมาเพื่อรองรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาดูรีวิวกันเลยดีกว่าว่าเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะคุ้มค่ากับราคากันหรือไม่

ชุดอุปกรณ์ในกล่อง

แพ็คเกจ ROG Phone เป็นกล่องกระดาษแข็งสีดำที่มีการดีไซน์เป็นรูปทรง 6 เหลี่ยมเห็นครั้งแรกแล้วสะดุดตาทันที ด้านหน้า และด้านบนมีโลโก้ ROG สีแดง ด้านอื่นก็ลวดลายสวยหรู ดูดีไม่แพ้กัน ส่วนด้านหลังกล่องระบุข้อมูลรหัสรุ่น และสเปกเบื้องต้น

เมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะเห็นการวางเรียงกันของตัวเครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆ แบบ 3  ส่วน โดยส่วนแรกวางตัว  Aero Active Cooler ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมพัดลมระบายความร้อน ส่วนที่ 2 วางตัวเครื่อง ROG Phone

และส่วนที่ 3 เป็นส่วรที่จัดเก็บอุปการณ์เสริมต่างๆ อย่างอะแดปเตอร์ Fast Charge, สายเชื่อมต่อ USB Type-C, อุปกรณ์เปิดถาดซิม และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น ส่วนเครื่องขายจริงจะมีตัวกล่องของการขายจริงจะมีเคส Bumper  และหูฟังมาให้ด้วย

ดีไซน์

ROG Phone มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวสุดล้ำ ตัวเครื่องใช้วัสดุทำจากพลาสติกขึ้นรูปชิ้นเดียวโลหะขึ้นรูปชิ้นเดียวแบบ Unibody ยกเว่นตรงด้านข้างเครื่องที่ทำจากโลหะ ด้วยขนาด 158.83 × 76.16 × 8.65 มม. และน้ำหนัก 100 กรัม และด้านหลังออกแบบขอบโค้งมั้ง  2 ด้านเพื่อให้สอดรับกับฝ่ามือ ทำให้ถือจับใช้งานได้อย่างและไม่ลื่นมือ

ด้านหน้าเครื่อง มาพร้อมช่องลำโพงคู่สเตอริโอและตระแกรงลำโพงสีส้มอยู่ตรงกลางด้านบน และด้านล่าง เหนือหน้าจอแสดงผลมีระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ และไฟบอกสถานะ LED อยู่ด้านซ้าย และด้านขวาสุดมีกล้องเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED กว้าง 6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2160 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 18:9 และอัตราเฟรมเรทหน้าจออยู่ที่ 90Hz ส่วนปุ่มควบคุมการใช้งานต่างๆ จะแสดงบนหน้าจอเมื่อเปิดใช้งาน

พลิกมาด้านหลังเครื่องมุมซ้ายด้านบนมีเลนส์กล้องดิจิทัลแบบคู่ Dual Camera ในแนวตั้ง ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ถัดลงมาตรงกลางมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ส่วนตรงกลางมีสัญลักษณ์ ROG พร้อมไฟ RGB ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบ และทางด้านขวาสุดจะเป็นส่วนของโลหะเป็นช่องสำหรับระบายความร้อน

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM จำนวน 2 ช่อง ถัดลงมาตรงกลางมีพอร์ต 48 Pin สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่างพัดลมระบายความร้อน หรือจะใช้สาย USB Type-C มาชาร์จในพอร์ตนี้ก็ยังได้ (เสียบพอร์ตที่เป็นสีดำเท่านั้น) และล่างสุดมี AirTrigger

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม AirTrigger ถัดลงมามีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง, ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และล่างสุดมีปุ่ม AirTrigger อีกตัวหนึ่ง

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน

ด้านล่างมีช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

สเปก ASUS ROG Phone

ขนาด	158.83 x 76.16 x 8.65 มิลลิเมตร
น้ำหนัก	200 กรัม
หน้าจอ	AMOLED ความละเอียด FHD+ 2160 x 1080 พิกเซล ขนาด 6 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 รองรับ HDR ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass
หน่วยประมวลผล	Octa Core ความเร็ว 2.96GHz, ชิปเซ็ท Snapdragon 845, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 630
RAM	8GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง	128GB/512GB
microSD Card	–
กล้องถ่ายภาพ	กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 พร้อมไฟแฟลช LED รองรับ AI ทั้งหมด 16 หมวดแบบเรียลไทม์ และระบบกันสั่นไหว OIS 4 แกน กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
ระบบปฏิบัติการ	Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย ROG Gaming X mode UI
เชื่อมต่อ	Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4 & 5GHz, Bluetooth 5.0, USB Type-C และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
รองรับระบบ	4G LTE และ 3G 850/900/1900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่	4,000 mAh
ราคา	รุ่น RAM 8 GB, ROM 128 GB ราคา 29,990 บาท รุ่น RAM 8 GB, ROM 512 GB ราคา 34,990 บาท

คุณสมบัติการใช้งาน

ASUS ROG Phone รันบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย ROG Gaming X mode UI ที่ไม่ได้ปรับแต่งอะไรมาก นอกจากธีมเพื่อให้เข้ากับความเป็นเกมมิ่งสมาร์ทโฟน และประหยัดการทำงานในส่วนต่างๆ ให้มากที่สุด

เมื่อกดค้างบนหน้าจอสามารถปรับเปลี่ยนภาพพื้นหลัง เลือกวิดเจ็ทสำหรับวางบนหน้าจอ หรือจัดรูปแบบหน้าจอได้ตามความต้องการ และหากใช้นิ้วแตะด้านบนแล้วลากลงมาจะเป็นส่วนแจ้งเตือน Notification รวมทั้งตั้งค่าเปิด/ปิดการเชื่อมต่อต่างๆ และตั้งค่าการแสดงผลหน้าจอหลักได้

รองรับการใช้งาน 2 ซิม สามารถใช้งาน 4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม

ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง

มาพร้อมโหมด X ฟีเจอร์ที่ช่วยเร่งประสิทธิภาพการประมวลผลและโอเวอร์คล็อกจีพียูให้ขึ้นมาสูงสุด 2.96GHz รวมทั้งสามารถปรับแสง AURA RGB ที่ติดมาหลังตัวเครื่องได้ตามใจชอบ

นอกจากนี้โหมด X ยังสามารถปรับโพรไฟล์ของเกม ก่อนเข้าเล่นได้ด้วย เช่น โปรไฟล์เกม ROV เราตั้งค่าได้ว่าเมื่อเข้าเล่น จะให้เปิดโหมด X โดยอัตโนมัติ, ความเร็วของ CPU สูงสุดอยู่ที่เท่าไหร่ หรืออัตรารีเฟรชเรท 60Hz หรือ 90Hz

รวมทั้งปรับความเร็วของพัดลมได้ โดยใช้งานร่วมกับ AeroActive Cooler พัดลมระบายความร้อนที่แถมมากับกล่องอุปกรณ์ โดยสามารถติดกับตัวเครื่องด้านหลังเพื่อลดความร้อนได้อีกทาง

คุณสมบัติอื่นๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน

ด้านการถ่ายภาพ

ASUS ROG Phone มาพร้อมกล้องหลังคู่ Dual Camera ในแนวนอน พร้อมไฟแฟลช LED โดยเลนส์ตัวแรกความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX363, รูรับแสง f/1.7, ระบบกันสั่นไหว OIS

ส่วนกล้องรองความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา

รวมทั้งสามารถเลือกโหมด Auto (with Night HDR and Portrait), Beauty, Pro (RAW file support up to 32 seconds long exposure),

Super Resolution (49 ล้านพิกเซล), GIF Animation, Panorama, Time Lapse (with power saving mode) และ Slow Motion

นอกจากนี้ยังมี AI Photography  ที่จดจำซีนทั้งหมด 16 หมวดแบบเรียลไทม์ เช่น อาหาร ท้องฟ้า ดอกไม้ พระอาทิตย์ตก สุนัข แมว บุคคล ตัวอักษร และกลางคืน เป็นต้น ซึ่งเพียงแค่เราเปิดกล้อง ระบบก็จะปรับสีให้เหมาะสมกับวัตถุที่กำลังโฟกัสแบบเรียลไทม์

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 โดยเป็นเลนส์มุมกว้าง 84 องศา โดยมีโหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ รวมทั้งโหมดถ่ายหน้าสวย Beauty, โหมด HDR เป็นต้น

ตัวอย่างภาพจากกล้อง

ประสิทธิภาพ

ASUS ROG Phone ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2,96 GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 845, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 630, RAM 8GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 128GB/512GB

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV และเกม ASPHALT 9 ที่มีภาพกราฟิกสูง สามารถเปิดโหมด High Frame Rate และในเกม ROV ได้ด้วย โดยเฟรมเรตจะอยู่ที่ 57-60 fps สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการสะดุด หรือหน่วงให้เห็นเลย

แต่หากเล่นเกมเป็นเวลาต่อเนื่องราวๆ 30 นาที อุณหภูมิตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาที่ 43 องศา และสัมผัสได้ถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นเมื่อแตะที่ด้านหลังของตัวเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ ASUS ROG Phone ผ่านแอป Antutu

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ ASUS ROG Phone ผ่านแอป GeekBench

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ที่ใช้กับเครื่องรุ่นนี้มีขนาด 4,000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Quick Charge 4.0 พร้อมกับมี  PowerMaster สำหรับปรับแต่งการจัดการแบตเตอรี่ให้ยืดหยุ่น และอิสระมากขึ้น

หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานทั่วไป และเล่นเกมด้วย ปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 9-10 ชั่วโมงวัน 1 วันแบบสบายๆ แต่ถ้าเปิดใช้งานในโหมด X ด้วย เวลาใช้งานก็จะลดลงมาเหลือประมาณ 7-8 ชั่วโมง โดยรวมแล้วถือว่ามีการจัดการพลังงานที่ดีเลยทีเดียว

บทสรุป

ASUS ROG Phone ถือเป็นเกมมิ่งโฟนที่ยกระดับไปอีกขั้นด้วยการใช้ ROG (Republic of Gamers) แบรนด์ย่อยของ ASUS ที่ปัจจุบันใช้กับการ์ดจอ เมนบอร์ด และโน้ตบุครุ่นที่ใช้เล่นเกมเป็นหลักมาพัฒนาเป็นเกมมิ่งสมาร์ทโฟนที่มีดไีซน์สุดล้ำ และสเปกสุดแรง 

ด้วยการใข้ชิปเซ็ท Snapdragon 845 ที่ได้รับการโอเวอร์คล็อกพิเศษ ให้ความเร็วสูงสุด 2.96 GHz (จากความเร็วปกติที่ 2.80 GHz) ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 630 และหน่วยความจำ LPDDR4 ขนาด 8GB 

รวมทั้งมาพร้อมระบบระบายความร้อน Game Cool ที่ใช้ 3D vapor-chamber (ช่องระบายความร้อนด้วยไอน้ำ) ผสานการทำงานกับเทคโนโลยี AeroActive Cooler (ถอดออกได้) ที่ช่วยให้ความเย็นแก่ตัวเครื่องเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถเล่นเกมได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น และยังอัดแน่นด้วยคุณสมบัติการใช้งานต่างๆ อย่างครบครันอีกด้วย

ทั้งนี้ ROG Phone วางจำหน่ายในรุ่น RAM 8 / ROM 128 GB ราคา 29,990 บาท และ RAM 8 / ROM 512 GB ราคา 34,990 บาท สาวกเกมเมอร์ที่สนใจเป็นเจ้าของเครื่องสามารถสั่งซื้อได้ดังนี้

– รุ่น RAM 8 / ROM 512 GB วางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์  เท่านั้น

– รุ่น RAM 8 / ROM 128 GB  วางจำหน่าย ณ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์และ

ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2DsrJpi หรือ https://www.facebook.com/ASUSROG.TH/