Redmi ประกาศเปิดตัว Redmi K80 พร้อมกับ K80 Pro สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ตระกูล K80 Series โดยสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับ K Series ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแกร่งและราคาที่แข่งขันได้
ซึ่งมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดของ Xiaomi กับชิปเซ็ต Snapdragon และสัญญาว่าจะมอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน
สเปก Redmi K80
ตัวเครื่องมีขนาด 160.3 x 75 x 8.1 มม. และน้ำหนัก 206 กรัม หน้าจอแสดงผล Punch Hole Display จอแบนแบบ OLED ความละเอียด 2K 1440 x 3200 พิกเซล 68,000 ล้านสี ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9
โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz อัตราการสุ่มตัวอย่างการสัมผัส 480Hz และการสุ่มตัวอย่างการสัมผัสสูงสุด 2560Hz ในเกมที่เลือก รองรับ Dolby Vision รองรับ HDR10+ รองรับ HDR Vivid และ Xiaomi Qingshan Eye Protection 2.0 เพื่อภาพที่เหนือกว่าและความสบายตา ความสว่างสูงสุด 3200nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 7i
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.3GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8650-AB Snapdragon 8 Gen 3 (4 nm), หน่วยประมวลกราฟิก Adreno 750, RAM 12GB/16GB, หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB/1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย HyperOS 2.0 ซึ่งผสานรวม Hyper Core Kernel เพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น เปิดแอปได้เร็วขึ้น และลดเวลาแฝง
โดยมีมีชิป D1 สำหรับเล่นเกมเฉพาะ พร้อมเทคโนโลยี Rage Engine 4.0 สำหรับการปรับขนาดความถี่แบบไดนามิก รองรับการเล่นเกมความละเอียดสูงและเฟรมขนาดจิ๋วด้วยการระบายความร้อนแบบ 3D ปิดผนึกด้วยน้ำแข็งแบบดูอัลลูปที่ได้รับการอัปเกรด รับประกันประสิทธิภาพที่ราบรื่นและสม่ำเสมอระหว่างการเล่นเกมที่เข้มข้น
ติดตั้งกล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Light Fusion 800 รูรับแสง f/1.6, 24mm (wide), 1/1.55″, 1.0µm, ระบบ dual pixel PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, (wide)
รวมทั้งติดต้้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอแบบอัลตร้าโซนิค ที่ทำงานได้อย่างราบรื่นแม้ในขณะที่มือเปียก, รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP68/69, ลำโพงคู่สเตอริโอ พร้อมชิป Snapdragon Sound, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE/5G dual band (SA/NSA),
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e/7, dual-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.4, พอร์ตอินฟราเรด, NFC, พอร์ต USB Type-C
และใช้แบตเตอรี่ความจุ 6,550mAh รวมทั้งใช้ชิปชาร์จเร็ว Surge P3 ของ Xiaomi และติดตั้งระบบจัดการแบตเตอรี่ Surge G1 เพื่อประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เหมาะสมที่สุดและการชาร์จที่ปลอดภัย โดยรองรับชาร์จเร็ว 90W
ทั้งนี้ Redmi K80 มีให้เลือก 4 สีคือ Obsidian Black, Snow White, Mountain Green และ Moonlight Blue โดยวางจำหน่ายแล้วที่ประเทศจีนผ่านทางเว็บไซต์ Xiaomi
ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 12GB + 256GB ราคา 2,499 หยวนหรือประมาณ 11,900 บาท
- RAM 16GB + 256GB ราคา 2,699 หยวนหรือประมาณ 12,860 บาท
- RAM 12GB + 512GB ราคา 2,899 หยวนหรือประมาณ 13,810 บาท
- RAM 16GB + 512GB ราคา 3,199 หยวนหรือประมาณ 15,240 บาท
- RAM 16GB + 1TB ราคา 3,599 หยวนหรือประมาณ 17,150 บาท
ที่มา : Gsmarena