Redmi แบรนด์ย่อยของ Xiaomi ประกาศ Redmi K40 Series อย่างเป็นทางการที่ประทศจีน ประกอบด้วย Redmi K40, Redmi K40 Pro และ Redmi K40 Pro+ โดยเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงราคาประหยัดรุ่นใหม่ตระกูล K Series ที่มาพร้อมจุดเด่นจอ AMOLED ที่มีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และชิปเซ็ท Snapdragon 800 Series ใหม่ ในราคาไม่ถึงหมื่น
สเปก Redmi K40
ตัวเครื่องมีขนาด 163.7 x 76.4 x 7.8 มม. และน้ำหนัก 196 กรัม หน้าจอแสดงผลจอเจาะรู Punch Hole Display แบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว ในสัดส่วน 20:9
โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz, รองรับ HDR10+, ความสว่าง 1300nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8250-AC Snapdragon 870 5G (7 nm),หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 650, RAM 6GB/8GB/12GB, หน่วยความจำภายใน 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony IMX686 ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto+Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล 50mm
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างเครื่อง,รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, 5G แบบ Dual Mode SA/NSA และ Sub6, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, ฺBluetooth 5.1, พอร์ตอินฟราเรด, NFC, , พอร์ต USB Type-C และแบตเตอรี่ความจุ 4,520mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W ชาร์จ 100% ภายในเวลา 52 นาที และรองรับการชาร์จแบบ PD 3.0 และ Quick Charge 3+
ทั้งนี้ Redmi K40 มีให้เลือก 3 สีคือ Bright Black, Dreamland และ Sunny Snow โดยราคามีดังนี้
- RAM 6GB + 128GB ราคา 2,000 หยวนหรือประมาณ 9,400 บาท
- RAM 8GB + 128GB ราคา 2,200 หยวนหรือประมาณ 10,300 บาท
- RAM 8GB + 256GB ราคา 2,500 หยวนหรือประมาณ 11,700 บาท
- RAM 12GB + 256GB ราคา 2,500 หยวนหรือประมาณ 11,700 บาท (รุ่น Special Edition)
สเปก Redmi K40 Pro
ตัวเครื่องมีขนาด 163.7 x 76.4 x 7.8 มม. และน้ำหนัก 196 กรัม หน้าจอแสดงผลจอเจาะรู Punch Hole Display แบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว ในสัดส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz, รองรับ HDR10+, ความสว่าง 1300nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.84GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8350 Snapdragon 888 (5 nm),หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 660, RAM 6GB/8GB, หน่วยความจำภายใน 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto+Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล 50mm
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
รวมทั้งรองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP53, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างเครื่อง,รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, 5G แบบ Dual Mode SA/NSA และ Sub6, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, ฺBluetooth 5.2, พอร์ตอินฟราเรด, NFC, พอร์ต USB Type-C และแบตเตอรี่ความจุ 4,520mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W ชาร์จ 100% ภายในเวลา 52 นาที และรองรับการชาร์จแบบ PD 3.0 และ Quick Charge 3+
ทั้งนี้ Redmi K40 Pro มีให้เลือก 3 สีคือ Black, White และ Aurora โดยจะวางจำหน่ายที่ประเทศจีน 4 มีนาคม ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 6GB + 128GB ราคา 2,800 หยวนหรือประมาณ 13,100 บาท
- RAM 8GB + 128GB ราคา 3.000 หยวนหรือประมาณ 14,000 บาท
- RAM 8GB + 256GB ราคา 3,300 หยวนหรือประมาณ 15,500 บาท
สเปก Redmi K40 Pro+
ตัวเครื่องมีขนาด 163.7 x 76.4 x 7.8 มม. และน้ำหนัก 196 กรัม หน้าจอแสดงผลจอเจาะรู Punch Hole Display แบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว ในสัดส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz, รองรับ HDR10+, ความสว่าง 1300nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.84GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8350 Snapdragon 888 (5 nm),หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 660, RAM 12GB, หน่วยความจำภายใน 256GB แบบ UFS 3.1 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HM2 ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto+Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล 50mm
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
รวมทั้งรองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP53, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างเครื่อง,รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, 5G แบบ Dual Mode SA/NSA และ Sub6, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, ฺBluetooth 5.2, พอร์ตอินฟราเรด, NFC, พอร์ต USB Type-C และแบตเตอรี่ความจุ 4,520mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W ชาร์จ 100% ภายในเวลา 52 นาที และรองรับการชาร์จแบบ PD 3.0 และ Quick Charge 3+
ทั้งนี้ Redmi K40 Pro+ มีให้เลือก 3 สีคือ Black, White และ Aurora โดยมีราคาอยู่ที่ 3,700 หยวนหรือประมาณ 17,350 บาท และจะเริ่มเปิดให้พรีออเดอร์ที่ประเทศจีนในวันที่ 4 มีนาคมนี้
ที่มา : Gsmarena