คลังเก็บ

แนะแท็บเล็ตสุดคุ้มครึ่งปีหลัง สเปกจัดเต็มโดนใจผู้ปกครอง กับ HUAWEI MatePad 11.5 LTE วันนี้!

ทั้งวัยเรียน และวัยทำงาน ล้วนต้องการความสะดวกในการจัดการปริมาณงานของตนเองที่เพิ่มขึ้นทุกวัน หัวเว่ย ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สมาร์ทดีไวซ์สำหรับคนรุ่นใหม่ จึงเผยสเปกเด็ดที่ช่วยจัดการชีวิตให้ง่ายขึ้นบนแท็บเล็ตหนึ่งเครื่อง

พร้อมแนะฟีเจอร์สุดล้ำของ HUAWEI MatePad 11.5 แท็บเล็ตฟีเจอร์ครบจบในเครื่องเดียวสำหรับคนที่ต้องการมินิออฟฟิศเคลื่อนที่เสมือนพีซีขนาดเล็กที่มาพร้อมรุ่น LTE และแอปจดโน้ตที่ใช้งานได้สะดวกสบายอย่าง HUAWEI Notes ให้จัดการงานได้ราบรื่น

HUAWEI MatePad 11.5 LTE

1.พกพาไปไหนก็สะดวกพร้อมอินเทอร์เน็ตในตัว

ถ้าอยากพกแท็บเล็ตไปข้างนอกเพื่อความคล่องตัวก็สามารถสร้างออฟฟิศขนาดย่อมได้  เพราะ HUAWEI MatePad 11.5 LTE รองรับการใส่ซิมการ์ดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมน้ำหนักเบาเพียง 499 กรัม[1] และบางเพียง 6.85 มิลลิเมตร[2] และ HUAWEI Smart Keyboard ที่รองรับรูปแบบการใช้งานถึง 3 แบบยังช่วยให้ใช้งานได้ในหลากหลายแบบที่เราต้องการ

ไม่ว่าจะใช้พิมพ์งานแบบแล็ปท็อป ตั้งขึ้นเพื่อวาดแบบสตูดิโอ หรือถอดออก พร้อมใช้วาดเขียนด้วย HUAWEI M-Pencil[3] และยังสามารถส่งไฟล์ได้แบบไร้รอยต่อ ด้วยเทคโนโลยีของหัวเว่ยให้เชื่อมต่อระหว่างดีไวซ์แบบไม่มีสะดุดด้วย Super Device[4] โอนไฟล์ระหว่างแท็บเล็ตและอุปกรณ์อื่นๆ เช่น สมาร์ทโฟน ได้อย่างสะดวก เพียงย้ายไฟล์ดังกล่าวไปยังแพลตฟอร์ม SuperHub จากนั้นก็จะเข้าถึงไฟล์งานข้ามดีไวซ์ได้เมื่อล็อกอินบัญชีเดียวกัน

2.จัดระเบียบชีวิต ทุกลิสต์ไม่มีพลาดด้วย HUAWEI Notes พร้อมแชร์ต่อด้วย HUAWEI M-Pencil 2nd generation[5]

จดงานง่ายยิ่งขึ้นด้วย HUAWEI Notes ได้รับการพัฒนามาเพื่อรองรับการจัดระเบียบอย่างครบวงจร ผู้ใช้สามารถจดสิ่งที่ต้องทำ รวมถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบด้วยการจัดหมวดหมู่โฟลเดอร์และหน้าปกที่เลือกเองได้[6] ทำให้งานต่างๆ ไม่ปะปนกัน หรือในงานที่จำเป็นต้องดูโน้ตประกอบกัน ก็สามารถดูแบบแยกหน้าจอที่สามารถเปิดบันทึกได้สูงสุด 4 รายการ

การจดโน้ตแสนอัจฉริยะทำได้ง่ายๆ ด้วย HUAWEI M-Pencil 2nd generation ด้วยอัลกอริธึม AI ขั้นสูง FreeScript เปลี่ยนลายมือเป็นตัวพิมพ์ได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องลายมืออ่านยาก หรือ การสลับไปใช้คีย์บอร์ด ทั้งยังรองรับภาษาต่างๆ[7] ส่วนสำหรับคนที่ชอบเขียนตัวเล็ก อยากให้ข้อมูลทุกอย่างดูได้ในหน้าเดียว ก็สามารถจดแบบซูมภาพแคนวาสได้ถึง 15 เท่า เพื่อให้เขียนโดยควบคุมปากกาได้ง่ายขึ้น

3.ใช้พื้นที่บนจอสุดคุ้ม

HUAWEI MatePad 11.5 ทำได้หลายอย่างบนจอเดียว อย่าง Multi-Window ที่เปิดหน้าต่างคู่ได้ 2 จอ พร้อมหน้าต่างลอยอีก 2 จอ และ App Multiplier ที่แบ่งการทำงานในแอปเดียวกันเป็นจอซ้าย-ขวา โดยใช้พื้นที่หน้าจอ HUAWEI FullView Display ขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2200 x 1440 อย่างเต็มที่

และปกป้องดวงตาของผู้ใช้ด้วยโซลูชันฮาร์ดแวร์ของ TÜV Rheinland Low Blue Light Certification ลดปริมาณแสงสีน้ำเงิน ขณะที่เทคโนโลยีจาก TÜV Rheinland Flicker-Free Certification จะช่วยลดอัตราการกะพริบของหน้าจอ

4.ส่งเมล ส่งแชท ไม่ทันใจ กดคอลไปเลยให้จบ

ใครสายรีบพิมพ์ไม่ทันใจ HUAWEI MatePad 11.5 ก็จัดให้ในเรื่องวิดีโอคอลกับเพื่อนในทีม หรือประชุมออนไลน์ ผ่านกล้องหน้ามุมกว้าง 105 องศา ความละเอียด 8MP พร้อมฟีเจอร์ FollowCam[8] ที่ปรับหมุนตามตำแหน่งของผู้ใช้งานให้อยู่กลางจออยู่เสมอ

และมีระบบเสียงที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยลำโพง 4 ตัว สร้างระดับเสียงได้สูงถึง 82dB และกระจายเสียงได้รอบทิศทาง โดยมีความทรงพลังของชิปเซ็ตทรงพลังขนาด 4 นาโนเมตร รอบรับทั้งระบบ Wi-Fi 6 เสาอากาศคู่ 2×2 MIMO และแบนด์วิดท์ 160 MHz ไปจนถึง LTE ในรุ่น LTE ทั้งยังมอบความลื่นไหลด้วยอัตราการรีเฟรชสูง 120Hz[9] ให้จบเรื่องได้ทันใจ ไว ไม่สะดุด

5.พักบ้างก็ได้ เพราะแบตแท็บเล็ตอึดอยู่ทั้งวัน

HUAWEI MatePad 11.5 มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 7,700 mAh[10] รองรับการเล่นวิดีโอ 1080p ได้นานถึง 10.5 ชั่วโมง อยู่ในโหมดสแตนด์บายได้นานกว่า 37 วัน[11] อีกทั้งยังรองรับชาร์จไว 20W ดังนั้นผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องนั่งติดโต๊ะเพื่อปั่นงานตลอดเวลา ให้เวลาตัวเองได้ลุกเดิน ยืดเส้นยืดสาย

หรือสนทนากับคนรอบข้าง ในวันที่มีเวลา อาจท่อง AppGallery หนึ่งในตลาดแอปพลิเคชันที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ครอบคลุม 18 หมวดยอดนิยม ทั้งหมวดโซเชียล ความบันเทิง ธุรกรรมการเงิน ถ่ายภาพ เกม ชอปปิง และไลฟ์สไตล์ พักผ่อนสมองด้วยการซื้อของออนไลน์ หรือชมคอนเทนต์ผ่านสตรีมมิ่งในช่วงพัก

ใครกำลังจะปฏิวัติวิธีการทำงานของตัวเอง หรือมองหาแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์ความต้องการได้รอบด้านสักเครื่อง รีบซื้อเลย! HUAWEI MatePad 11.5 ระบบ LTE หน่วยความจำ 6GB ความจุ 128GB พร้อมให้จับจองเป็นเจ้าของในราคา 13,990 บาท

โดยถ้ารีบซื้อตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 – 30 กันยายน 2566 นี้ รับพร้อมกันเลยทันที HUAWEI M-Pencil 2nd generation (ราคา 4,490 บาท) และ HUAWEI Smart Keyboard (ราคา 4,990 บาท) ไปใช้ด้วยกันทั้งแพคเกจ แถมฟรีสมาชิก WeTV VIP ระยะเวลา 3 เดือน มูลค่า 429 บาท (จำกัด 150 สิทธิ์แรกเท่านั้น) รวมทั้งสิ้น 9,909 บาท เรียกได้ว่าสุดคุ้ม!

ลูกค้าสามารถสั่งซื้อ HUAWEI MatePad 11.5 LTE ที่ HUAWEI Retail Store บนแพลตฟอร์ม Lazada

ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ  Facebook Huawei Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery

หมายเหตุของสมนาคุณ

  1. หัวเว่ยสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงประเภทของแถมเป็นของขวัญที่มีมูลค่าใกล้เคียงกัน โดยจะต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  2. ของแถมในกิจกรรมนี้ให้สิทธิ์ตามลำดับก่อนหลังจนกว่าของจะหมด

[1] ข้อมูลมาจากห้องปฏิบัติการของหัวเว่ย น้ำหนักและความหนาจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และวิธีการวัด

[2] ข้อมูลมาจากห้องปฏิบัติการของหัวเว่ย น้ำหนักและความหนาจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และวิธีการวัด

[3] อาจต้องซื้อ HUAWEI M-Pencil แยกต่างหาก

[4] คุณสมบัตินี้รองรับเฉพาะโทรศัพท์หัวเว่ยบางรุ่น, แล็ปท็อป, จอมอนิเตอร์, HUAWEI Visions และหูฟัง และแท็บเล็ตของหัวเว่ยบางรุ่นที่ใช้ HarmonyOS 3 ขึ้นไป

[5] อาจต้องซื้อ HUAWEI M-Pencil แยกต่างหาก

[6] ฟีเจอร์นี้จะสามารถใช้งานได้เมื่อผ่านการอัปเดต OTA แล้ว

[7] รองรับภาษาได้ทั้งหมด 25 ภาษา

[8] คุณสมบัตินี้รองรับเฉพาะในบางแอปฯ และปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้น ต้องเปิดใช้งานในการตั้งค่า

[9] รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุดถึง 120 Hz อัตราการรีเฟรชหน้าจออาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแอปหรือเกมที่เฉพาะเจาะจง จอแสดงผล FullView เป็นคําที่ใช้กันทั่วไปในอุตสาหกรรมและโดยทั่วไปหมายถึงหน้าจอที่มีกรอบแคบและอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูง

[10] ข้อมูลมาจากห้องปฏิบัติการของ หัวเว่ย และอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ เวอร์ชันของซอฟต์แวร์ พฤติกรรมการใช้งาน และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม

[11] ข้อมูลมาจากห้องปฏิบัติการของหัวเว่ย ความสว่างตั้งไว้ที่ 200 nits เมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มจะรองรับการเล่นวิดีโอ 1080p ยาวนาน 10.5 ชั่วโมง การใช้งานจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ เวอร์ชันของซอฟต์แวร์ เงื่อนไขการใช้งาน และปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม