หลังจากที่ realme ได้เปิดตัว realme X50 5G ที่ประเทศจีนไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ล่าสุดได้เปิดตัวเวอร์ชั่น Global ที่ยุโรปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า realme X50 5G เวอร์ชั่น Global แท้จริงแล้วรุ่นรีแบรนด์ของ realme X50m นั่นเอง
สเปก realme X50 5G
ตัวเครื่องมีขนาด 163.8 x 75.8 x 8.9 มม. และน้ำหนัก 194 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.57 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรทที่ 120Hz และเจาะรูสำหรับฝังกล้องเซลฟี่คู่ที่มุมซ้ายด้านบน
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 765G SoC (7 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 620, RAM 6GB, หน่วยความจำภายใน 128GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI
ติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว Quad Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, ขนาดพิกเซล 0.8µm และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่คู่ กล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX471 รูรับแสง f/2.0 ส่วนกล้องรองเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างเครื่อง,ระบบระบายความร้อน Liquid Copper Tube Cooling 3.0, ระบบเสียง Dolby Sound และ Hi-Res Audio, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, NFC, พอร์ต USB Type-C และแบตเตอรี่ความจุ 4,200mAh รองรับการชาร์จเร็ว 30W Dart Charge สามารถชาร์จจาก 0-70% ภายในเวลา 30 นาที
ทั้งนี้ realme X50 5G มีให้เลือก 2 สีคือ Ice Silver และ Jungle Green โดยมีราคาอยู่ที่ 349 ยูโรหรือประมาณ 12,300 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศในยุโรปได้แก่เบลเยี่ยม, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกส ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมเป็นต้นไป