realme ประกาศเปิดตัว realme 13 Pro Series 5G อย่างเป็นทางการที่ประเทศอินเดียประกอบด้วย realme 13 Pro 5G และ realme 13 Pro+ 5G
มาพร้อมจุดเด่นด้านการถ่ายภาพด้วยการเปิดตัวด้วยสถาปัตยกรรมการถ่ายภาพ AI HYPERIMAGE+ ของ realme ที่ผสมผสานออปติกเรือธง อัลกอริทึมการถ่ายภาพ AI บนอุปกรณ์ และคุณสมบัติการแก้ไขภาพ AI บนคลาวด์ เช่น การลบอัจฉริยะ การปรับปรุงภาพกลุ่ม และการซูมเสียง
สเปก realme 13 Pro 5G
realme 13 Pro 5G มาในดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Monet ด้วยนวัตกรรม Miracle Shining Craft อนุภาคระยิบระยับนับล้านชิ้นจึงถูกปัดอย่างพิถีพิถันลงบนกระจก AG มันวาวสูง
เทคนิคนี้ทำให้สามารถจำลองการเล่นแสงและเงาแบบไดนามิกที่พบในผลงานของ Monet ได้อย่างแท้จริง กระจกจะส่องแสงที่สวยงามน่าหลงใหลจากทุกมุม เชิญชวนให้ผู้ใช้สัมผัสถึงความแตกต่างที่ชวนให้นึกถึงผลงานชิ้นเอกของศิลปินอิมเพรสชันนิสต์
ตัวเครื่องมีขนาด 161.3 x 73.9 x 8.2 มม. หรือ 8.4 มม. และน้ำหนัก 183.5 กรัม หรือ 188 กรัม หน้าจอแสดงผลจอขอบโค้งแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล 1 พันล้านสี ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93%
โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสทันที 2000Hz, ช่วงสี DCI-P3 100%. อัตราการหรี่แสง PWM 2160Hz} ความสว่างสูงสุด 2000nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 7i
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.40GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7435-AB Snapdragon 7s Gen 2 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 710 จับคู่กับ RAM 8GB/12GB (12GB + 12GB Dynamic RAM), หน่วยความจำภายใน 128GB/256GB/512GB
และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI 5.0 รองรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android 2 ครั้งและการอัปเดตด้านความปลอดภัย 3 ปี
ติดตั้งกล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-600 รูรับแสง f/1.88, 26mm (wide), 1/1.95″, 0.8µm, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้าง 112 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5, 22mm (wide)
มาพร้อมคุณสมบัติกล้อง ได้แก่ AI Ultra Clarity ที่ช่วยปรับปรุงความละเอียดและเพิ่มความชัดเจนของภาพเบลอ AI Smart Removal, AI Group Photo Enhance และ AI Audio Zoom และมี Pro-XDR ที่วิเคราะห์เนื้อหาภาพที่ส่งมาจากกล้องเพื่อปรับแต่งเอฟเฟกต์ภาพเพื่อให้ได้ความสว่างและช่วงไดนามิกที่สมบูรณ์
รวมทั้งติดตั้งระบบระบายความร้อน 9 ชั้น กระจกนิรภัย VC ขนาด 4,500 มม.² และกราไฟท์ขนาด 9,953 มม.², รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP65, ติดตั้งลำโพงคู่สเตริโอ, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ,
รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual-Mode (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Bluetooth 5.2, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,200mAh รองรับชาร์จไว 45W SUPERVOOC
ทั้งนี้ realme 13 Pro 5G มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Monet Gold, Monet Purple และ Emerald Green โดยจะวางจำหน่ายที่อินเดียผ่านทาง realme.com, Flipkart และร้านค้าปลีกในวันที่ 6 สิงหาคม 2024
ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 8GB+128GB ราคา 26,999 รูปีหรือประมาณ 11,600 บาท
- RAM 8GB+256GB ราคา 28,999 รูปีหรือประมาณ 12,450 บาท
- RAM 12GB+512GB ราคา 31,999 รูปีหรือประมาณ 13,740 บาท
สเปก realme 13 Pro+ 5G
realme 13 Pro+ 5G มาในดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Monet ด้วยนวัตกรรม Miracle Shining Craft อนุภาคระยิบระยับนับล้านชิ้นจึงถูกปัดอย่างพิถีพิถันลงบนกระจก AG มันวาวสูง
เทคนิคนี้ทำให้สามารถจำลองการเล่นแสงและเงาแบบไดนามิกที่พบในผลงานของ Monet ได้อย่างแท้จริง กระจกจะส่องแสงที่สวยงามน่าหลงใหลจากทุกมุม เชิญชวนให้ผู้ใช้สัมผัสถึงความแตกต่างที่ชวนให้นึกถึงผลงานชิ้นเอกของศิลปินอิมเพรสชันนิสต์
ตัวเครื่องมีขนาด 161.3 x 73.9 x 8.2 มม. หรือ 8.4 มม. และน้ำหนัก 185.5 กรัม หรือ 190 กรัม หน้าจอแสดงผลจอขอบโค้งแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล 1 พันล้านสี ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93%
โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสทันที 2000Hz, ช่วงสี DCI-P3 100%. อัตราการหรี่แสง PWM 2160Hz} ความสว่างสูงสุด 2000nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 7i
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.40GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7435-AB Snapdragon 7s Gen 2 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 710 จับคู่กับ RAM 8GB/12GB (12GB + 12GB Dynamic RAM), หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB
และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI 5.0 รองรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android 2 ครั้งและการอัปเดตด้านความปลอดภัย 3 ปี
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-701 รูรับแสง f/1.88, 24mm (wide), 1/1.56″, 1.0µm, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope Telephoto เซ็นเซอร์ Sony LYT-600 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.65, 73mm, 1/1.95″, 0.8µm, ระบบ multi-directional PDAF, ระบบกันสั่น OIS และซูมออปติคอล 3x, ซูมในเซ็นเซอร์ 6 เท่า และรองรับ SuperZoom สูงสุด 120 เท่า
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้าง 112 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5, 22mm (wide)
มาพร้อมคุณสมบัติกล้อง ได้แก่ AI Ultra Clarity ที่ช่วยปรับปรุงความละเอียดและเพิ่มความชัดเจนของภาพเบลอ AI Smart Removal, AI Group Photo Enhance และ AI Audio Zoom และมี Pro-XDR ที่วิเคราะห์เนื้อหาภาพที่ส่งมาจากกล้องเพื่อปรับแต่งเอฟเฟกต์ภาพเพื่อให้ได้ความสว่างและช่วงไดนามิกที่สมบูรณ์
รวมทั้งติดตั้งระบบระบายความร้อน 9 ชั้น กระจกนิรภัย VC ขนาด 4,500 มม.² และกราไฟท์ขนาด 9,953 มม.², รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP65, ติดตั้งลำโพงคู่สเตริโอ, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ,
รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual-Mode (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Bluetooth 5.2, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,200mAh รองรับชาร์จไว 80W SUPERVOOC ชาร์จ 50% ภายใน 19 นาที และ 100% ภายใน 49 นาที
ทั้งนี้ realme 13 Pro+ 5G มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Monet Gold และ Emerald Green โดยจะวางจำหน่ายที่อินเดียผ่านทาง realme.com, Flipkart และร้านค้าปลีกในวันที่ 6 สิงหาคม 2024
ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 8GB+256GB ราคา 32,999 รูปีหรือประมาณ 14,170 บาท
- RAM 12GB+256GB ราคา 34,999 รูปีหรือประมาณ 15,030 บาท
- RAM 12GB+512GB ราคา 36,999 รูปีหรือประมาณ 15,890 บาท
ที่มา : Gsmarena