คลังเก็บ

เปิดตัว realme 12+ มาพร้อมชิป Dimensity 7050, จอ AMOLED 120Hz และกล้องหลัง 3 ตัว 50 MP เซ็นเซอร์ Sony LYT-600

realme ประกาศเปิดตัว realme 12+ อย่างเป็นทางการที่อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ตระกูล realme 12 Series ที่มาพร้อมชิปเซ็ท Dimensity 7050, จอ AMOLED ที่มีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลพร้อมเซ็นเซอร์ Sony LYT-600 และ OIS

สเปก realme 12+

relame 12+

ตัวเครื่องมีการออกแบบฝาหลังแบบหนังวีแก้นแบบเดียวกับ realme 12 Pro และ 12 Pro+ พร้อมโมดูลกล้องทรงกลมขนาดใหญ่ ด้วยขนาด 163 x 75.5 x 7.9 มม. และน้ำหนัก 190 กรัม

หน้าจอแสดงผลจอขอบโค้ง 120Hz Ultra Smooth OLED Display แบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล 1 พันล้านสี ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9, อัตราส่วนจอต่อเครื่อง 92.65%

โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz, รองรับ HDR10+ และความสว่างสูงสุด 2000nits

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 7050 (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G68 MC4 จับคู่กับ RAM 8GB แบบ LPDDR4X, หน่วยความจำภายใน 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI 5.0

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-600 รูรับแสง f/1.9, 26mm (wide), 1/1.95″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้าง 112 องศา
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, 24mm (wide)

รวมทั้งติดตั้งลำโพงคู่สเตริโอ, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual-Mode (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Bluetooth 5.2, NFC, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 67W ชาร์จ 1-50% ภายใน 19 นาที

ทั้งนี้ realme 12+ มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Navigator Beige และ Pioneer Green

โดยจะวางจำหน่ายที่อินโดนีเซีย และมาเลเซียในวันที่ 8 มีนาคม 2024 ในราคาเริ่มต้น 4,199,000 รูเปียห์หรือประมาณ 9,600 บาทในอินโดนีเซีย และ 1,499 ริงกิตหรือประมาณ 11,360 บาทในมาเลเซีย

ที่มา : Gsmarena