คลังเก็บ

เปิดตัว realme 11 Pro และ realme 11 Pro+ มาพร้อมจอขอบโค้ง AMOLED 120Hz, ชิป Dimensity 7050 และกล้องความละเอียดสูงสุด 200MP

realme ประกาศเปิดตัว realme 11 Pro Series อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน ประกอบด้วย realme 11 Pro และ realme 11 Pro+

โดยมาพร้อมจุดเด่นหน้าจอแสดงผลจอขอบโค้ง AMOLED ที่มีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, ใช้ชิปเซ็ท Dimensity 7050 และกล้อง Super Zoom ความละเอียด 200 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลก

สเปก realme 11 Pro

ตัวเครื่องได้รับการพัฒนาจาก realme Design Studio ผ่านความร่วมมือกับ Matteo Menotto อดีตดีไซเนอร์ภาพพิมพ์และสิ่งทอจากแบรนด์ Gucci เพื่อนำเสนอมาตรฐานงานดีไซน์ระดับไฮเอนด์และงานฝีมือจากแบรนด์ระดับลักซ์ชัวรี สู่หนุ่มสาวผู้ใช้งานสมาร์ตโฟน realme ทั่วโลก

ด้วยขนาด 161.7 x 73.9 x 8.2 มม. หรือ 8.8 มม. และน้ำหนัก 183 กรัมหรือ 189 กรัม หน้าจอแสดงผลจอขอบโค้ง 120Hz Curved Vision Display แบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล 1 พันล้านสี ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9

โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสทันที 1260Hz, ช่วงสี DCI-P3 100%. ความสว่างสูงสุด 950nits, รองรับ HDR10+ และการหรี่แสง PWM 2160Hz รวมถึงการรับรองการป้องกันตาสองชั้นของ TUV Rhineland และการปรับความสว่างอัตโนมัติ 20,000 ระดับครั้งแรกของอุตสาหกรรม

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 7050 (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G68 จับคู่กับ RAM 8GB/12GB, หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย realme UI 4.0

ติดตั้งกล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 100 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5, 25mm (wide)

รวมทั้งติดตั้งลำโพงคู่สเตริโอ, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual-Mode (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Bluetooth 5.2, NFC, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 67W

ทั้งนี้ realme 11 Pro เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ววันนี้ที่ประเทศจีน และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคม 2023 โดยตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Sunrise Beige, Oasis Green และ Astral Black 

ส่วนราคามีดังนี้

  • RAM 8GB+256GB ราคา 1,699 หยวนหรือประมาณ 8,260 บาท
  • RAM 12GB+256GB ราคา 1,999 หยวนหรือประมาณ 9,720 บาท
  • RAM 12GB+512GB ราคา 2,199 หยวนหรือประมาณ 10,700 บาท

สเปก realme 11 Pro+

ตัวเครื่องได้รับการพัฒนาจาก realme Design Studio ผ่านความร่วมมือกับ Matteo Menotto อดีตดีไซเนอร์ภาพพิมพ์และสิ่งทอจากแบรนด์ Gucci เพื่อนำเสนอมาตรฐานงานดีไซน์ระดับไฮเอนด์และงานฝีมือจากแบรนด์ระดับลักซ์ชัวรี สู่หนุ่มสาวผู้ใช้งานสมาร์ตโฟน realme ทั่วโลก

ด้วยขนาด 161.6 x 73.9 x 8.2 มม. หรือ 8.7 มม. และน้ำหนัก 183 กรัมหรือ 189 กรัม หน้าจอแสดงผลจอขอบโค้ง 120Hz Curved Vision Display แบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล 1 พันล้านสี ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9

โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 360Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสทันที 1260Hz, ช่วงสี DCI-P3 100%. ความสว่างสูงสุด 950nits, รองรับ HDR10+ และการหรี่แสง PWM 2160Hz รวมถึงการรับรองการป้องกันตาสองชั้นของ TUV Rhineland และการปรับความสว่างอัตโนมัติ 20,000 ระดับครั้งแรกของอุตสาหกรรม

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 7050 (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G68 จับคู่กับ RAM 12GB, หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB/1TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย realme UI 4.0

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7, 23mm (wide), 1/1.4″, 0.56µm, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS พร้อมโหมด Super Zoom สูงสุด 20 เท่า เพื่อถ่ายภาพดวงจันทร์ และซูม 4 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 16mm และถ่ายมุมกว้างได้ 112˚
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5, 22mm (wide)

รวมทั้งติดตั้งลำโพงคู่สเตริโอ, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual-Mode (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Bluetooth 5.2, NFC, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 100W SUPERVOOC

ทั้งนี้ realme 11 Pro+ เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ววันนี้ที่ประเทศจีน และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคม 2023 โดยตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Sunrise Beige, Oasis Green และ Astral Black ส่วนราคามีดังนี้

  • RAM 12GB+256GB ราคา 2,099 หยวนหรือประมาณ 10,210 บาท
  • RAM 12GB+512GB ราคา 2,399 หยวนหรือประมาณ 11,670 บาท
  • RAM 12GB+1TB ราคา 2,799 หยวนหรือประมาณ 13,600 บาท

ที่มา : Fonearena