Razer ประกาศเปิดตัว Razer Edge 5G อย่างเป็นทางการที่งาน RazerCon 2022 ซึ่งเป็นการพัฒนาโดยความร่วมมือกับ Qualcomm และ Verizon โดยเป็นเกมมิ่งโฟนรองรับ 5G ที่ทำงานร่วมกับเกม AAA ทั้งหมด
รวมถึงเกม Android และเกม เช่น Fortnite และ Rocket League Sideswipe สามารถเล่นได้ผ่านตัวเรียกใช้งาน Epic Games ที่ติดตั้งมาล่วงหน้า
นอกจากนี้ยังรองรับการเล่นเกมผ่านบริการสตรีมมิ่งบนคลาวด์ เช่น NVIDIA GeForce Now และ Xbox Cloud Gaming จะพร้อมใช้งาน (ยังอยู่ในรุ่นเบต้า) และยังมีตัวเลือกการเล่นจากระยะไกล ทำให้สามารถเข้าถึงไลบรารี PC ได้อย่างเต็มที่ผ่าน Steam Link, Moonlight, Parsec และ Xbox
สเปก Razer Edge 5G
ตัวเครื่อง 259.7 x 84.5 x 10.83 มม. และน้ำหนัก 263.8 กรัม (400.8 กรัมรวมคอลโทรลเลอร์) หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.8 นิ้ว และมีอัตรารีเฟรชเรท 144Hz
ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core โดยใช้ชิปเซ็ท Snapdragon G3x Gen 1 Gaming Platform จับคู่กับ RAM 8GB แบบ LPDDR 5, หน่วยความจำภายใน 128GB แบบ UFS 3.1 เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 2TB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 12
ติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p@60fps ส่วนกล้องหลังไม่ได้ติดตั้งมาให้ รวมทั้งติดตั้งลำโพงแบบ 2-way พร้อมไมโครโฟน 2 digital, ระบบเสียง THX Spatial Audio, รองรับการเชื่อมต่อ 5G Sub 6, mm Wave Verizon 5G, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2 และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh
ทั้งนี้ Razer Edge 5G มีราคาอยู่ที่ 399.99 ดอลลาร์หรือประมาณ 15,300 บาท และถ้ารวมคอนโทรลเลอร์ Razer Kishi V2 Pro และ Razer Edge Founders Edition ที่มาพร้อมกับหูฟัง Razer Hammerhead True Wireless จะมีราคาอยู่ที่ 499.99 ดอลลาร์หรือประมาณ 19,130 บาท
โดยจะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม 2566 ผ่านเครือข่าย Verizon เท่านั้น และจะวางจำหน่ายที่บูธ Razer ที่งาน CES 2023 ด้วย
ที่มา : Gizmochina