vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลกเปิดตัว vivo X200 Series อย่างเป็นทางการในไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยจุดเด่นของ vivo X200 Series ยังคงมาพร้อมความร่วมมือกับ ZEISS แบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลกในการพัฒนาทางวิศวกรรม (Co-Engineer) ทั้งด้าน Hardware และ Software
ซึ่งในรอบนี้ชูจุดขายด้วยสโลแกน “ZEISS Image Go Far” ซูมชัดทุกเรื่องราว โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีการซูมและปรับแต่งภาพเฉพาะจาก vivo ที่มีความโดดเด่นด้านการซูมไกลและคมชัด รองรับการใช้งานทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ตอบโจทย์การใช้งานในทุก ๆ สภาพแสง
ซึ่งทางทีมงาน MobileOcta ได้มีโอกาสสัมผัสกับ vivo X200 มาได้สักพักใหญ่ ๆ วันนี้จึงจะมา Unboxing แกะกล่องพร้อมบอกเล่าความประทับใจในด้านรูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบของสุดยอดสมาร์ตโฟนกล้องโปร ก่อนที่จะพาไปสัมผัสกับ Full Review ในเร็ว ๆ นี้
สเปคเบื้องต้น vivo X200
ขนาด : 160.27 × 74.81× 7.99 มม.
น้ำหนัก : สี Midnight Black 197 กรัม, สี Ocean Blue และ Aurora Green 202 กรัม
ชิปเซต : Mediatek Dimensity 9400
ROM และ RAM : 12 GB + 256 GB
หน้าจอแสดงผล : AMOLED 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2800 × 1260 พิกเซล รองรับอัตรารีเฟรช 120Hz
กล้องหน้า : 32MP
กล้องหลัง : 3 เลนส์ Triple Camera Co-engineered with ZEISS พร้อมไฟแฟลช Triple-LED
กล้องหลัก 50MP เซนเซอร์ Sony IMX921, กล้องหลังเลนส์ Wide-angle ความละเอียด 50MP, กล้องหลังเทเลโฟโต้ ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ Sony IMX882
แบตเตอรี่ 5800mAh เทคโนโลยี BlueVolt รองรับชาร์จไว vivo FlashCharge 90W
สีที่วางจำหน่าย : Midnight black, Ocean Blue, Aurora Green
ตัวกล่องแพ็กเกจจิ้งของ vivo X200 Series ยังคงมาในโทนสีและดีไซน์ในแบบฉบับ X Series ที่ขับเน้นในเรื่องของความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความพรีเมี่ยม โดยพื้นผิวของตัวกล่องจะใช้ลายเท็กเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งเหมือนหนังแท้
และที่ด้านหน้าจะมีความโดดเด่นด้วยรูปโมดูลกล้องในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ X Series โดยภายในจะกำกับด้วยชื่อรุ่น X200 พร้อมชูจุดเด่นด้วยข้อความกำกับในการร่วมมือระหว่าง vivo กับ ZEISS แบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลกในการพัฒนาทางวิศวกรรม (Co-Engineer) เพื่อส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับมืออาชีพสู่มือผู้บริโภคทั่วโลก
ส่วนด้านข้างกล่องจะมีการระบุชื่อรุ่น และความจุของ ROM/RAM และความร่วมมือในการใช้เครื่องหมายการค้าของ Carl ZEISS AG
ส่วนด้านหลังกล่องจะพิมพ์บอกรายละเอียดทั้งในส่วนของชื่อรุ่น สี หมายเลขอีมี่และรายละเอียดของผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย
- ตัวเครื่อง vivo X200 พร้อมติดฟิล์มกันรอยมาให้ตั้งแต่โรงงาน
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว FlashCharge 90W
- สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
- vivo X200 สี Ocean Blue และ Aurora Green จะมาพร้อม Soft Case TPU แบบใส
- อุปกรณ์เปิดถาด SIM Card
- ใบรับประกัน, และคู่มือการใช้งานฉบับย่อ
ส่วน vivo X200 สี Midnight black จะเป็น Soft Case TPU สีดำ
รูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบ
vivo X200 มาด้วยกัน 3 สี ประกอบด้วย Midnight black, Ocean Blue, Aurora Green
Aurora Green สีเขียวปัดเงาที่สื่อถึงความสง่าและความงดงามของธรรมชาติ
vivo X200 ยังคงความเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่ให้ความพรีเมียมมาแบบอัดแน่น ทั้งในด้านดีไซน์และคุณภาพของวัสดุพร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ ถ้ามองในภาพรวมดีไซน์ของ vivo X200 จะมีความแตกต่างไปจากรุ่นพี่ X100 อยู่พอสมควร ทั้งในด้านขนาดมิติของตัวเครื่อง และดีไซน์บางจุดที่แตกต่างแบบสัมผัสได้ชัดเจน
ในภาพรวม vivo X200 ตัวเครื่องถูกออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์ มีความเพรียวบางและน้ำหนักเบา โดยขนาดความบางกับน้ำหนักของตัวเครื่องมีความบาลานซ์ที่ดีมาก ๆ จึงช่วยให้การจับถือและใช้งานได้กระชับ ไม่ลื่นหลุดมืออย่างแน่นอน
vivo X200 มาพร้อมวงแหวน Sunburst เสริมความแข็งแกร่งและความสง่างามให้กับโมดูลกล้อง โดยดีไซน์กรอบของ vivo X200 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากขอบนาฬิกา ซึ่งเป็นการออกแบบในสไตล์ Sunburst Texture เหมือนนาฬิกาจักรกลที่ให้ความรู้สึกหรูหราและสวยงามนั่นเอง
หรูหราและโดดเด่นด้วยหน้าจอ Quad Curved ของ vivo X200 ที่มอบประสบการณ์การใช้งานสุดยอดเยี่ยมด้วยความโค้งมนที่เท่ากันในทุก ๆ ด้าน เสริมด้วยเทคโนโลยีหน้าจอ ZEISS Master Color สีสันจะมีชีวิตชีวาเหมือนไม่เคยมีมาก่อน ให้สีสันธรรมชาติในแบบ ZEISS พร้อมมอบความเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์รับชมภาพที่ชัดเจน สดใส และเป็นธรรมชาติควบคู่ไปกับการถนอมสายตาของผู้ใช้งานตลอดการใช้งาน
นอกจากนี้ vivo X200 ยังรองรับการกันฝุ่นและน้ำ IP68 / IP69 ภายใต้มาตรฐาน IEC 60529 ในห้องแล็บปฏิบัติการของ vivo ซึ่งช่วยเสริมความอุ่นใจในการใช้งานในทุก ๆ กิจกรรมได้ดียิ่งขึ้น
vivo X200 มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ที่ออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยจัดวางเลย์เอาท์ไว้อยู่ตรงกลางของจอแสดงผล ซึ่งจากการใช้งานจริงให้ความรู้สึกกลมกลืนไม่รบกวนสายตา แต่ยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยม ด้วยความละเอียดของกล้องหน้าที่สูงถึง 32 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์แบบอัดแน่น ไม่ว่าจะเป็นโหมด Super Night Selfie, Portrait mode, Multi style portrait และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามในทุกสภาพแสงและทุกสถานการณ์
เลนส์ ZEISS ชัดเจนในทุกเรื่องราว
เลนส์ ZEISS ใน vivo X200 มอบความคมชัด ใสเคลียร์ และความแม่นยำที่ไม่มีใครเทียบได้ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพพอร์ตเทรตหรือภาพทิวทัศน์ ทุกช็อตจะคมชัด มอบความสมจริงในทุกรายละเอียด พร้อมการเคลือบ Coating จาก ZEISS T*
กล้องหลัก ZEISS VCS สีสันเที่ยงตรง
ความละเอียด 50MP | เซนเซอร์ IMX921 | 1/1.56 นิ้ว | รูรับแสง f/1.57 | ระยะ 23 mm | CIPA 4.5
กล้องเทเลโฟโต้ ZEISS
50MP | เซนเซอร์ IMX882 | 1/2 นิ้ว | รูรับแสง f/2.57 | ไฮเปอร์ซูม 100
กล้องมุมกว้างพิเศษ ZEISS
50MP | 1/2.76 นิ้ว | รูรับแสง f/2.0 | มุมมองกว้างถึง 119°
การจัดวางเลย์เอาท์ในภาพรวม
ด้านบนของ vivo X200 จะมีเส้นสัญญาณเสาอากาศขนาบทั้งซ้ายขวา และที่ฝั่งขวาจะเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวนและทำหน้าที่ในการบันทึกเสียงอีกด้วย ถัดไปจะเป็น IR Blaster ที่ใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เหมือนรีโมทนั่นเอง
ด้านล่างประกอบไปด้วย ช่องถาดซิมการ์ด., ไมค์สนทนา, พอร์ต Type-C, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง, และเส้นเสาอากาศ สำหรับลำโพงหลักจะเป็นแบบสเตอริโอโดยทำงานร่วมกับลำโพงสนทนาที่ด้านบนของตัวเครื่อง
ฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์พร้อมเส้นเสาอากาศที่มุมบนและด้านล่างของปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียง ส่วนฝั่งซ้ายจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ แต่จะมีเส้นเสาอากาศ 2 เส้นอยู่ที่มุมบนของตัวเครื่อง
ตัวถาดซิมของ vivo X200 เป็นแบบ Dual Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบนาโนซิม แต่จะไม่รองรับหน่วยความจำภายนอก
สีดำ Midnight black
สีดำ Midnight black สีดำสุดคลาสิก ซึ่งเป็นสีที่สง่า เรียบขรึม แฝงไว้ด้วยความพรีเมียม เหนือกาลเวลา และพร้อมตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ทุกเพศวัยอย่างแท้จริง
สีน้ำเงิน Ocean Blue
สำหรับสี Ocean Blue สีน้ำเงินเข้มอันเรียบหรู ดูลึกลับ มาพร้อมลายเท็กเจอร์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับผู้ใช้งาน
สำหรับคุณสมบัติอื่น ๆ และโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มเติม รวมถึงรีวิวฉบับเต็มของ vivo X200 สามารถติดตามได้จากทาง IbelieveIT ในเร็ว ๆ นี้ครับ