realme Number Series เป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางของ realme ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้เป็นอย่างดี ด้วยสเปกที่จัดเต็ม ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย
ล่าสุด realme ได้เปิดตัว realme 13 5G และ realme 13+ 5G สองสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ตระกูล Number Series ชูจุดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพเป็นหลัก
โดย realme 13+ 5G มาพร้อมสโลแกน “Speed to Victory” หนึ่งในสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้ชิปเซ็ท Dimensity7300 Energy ช่วยให้การเล่นเกมและการใช้งานราบรื่นด้วยประสิทธิภาพสูง
ขณะที่ realme 13 5G มาพร้อมสโลแกน “Speed Ahead” ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Dimensity6300 5G ที่มีความแข็งแกร่ง ช่วยให้การเล่นเกมที่ราบรื่นและเสถียร
ซึ่งทาง MobileOcta ก็ได้เครื่องมาพรีวิวแกะกล่องให้คุณผู้อ่านได้ชมกันก่อนที่จะมีการเปิดตัวในบ้านเรา เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปชมกันเลยครับว่า realme 13+ 5G และ realme 13 5G จะสวยงามแค่ไหนกัน
สเปกเบื้องต้น realme 13+ 5G
ขนาด | 161.7 x 74.7 x 7.6 มม. |
น้ำหนัก | 185 กรัม |
หน้าจอ | 120Hz OLED Esports Display แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 92.65% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 180Hz, ความสว่างสูงสุด 2000nits, รองรับ HDR10+, รองรับ Pro-XDR display และรองรับฟีเจอร์ Rainwater Smart Touch |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 7300 Energy (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G615 MC2 |
RAM | 12GB รองรับเทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion สำหรับเพิ่ม RAM เสมือนได้อีกสูงสุด 14GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB |
microSD Card | รองรับ |
ระบบปฏิบัติการ | realmu UI 5.0 based on Android 14 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band Bluetooth 5.4, A2DP, LE GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS NFC ช่องหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB Type-C 2.0 |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-600 เลนส์ 5P, รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.95″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 – กล้องตัวที่ 3 เลนส์เสริม (เซ็นเซอร์ตรวจจับการกระพริบ) พร้อมโหมด Photo Mode, Video Mode, Night Mode, Professional Mode, Portrait Mode, Street Mode, Panoramic view, Slow Motion, Tilt-shift, Time-lapse, Long Exposure Photo, Doc Scanner, Movie Mode, Dual-view Video และ Google Lens กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เลนส์ 5P, รูรับแสง f/2.4 และ FOV 82.3° พร้อมโหมด Photo Mode, Video Mode, Portrait Mode, Night Mode, Panoramic view, Time-lapse, Dual-view Video |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม 5G + 5G Dual Mode (SA/NSA) GSM: 850/900/1800 WCDMA: Bands 1/5/8 FDD-LTE: Bands 1/3/5/8/28A TD-LTE: Bands 40/41(2535-2655MHz) 5G NR SA:n1/n3/n5/n8/n28B/n40/n41(2535-2655MHz)/n77/n78 5G NR NSA:n78 |
แบตเตอรี่ | 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge |
สี | Victory Gold, Speed Green และ Dark Purple |
ราคา | X,XXX บาท |
สเปกเบื้องต้น realme 13 5G
ขนาด | 165.6 x 76.1 x 7.8 มม. |
น้ำหนัก | 190 กรัม |
หน้าจอ | 120Hz FHD+ Eye Comfort Display แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.72 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 สัดส่วนจอต่อเครื่อง 91.4% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz, ความสว่าง 580nits, อัตราส่วนคอนทราสต์: 1500:1, สีหน้าจอ: 83% NTSC และรองรับ Raindrop Smart Touch |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 6300 (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 MC2 |
RAM | 8GB รองรับเทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion สำหรับเพิ่ม RAM เสมือนได้อีกสูงสุด 8GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB |
microSD Card | รองรับ |
ระบบปฏิบัติการ | realme UI 5.0 based on Android 14 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band Bluetooth 5.3, A2DP, LE GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS ช่องหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB Type-C 2.0 |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Samsung S5KJNS, เลนส์ 5P, รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), FOV: 77.9°, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เลนส์ 3P, รูรับแสง f/2.45 และ FOV 89° พร้อมโหมด Photo, Video, Street, Portrait, Night, Pano, Dual-View Video, Time-Lapse, Pro, Slo-Mo, Hi-res, Tilt-Shift, Text Scanner และ Movie กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.45, เลนส์ 5P และ FOV 82.6° พร้อมโหมด Photo, Video, Portrait, Night, Pano, Dual-View Video และ Time-Lapse |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม 5G + 5G Dual Mode (SA/NSA) GSM: 850/900/1800MHz WCDMA: Bands 1/5/8 FDD-LTE: 1/3/5/8/28B TD-LTE: Bands 40/41(2535-2655MHz) 5G NR: n1/n3/n5/n8/n28B/n40/n41(2535-2655MHz)/n77/n78 |
แบตเตอรี่ | 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 45W Ultra Charge |
สี | Speed Green และ Dark Purple |
ราคา | X,XXX บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ realme 13+ 5G และ realme 13 5G เป็นกล่องกระดาษแข็งมาในโทนสีเหลืองสีประจำตัว realme ด้านหน้ากล่องมาพร้อมชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน
โดย realme 13+ 5G มีโลโก้ TÜVSÜD ซึ่งการันตีว่าเป็นมือถือที่เล่นเกมได้อย่างไม่มีการหน่วงเป็นรุ่นแรกของโลก และตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ realme ขณะที่ด้านข้างกล่องทั้ง 2 ด้านก็มีขื่อรุ่นระบุไว้ด้วย
ด้านหลังกล่องจะระบุสเปกเด่น 4 อย่างด้วยกัน เริ่มจาก realme 13+ 5G มาพร้อมชิปเซ็ท Dimensity 7300 Energy 5G, หน้าจอแสดง 120Hz OLED Eye Comfort Display, ชาร์จไว 80W Ultra Charge พร้อมแบตเตอรี่ 5,000mAh และกล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony และระบบกันสั่น OIS
ส่วน realme 13 5G มาพร้อมชิปเซ็ท Dimensity 6300 5G, ชาร์จไว 45W Fast Charge พร้อมแบตเตอรี่ 5,000mAh, หน้าจอแสดงผล 120Hz AI Eye Comfort Display และกล้องหลัก 50MP OIS Camera
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- ตัวเครื่อง realme 13+ 5G และ realme 13 5G พร้อมติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge (realme 13+ 5G) และ 45W Ultra Charge (realme 13 5G)
- สายดาต้าลิงค์แบบ USC Type-C
- เคสพลาสติกใส
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, เอกสารความปลอดภัย และบัตรรับประกัน
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge ที่มีมาให้ในกล่อง realme 13+ 5G
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 45W SuperVOOC ที่มีมาให้ในกล่อง realme 13 5G
รูปลักษณ์ดีไซน์/การออกแบบ
realme 13+ 5G
realme 13+ 5G มาพร้อมดีไซน์ Victory Speed โดยได้แรงบันดาลใจมาจากคำสำคัญ “Victory” และ “Speed” สำหรับชัยชนะของเกมแข่งรถ แนวคิดการออกแบบนั้นเชื่อมโยงกับประสิทธิภาพที่รวดเร็วสุดขีดของเกมซึ่งช่วยเสริมสร้างการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของซีรีส์ Number ด้วยพลังแห่งอนาคต
จุดเด่นของการออกแบบอยู่รวมการออกแบบ Speedy Curve ไว้ที่บริเวณด้านล่างของกล้อง เส้นขอบทองคำยืดออกจากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่ง คล้ายกับสนามแข่งที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เต็มไปด้วยความพลุ่งพล่าน ด้านล่างมีลวดลายเหมือนฟ้าผ่า ทำให้คุณรู้สึกถึงความเร็วและความหลงใหลในทันทีที่คุณหยิบขึ้นมา
ตัวเครื่องบางเพียง 7.6 มม. แม้จะมีประสิทธิภาพที่ทรงพลังและคุณสมบัติการระบายความร้อนที่เพียงพอ แต่เราก็ยังสามารถรักษาความหนาไว้ที่ 7.69 มม. และน้ำหนักที่ 185 กรัม ซึ่งเป็นการสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพกับการออกแบบที่บางและเบา ช่วยให้จับถือได้ง่ายแม้ในระหว่างการเล่นเกม
รวมทั้งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการเล่นเกม ฝาหลังโค้งไมโคร 2.8D ที่มีความลึกเท่ากันนั้นมีการเปลี่ยนแปลงที่ราบรื่น ไม่เพียงแต่ทำให้การมองเห็นดูลื่นไหลมากขึ้น แต่ยังทำให้ตัวเครื่องดูบางและเบาขึ้นอีกด้วย
และการออกแบบหน้าจอแบน การออกแบบกรอบกลางแบบไร้กรอบและขอบหน้าจอด้านหน้าที่แคบ มอบประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมและความรู้สึกในการจับถือที่ลื่นไหล
realme 13+ 5G มีให้เลือก 3 สีคือ Victory Gold, Speed Green และ Dark Purple
realme 13 5G
ส่วน realme 13 5G ออกแบบจากความเร็วแห่งชัยชนะด้วยความบางเฉียบ ด้วยความหนาเพียง 7.79 มม. realme 13 5G จึงเบาเหมือนขนนกในมือ ตัวเครื่องที่บางเฉียบนี้เพิ่มเสน่ห์ทางสายตาและทำให้การจับถือสบายแม้ในช่วงการเล่นเกมที่ยาวนาน
ปรัชญาการออกแบบ “Victory Speed Design” ได้รับแรงบันดาลใจจากหน้าจอ “Victory” ที่เต็มไปด้วยอะดรีนาลีนในเกมยอดนิยมอย่าง MLBB และ Free Fire
ซึ่งแปลเป็นรูปลักษณ์ที่มีความพลิ้วไหวพร้อมกับดีไซน์ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ เรียกว่า “Speedy Curve” และพื้นผิวด้านหลังที่เป็นเอกลักษณ์ เรียกว่า “Speedy Lightning Texture” มีให้เลือกในสี Speed Green ที่สดใสและ Dark Purple ที่หรูหรา
และตัวเครื่องยังมีโครงสร้างภายในที่แข็งแกร่ง ให้ความแข็งแรงที่ยอดเยี่ยม หน้าจอกระจกนิรภัยและพื้นผิวที่ทนต่อการสึกหรอช่วยป้องกันรอยขีดข่วน โครงสร้างที่แข็งแกร่งและระบบป้องกันแบบบุนวมนั้นช่วยปกป้องส่วนประกอบภายในจากการตกและแรงกระแทก ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับ realme 13 5G ได้อย่างมั่นใจ
ด้านหน้า realme 13+ 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผล 120Hz OLED E-sport Display ลื่นไหลและตอบสนองได้ดีเยี่ยม ซึ่งไม่เพียงแต่ให้คุณภาพการแสดงผลที่สดใส แต่ยังมีความไวในการสัมผัสที่ราบรื่นอย่างมากการมองเห็นที่กว้างขวาง
และการแสดงผล Pro-XDR รวมกับลำโพงคู่สเตอริโอ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การรับชมให้มีความดื่มด่ำมากยิ่งขึ้น ด้วยอัตรา Touch Sampling Rate ที่เพิ่มขึ้นเป็น 1200Hz แม้แต่การเคลื่อนไหวที่ละเอียดที่สุดก็สามารถจับได้อย่างแม่นยำ ซึ่งยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณไปอีกระดับ
นอกจากนี้ หน้าจอนี้ยังเป็นมิตรต่อดวงตาอย่างสูง มีการปรับความสว่างที่ระดับหมื่นเพื่อการแสดงผลที่เป็นธรรมชาติและลดการกระพริบของหน้าจอ นอกจากนี้ยังมีโหมดการปกป้องดวงตา AI full-link ที่ปรับกลยุทธ์การปกป้องดวงตาอย่างแม่นยำและเป็นเวลาจริง เพื่อลดความเมื่อยล้ําของดวงตา
นอกจากนี้ยังรองรับอัตราการรีเฟรช 6 ระดับ ได้แก่ 45Hz, 48Hz, 50Hz, 60Hz, 90Hz และ 120Hz หมายความว่าจอแสดงผลสามารถประหยัดพลังงานได้โดยจะขึ้นอยู่กับการใช้งาน
ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่หน้าจอนิ่ง ต่อเนื่อง โดยที่หน้าจอหยุดอยู่กับที่โดยไม่มีการสัมผัสเป็นเวลา 3 วินาที อัตราการแสดงผลจะลดลงเหลือ 45Hz เพื่อให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
ส่วนด้านหน้าของ realme 13 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผล 120Hz Eye Comfort Display มอบภาพที่ราบรื่นอย่างเหลือเชื่อการเบลอของการเคลื่อนไหวที่น้อยที่สุดและหน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองได้รวดเร็วเพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน ความละเอียด FHD+ มอบรายละเอียดในเกมโปรดของผู้ใช้ ขณะที่เทคโนโลยี Eye Comfort ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาในระหว่างการเล่นเกมที่ยาวนาน
รวมทั้งรองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz โดยรองรับอัตราการรีเฟรชที่ปรับได้ 2 ระดับ ได้แก่ มาตรฐาน 60Hz เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ และสูง 120Hz สำหรับภาพเคลื่อนไหว และการทำงานที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
ตรงกลางด้านบนของ realme 13+ 5G และ realme 13+ 5G เจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล AI Selfie Camera
พลิกมาด้านหลังเครื่อง realme 13+ 5G ดีไซน์ขอบโค้งมน โดยตรงกลางด้านบนมีโมดูลกล้องทรงกลมขนาดใหญ่ ภายในติดตั้งกล้องเลนส์ 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED และตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ realme
ส่วนด้านหลังเครื่อง realme 13 5G ตรงกลางด้านบนมีโมดูลกล้องทรงกลมขนาดใหญ่ ภายในติดตั้งกล้องเลนส์คู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED และข้อความ 50 OIS CAMERA และตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ realme
โดยกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera ของ realme 13+ 5G ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-600 เลนส์ 5P, รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.95″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์เสริม (เซ็นเซอร์ตรวจจับการกระพริบ)
ขณะที่กล้องหลังคู่ AI Dual Camera ของ realme 13 5G ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Samsung S5KJNS, เลนส์ 5P, รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), FOV 77.9°, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เลนส์ 3P, รูรับแสง f/2.45 และ FOV 89°
ด้านซ้ายข้างเครื่อง realme 13+ 5G และ realme 13+ 5G ออกแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ
ด้านขวาข้างเครื่อง realme 13+ 5G และ realme 13 5G มีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง
โดยปุ่มเปิด/ปิดเครื่องของ realme 13+ 5G เป็นปุ่มนูนขึ้นมา ส่วนของ realme 13 5G เป็นปุ่มแบนเรียบที่ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังไว้บนปุ่มนี้ด้วย
ด้านบนเครื่อง realme 13+ 5G มีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง, ช่องลำโพงเสียง และช่องหูฟัง 3.5 มม.
ขณะที่ realme 13 5G มีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง ช่องลำโพงเสียง และช่องใส่ซิมการ์ด/microSD Card
โดยช่องใส่ SIM Card ของ realme 13+ 5G และ realme 13 5G จะเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ Hybrid Slot โดยช่องแรกเป็นช่องใส่ SIM 1 และช่องสองเป็นช่องใส่ SIM 2 หรือ microSD Card
ซึ่งต้องเลือกว่า จะใส่ซิมทั้ง 2 ช่อง (2 ซิม) หรือ จะใส่ซิม 1 ช่อง และ อีก 1 ช่อง ใส่ microSD card ( 1 ซิม + 1 เมมโมรี่) และรองรับซิมการ์ดแบบ nanoSIM Card
ด้านท้ายเครื่อง realme 13+ 5G มีช่องใส่ซิมการ์ด/microSD Card, ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
ส่วน realme 13 5G มีช่องหูฟัง 3.5 มม., ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
เตรียมพบกับผู้นำด้านเกมมิ่งสมาร์ตโฟน realme 13 Series 5G ตัวจริงที่สายเกมห้ามพลาด มาพร้อมความเร็วที่จะพาคุณ Speed to Victory!
เปิดตัวในวันที่ 17 ต.ค. 67 เวลา 10.00 น. – 12.00 น.
พร้อมกิจกรรมตอบคำถามชิง realme 13+ 5G 1 รางวัล*
รับชมไลฟ์ผ่านช่องทาง
Facebook: realme (TH)
YouTube: realme Thailand
TIkTok: realme_Thailand
และพบกับรีวิวเต็มของ realme 13+ 5G และ realme 13 5G ได้ในวันเดียวกันครับ
#realme13Series5G#SpeedtoVictory