คลังเก็บ

พรีวิว Mi 11 Ultra ที่สุดของสมาร์ตโฟนเรือธงที่จะมาปฏิวัติวงการภาพถ่ายและวิดีโอ

หลังจากเปิดตัว Mi 11 ในบ้านเราไปเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ถึงคิวของ Mi 11 Ultra สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นท๊อปในตระกูล Mi 11 Series ที่จะมาปฏิวัติวงการภาพถ่ายและวิดีโอ โดยจัดเต็มด้วยกล้องหลัง 3 คัวความละเอียด 50 ล้านพิกเซลที่ครบเครื่องเรื่องฟีเจอร์การถ่ายภาพระดับโปร จนได้รับการจัดอันดับจาก DxO Mark ให้เป็นสมาร์ตโฟนที่มีกล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุดในโลก

รวมทั้งมาพร้อมหน้าจอ MOLED DotDisplay ขนาด 6.81 นิ้ว ขอบโค้ง 4 ด้าน ความละเอียด WQHD+ โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และหน้าจอ Always-on บริเวณด้านหลังขนาด 1.1 นิ้ว เพื่อแสดงข้อมูลที่จำเป็น แรงด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 888 และเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ 3 เฟส รวมถึงเสียงที่คมชัดด้วยลำโพงแบบคู่และปรับแต่งโดย Harman Kardon และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000nAh รองรับชาร์จเร็วทั้งแบบใช้สาย และไร้สาย 67W

อยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่าสเปกที่กล่าวมาทั้งหมดใน Mi 11 Ultra รุ่นนี้ เมื่อลองใข้งานจริงแล้วเป็นอย่างไร ไปดูพรีวิวกันเลยครับ

Mi 11 Ultra

สเปกเบื้องต้น Mi 11 Ulra

ขนาด164.3 x 74.6 x 8.4  มม.
น้ำหนัก234 กรัม
หน้าจอAMOLED DotDisplay ความละเอียด WQHD+ 1440 x 3200 พิกเซล (515 ppi) ขนาด 6.81 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และอัตราสุ่มแบบสัมผัส 480Hz, รองรับ HDR10+, การแสดงผลสีแบบ 10-bit, ความสว่าง HBM 900 nits (typ) ความสว่างสูงสุด 1,700 nits (typ), รองรับ HDR10+, Dolby Vision และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning® Gorilla® Glass Victus™
หน่วยประมวลผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.84GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8350 Snapdragon 888 5G (5 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 660
RAM12GB แบบ LPDDR5
หน่วยความจำภายในเครื่อง256GB แบบ UFS 3.1
microSD Cardไม่รองรับ
ระบบปฏิบัติการMIUI 12.5 based on Android 11
เชื่อมต่อWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, hotspot
Bluetooth 5.2, AA2DP, LE, aptX HD
NFC
Infrared port
GPS tri-band A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS, NavIC
USB Type-C 2.0, USB On-The-Go
กล้องถ่ายภาพกล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED 
– กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung GN2 รูรับแสง f/1.95, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.12”, ขนาดพิกเซล 1.4μm, เทคโนโลยีซุปเปอร์พิกเซล 4-in-1 ถึง 2.8μmm
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 รูรับแสง f/2.2, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.0”, ขนาดพิกเซล 08μm, เทคโนโลยีซุปเปอร์พิกเซล 4-in-1 ถึง 1.6μmm. ถ่ายมุมกว้างได้ 128 องศา
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/4.1, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.0”, ขนาดพิกเซล 0.8μm ซูมแบบออปติคอล 5 เท่า, แบบไฮบริด 10 เท่า และแบบดิจิตอล 120 เท่า

กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล Ultra-clear รูรับแสง f/2.2, ชนาดเซ็นเซอร์ ขนาดพิกเซล 0.8μm, ซุปเปอร์พิกเซล 4-in-1 ถึง 1.6μm
รองรับระบบรองรับ 5G / 4G / 3G/ 2G
5G: n1, n3, n5, n7, n8, n20, n28, n38, n41, n77, n78, n79
4G: FDD-LTE Band 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 12, 17, 20, 28, 32, 66 TDD-LTE Band 38, 40, 41, 42
3G: WCDMA Band 1,2,4,5,8
2G: GSM 850 900 1800 1900 MHz
รองรับ 4×4 MIMO
แบตเตอรี่แบตเตอรี่ 50000mAh (typ)
รองรับชาร์จเทอร์โบด้วยสาย 67W/ ชาร์จเทอร์โบไร้สาย 67W/ ชาร์จไร้สายย้อนกลับ 10W
สีมีให้เลือก 2 สี Ceramic White (Cosmic White), Ceramic Black (Cosmic Black)
ราคาRAM 12+256GB ราคา 33,990บาท

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

กล่องบรรจุภัณฑ์ของ Mi 11  Ultra เป็นกล่องกระดาษแข็งสีดำ ด้านหน้ามีตัวเลข 11 สีทองซึ่งเป็นชื่อซีรี่ส์รุ่นขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ถัดลงมาตรงกลางด้านล่างมีชื่อรุ่น ข้อความที่ระบุว่ามาพร้อมระบบเสียงจาก Harman Kardon และรองรับ 5G และมุมขวาด้านบนเป็นโลโก้ Xiaomi

ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้

  • ตัวเครื่อง Mi 11
  • อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว  67W GaN 
  • สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
  • คู่มือการใช้
  • ใบรับประกัน
  • เคสป้องกันแบคทีเรียซิลเวอร์ไอออน
  • ฟิล์มกันรอยหน้าจอป้องกันแบคทีเรีย

อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว  67W GaN 

รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ

ตัวเครื่อง Xiaomi Mi 11 Ultra ใช้วัสดุที่ทำจากเซรามิกเป็นหลัก เสริมด้วยกรอบโลหะอลุมิเนียม มีให้เลือก 2 สีคือ Ceramic White และ Ceramic Black ด้านหน้าครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Victus ที่แข็งแกร่ง ทนทานต่อรอยขีดข่วน บวกกับงานประกอบที่มีความแข็งแรงทนทาน ด้วยขนาด 164.3 x 74.6 x 8.4 มม. และน้ำหนัก 234 กรัม ถือว่าใหญ่ และค่อยข้างหนักพอสมควร แต่ด้วยดีไซน์ขอบโค้งก็ช่วยให้ถือจับได้อย่างสบาย และให้ความรู้สึกหรูหรา

หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED DotDisplay ความละเอียด WQHD+ 1440 x 3200 พิกเซล (515 ppi) ขนาด 6.81 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz และอัตราสุ่มแบบสัมผัส 480Hz, รองรับ HDR10+, การแสดงผลสีแบบ 10-bit, ความสว่าง HBM 900 nits (typ) ความสว่างสูงสุด 1,700 nits (typ) และรองรับ HDR10+, Dolby Vision

มุมซ้ายด้านบนเจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล

ด้านหลังใช้วัสดุที่ผลิตจากเซรามิกพรีเมี่ยม โดยด้านบนเป็นโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ที่ยื่นนูนขึ้นมา โดยภายในด้านซ้ายมีเลนส์กล้อง 3 พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED และข้อความ 120 12-120mm 11.95-4.1 AI Camera ส่วนด้านขวามีหน้าจอรองแบบ OLED ขนาด 1.1 นิ้ว ถัดลงมาตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ Xiaomi 5G

สำหรับกล้อง 3 ตัวประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung GN2 รูรับแสง f/1.95, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.12”, ขนาดพิกเซล 1.4μm, เทคโนโลยีซุปเปอร์พิกเซล 4-in-1 ถึง 2.8μmm
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 รูรับแสง f/2.2, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.0”, ขนาดพิกเซล 08μm, เทคโนโลยีซุปเปอร์พิกเซล 4-in-1 ถึง 1.6μmm. ถ่ายมุมกว้างได้ 128 องศา
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/4.1, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.0”, ขนาดพิกเซล 0.8μm ซูมแบบออปติคอล 5 เท่า, แบบไฮบริด 10 เท่า และแบบดิจิตอล 120 เท่า

ด้านซ้ายข้างเครื่องดีไซน์เรียบๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่มเปิดปิดเครื่อง

ด้านบนมีพอร์ตอินฟราเรด, ช่องไมโครโฟนตัดเสียง, ช่องลำโพงเสียง และข้อความ Sound By harman/kardon 

ด้านท้ายเครื่องมีช่องใส่ SIM Card ซึ่งรองรับ 2 SIM แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง, พอร์ต USB Type-C, ช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา และช่องลำโพงเสียง

ฟีเจอร์เด่น Mi 11 Ultra

Mi 11 Ultra มาพร้อมหน้าจอ Always-on บริเวณด้านหลังขนาด 1.1 นิ้ว เพื่อแสดงข้อมูลที่จำเป็นไม่ว่าจะเป็นเวลา วันที่ สถานะแบตเตอรี่ สายเรียกเข้า และข้อความต่างๆ รวมถึงยังใช้เป็นหน้าจอสำหรับแสดงภาพจากกล้องหลังได้แบบ real-time ทำให้สามารถถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลังได้สบายๆ

Mi 11 Ultra สามารถเลือกความละเอียดของหน้าจอได้ 2 ระดับได้แก่ FHD+ และ WQHD+ รวมถึงสามารถเปิดใช้อัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz บนความละเอียดระดับ WQHD+ ได้ แต่ถ้าเปิดใช้โหมดนี้แบตเตอรี่ก็จะหมดเร็วขึ้น และยังมีโหมดป้องกันภาพสั่นไหว สำหรับใช้งานในตอนกลางคืน ที่บางช่วงเวลาภาพหน้าจะดูเพี้ยนๆ และมีการกระพริบในบางมุมมอง ส่งผลให้ปวดตาได้

ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 888 ประสิทธิภาพระดับแฟลกชิป ที่ประมวลผลดีขึ้น 25% ด้านกราฟิกแรงขึ้นอีก 35% และการประมวลผลของ AI รวดเร็ว ชาญฉลาดกว่าเดิมอีก 70% เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกการใช้งาน โดยจับคู่กับ RAM 12GB แบบ LPDDR5 และหน่วยความจำภายในขนาด 256GB แบบ UFS 3.1 ที่รับส่งข้อความได้แรงและเร็ว

Mi 11 Ultra เป็นสมาร์ตโฟนของ Xiaomi รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ 3 เฟส (three-phase cooling technology) ที่สามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้นและเพิ่มความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิได้มากขึ้นถึง 100%  เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ 3 เฟสจึงทำให้ Mi 11 Ultra มีประสิทธิภาพสูงและคงที่ตลอดเวลา นอกจากนั้น GameTurbo 4.0 ยังช่วยให้การเล่นเกมไหลลื่น ไม่มีสะดุด

รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับเครือข่าย 4G/5G แบบ Dual Mode (SA และ NSA) รองรับการใช้ 4G ทั้ง 2 ซิม และรองรับ 5G แบบ Dual SIM ทำให้ Nano SIM ที่ใส่ใช้งานจะใช้งานสัญญาณ 5G ได้ทั้งคู่

ลำโพงแบบคู่และปรับแต่งโดย Harman Kardon ทรงพลังมากขึ้นด้วยลำโพง 1216P แบบ super-linear ที่ปรับแต่งขึ้นเป็นพิเศษบริเวรณด้านล่าง มีค่าแอมพลิจูดสูงสุดที่ 0.8 มิลลิเมตร ให้เสียงดังที่สุดในวงการสมาร์ตโฟน

Mi 11 Ultra ป้องกันความชื้นและฝุ่นที่ระดับ IP68 ผ่านการทดสอบความทนทานในน้ำจืดที่ความลึก 1.5 เมตรในเวลา 30 นาที และมีระบบแจ้งเตือนความชื้นที่พอร์ตประจุไฟ

ใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ชาร์จเต็ม 100% ภายในใน 36 นาที พร้อมรองรับการชาร์จเร็วทั้งแบบใช้สายและไร้สายที่กำลังไฟ 67W และยังแถมอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W มาให้ในกล่องด้วย

ทั้งนี้ Mi 11 Ultra มีขนาดความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในประเทศไทยแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 100 เครื่อง มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ceramic White และ Ceramic Black ในราคา 33,990 บาท วางจำหน่าย วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ผ่านทาง JD Central เท่านั้น

พิเศษ! สำหรับผู้ซื้อ Mi 11 Ultra รับของสมนาคุณ ดังนี้ ลำโพง Harman Kardon Onyx Studio 5 มูลค่า 9,990 บาท, Mi Band 5 มูลค่า 1,090 บาท และหูฟัง Mi True Wireless Earphone Basic 2 ราคา 999 บาท