Google ประกาศเปิดตัว Pixel 7 Series ซึ่งประกอบด้วย Pixel 7 และ Pixel 7 Pro สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ภาคต่อของ Pixel 6 Series ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว
โดยมาพร้อมจุดเด่นใช้ชิปเซ็ท Tensor G2 ใหม่, กล้องหลักความละเอียด 50 ล้าน และหน้าจอแสดงผลความละเอียด QHD+ ขนาดสูงสุด 6.7 นิ้ว
สเปก Pixel 7
ตัวเครื่องมีขนาด 155.6 x 73.2 x 8.7 มม. และน้ำหนัก 197 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz, รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1400nits, รองรับ Always-on display และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass Victus
ใข้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.85GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Google Tensor G2 (4 nm), หน่วยประมวลกราฟิก Mali-G710 MC10, RAM 8GB, หน่วยความจำภายใน 128GB/256GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 13 และจะได้รับการอัปเดตความปลอดภัย 5 ปี
ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9, 25mm (wide), 1/1.31″, 1.2µm, multi-directional PDAF, Laser AF, OIS
- กล้องรองเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 114 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 10.8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP68 (กันน้ำลึก 1,5 เมตรนาน 30 นาที), รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e, tri-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.2, NFC, ช่องลำโพงคู่สเตอริโอ, พอร์ต USB Type-C 3.2
และแบตเตอรี่ความจุ 4,355 mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W ชาร์จ 50% ภายใน 30 นาที, ชาร์จเร็วไร้สาย 20W, ชาร์จแบบย้อนกลับ และ USB PD 3.0
ทั้งนี้ Pixel 7 มีให้เลือก 3 สีคือ Obsidian, Lemongrass และ Snow โดยเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วในราคาเริ่มต้น 600 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 19,999 บาท พร้อมรับฟรีหูฟัง Pixel Buds Pro และสมาร์ทวอทช์ Pixel Watch และจะเริ่มจัดส่งในวันที่ 13 ตุลาคมนี้
สเปก Pixel 7 Pro
ตัวเครื่องมีขนาด 162.9 x 76.6 x 8.9 มม. และน้ำหนัก 212 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ LTPO AMOLED ความละเอียด QHD+ 1440 x 3120 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1500nits, รองรับ Always-on display และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass Victus
ใข้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.85GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Google Tensor G2 (4 nm), หน่วยประมวลกราฟิก Mali-G710 MC10, RAM 12GB, หน่วยความจำภายใน 128GB/256GB/512GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 13 และจะได้รับการอัปเดตความปลอดภัย 5 ปี
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9, 25mm (wide), 1/1.31″, 1.2µm, multi-directional PDAF, Laser AF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.5, 120mm (telephoto), 1/2.55″, 0.7µm, multi-directional PDAF, ระบบกันสั่น OIS และซูมออปติคอล 5x
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 126 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 10.8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP68 (กันน้ำลึก 1,5 เมตรนาน 30 นาที), รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e, tri-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.2, NFC, ช่องลำโพงคู่สเตอริโอ, พอร์ต USB Type-C 3.2
และแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W ชาร์จ 50% ภายใน 30 นาที, ชาร์จเร็วไร้สาย 20W, ชาร์จแบบย้อนกลับ และ USB PD 3.0
ทั้งนี้ Pixel 7 Pro มีให้เลือก 3 สีคือ Obsidian, Snow และ Hazel โดยเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วในราคาเริ่มต้น 900 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 19,999 บาท พร้อมรับฟรีหูฟัง Pixel Buds Pro และสมาร์ทวอทช์ Pixel Watch และจะเริ่มจัดส่งในวันที่ 13 ตุลาคมนี้
ที่มา : Gsmarena