Google ประกาศเปิดตัว Pixel 4 และ Pixel 4 XL อย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมดีไซน์โฉมใหม่, จอที่มีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz, กล้องหลังคู่ที่มาพร้อมเลนส์ Telephoto ใหม่ และติดตั้งเซ็นเซอร์ Motion Sense ที่ขับเคลื่อนโดยชิป Soli Radar
สเปก Pixel 4
ตัวเครื่องมีขนาด 147.1 x 68.8 x 8.2 มม. และน้ำหนัก 162 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ P-OLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2280 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว ในสัดส่วน 19:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรทที่ 90Hz และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.84GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 855, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 640, RAM 6GB, หน่วยความจำภายใน 64GB/128GB และรันบระบบปฏิบัติการ Android 10
ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ LED โดยกล้องหลัก ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7, ระบบ Dual Pixel และระบบกันสั่น OIS กล้องรองเลนส์ Telephoto ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ซูมออปติคอล 2 เท่า และระบบกันสั่น OIS ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์ Motion Sense ที่ขับเคลื่อนโดยชิป Soli Radar ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ของคุณโดยไม่ต้องสัมผัส เช่น ควบคุมเครื่องเล่นเพลงโดยการโบกมือ และใช้ในการปลดล็อคเครื่องด้วยการตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ ได้อย่างรวดเร็วสุดๆ โดยที่เราแค่ยกมือถือขึ้นมาปุ๊บ มันก็จะตรวจเจอหน้าเราปั๊บ และปลดล็อคเครื่องให้พร้อมใช้ได้ทันที
นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Google Assistant ยังได้รับการอัปเกรดใหม่ให้ตอบสนองกับคำสั่งต่างๆ ได้เร็วขึ้น และไม่ต้องพูด Hey Google หรือ OK Google ทุกครั้งที่สั่งการ และฟีเจอร์เครื่องอัดเสียงอัจฉริยะที่สามารถแปลคำพูดออกมาให้เป็นตัวหนังสือได้แบบเรีบลไทม์ และไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
รวมถึงติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอ, รองรับ 2 SIM (nano SIM + eSIM), รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, NFC, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 2,800mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W, USB Power Delivery 2.0 และชาร์จไร้สาย QI wireless charging
สเปก Pixel 4 XL
ตัวเครื่องมีขนาด 160.4 x 75.1 x 8.2 มม. และน้ำหนัก 193 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ P-OLED ความละเอียด QHD+ 1440 x 3040 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว ในสัดส่วน 19:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรทที่ 90Hz และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.84GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 855, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 640, RAM 6GB, หน่วยความจำภายใน 64GB/128GB และรันบระบบปฏิบัติการ Android 10
ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ LED โดยกล้องหลัก ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7, ระบบ Dual Pixel และระบบกันสั่น OIS กล้องรองเลนส์ Telephoto ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ซูมออปติคอล 2 เท่า และระบบกันสั่น OIS ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์ Motion Sense ที่ขับเคลื่อนโดยชิป Soli Radar ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ของคุณโดยไม่ต้องสัมผัส เช่น ควบคุมเครื่องเล่นเพลงโดยการโบกมือ และใช้ในการปลดล็อคเครื่องด้วยการตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ ได้อย่างรวดเร็วสุดๆ โดยที่เราแค่ยกมือถือขึ้นมาปุ๊บ มันก็จะตรวจเจอหน้าเราปั๊บ และปลดล็อคเครื่องให้พร้อมใช้ได้ทันที
นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Google Assistant ยังได้รับการอัปเกรดใหม่ให้ตอบสนองกับคำสั่งต่างๆ ได้เร็วขึ้น และไม่ต้องพูด Hey Google หรือ OK Google ทุกครั้งที่สั่งการ และฟีเจอร์เครื่องอัดเสียงอัจฉริยะที่สามารถแปลคำพูดออกมาให้เป็นตัวหนังสือได้แบบเรีบลไทม์ และไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
รวมถึงติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอ, รองรับ 2 SIM (nano SIM + eSIM), รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, NFC, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 3,700mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W, USB Power Delivery 2.0 และชาร์จไร้สาย QI wireless charging
ทั้งนี้ Pixel 4 และ Pixel 4 XL มีให้เลือก 3 สีคือ Just Black, Clearly White และ Oh So Orange (มีจำนวนจำกัด) โดยเปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้ในอเมริกา และจะเริ่มจัดส่งวันที่ 21 ตุลาคมเป็นต้นไป ส่วนราคามีดังนี้
- Pixel 4 RAM 6GB+64GB ราคา 799 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 24,300 บาท
- Pixel 4 RAM 6GB+128GB ราคา 899 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 27,341 บาท
- Pixel 4 RAM 6GB+64GB ราคา 899 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 27,341 บาท
- Pixel 4 RAM 6GB+64GB ราคา 999 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 30,382 บาท
ที่มา : Gizmochina