OPPO ประกาศเปิดตัว OPPO Reno11 Series อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน ประกอบด้วย Reno11 และ Reno11 Pro โดยเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางบนรุ่นใหม่ตระกูล Reno Series ที่มาพร้อมการออกแบบด้านหลังใหม่ และชิปเซ็ทที่เร็วขึ้น รวมถึงแบตเตอรี่ที่มีความจุเพิ่มขึ้น แต่ลดระดับความเร็วในการชาร์จ SUPERVOOC ลงเล็กน้อย
สเปก OPPO Reno11



ตัวเครื่องมีขนาด 162.4 x 74.1 x 7.6 มม. และน้ำหนัก 184 กรัม หน้าจอแสดงผลจอขอบโค้ง Punch-Hole Display แบบ OLED 1 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz, สี 10bits, รองรับ HDR10+ และความสว่างสูงสุด 950nits

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.1GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek MT6896 Dimensity 8200 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G610 MC6, RAM 8GB/12GB, หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Color OS 14

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera และไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT600, รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), 1/1.95″, รองรับระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto เซ็นเซอร์ Sony IMX709 ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.0, 47mm, 1/2.74″, 0.8µm, ระบบ PDAF และซูมแบบออปติคอล 2 เท่า
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.2, 16mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ In-Display Selfie Camera ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4, 22mm (wide), 1/2.74″, 0.8µm และระบบ AF

รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA และ NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.4, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,800 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 67W SuperVOOC ชาร์จ 1 – 50% ภายใน 19 นาที

ทั้งนี้ OPPO Reno11 มีให้เลือก 3 สีคือ Obsidian Black, Turquoise Green และ Moonstone โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 8GB + 256GB ราคา 2,499 หยวนหรือประมาณ 12,470 บาท
- RAM 12GB + 256GB ราคา 2,799 หยวนหรือประมาณ 13,970 บาท
- RAM 12GB + 512GB ราคา 2,999 หยวนหรือประมาณ 14,970 บาท
สเปก OPPO Reno11 Pro



ตัวเครื่องมีขนาด 163 x 74.2 x 8.2 มม. และน้ำหนัก 190 กรัม หน้าจอแสดงผลจอขอบโค้ง Punch-Hole Display แบบ OLED 1 พันล้านสี ความละเอียด 1.5K 1240 x 2772 พิกเซล (450 PPI) ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz, สี 10bits, รองรับ HDR10+, การลดแสง PWM 2160Hz และความสว่างสูงสุด 1,600nits

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8475 Snapdragon 8+ Gen 1 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 730, RAM 12GB, หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Color OS 14

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera และไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX890, รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), 1/1.95″, รองรับระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto เซ็นเซอร์ Sony IMX709 ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.0, 47mm, 1/2.74″, 0.8µm, ระบบ PDAF และซูมแบบออปติคอล 2 เท่า
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.2, 16mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ In-Display Selfie Camera ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4, 22mm (wide), 1/2.74″, 0.8µm และระบบ AF

รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, ติดตั้งลำโพงสเตอริโฮคู่, มอเตอร์สั่นเชิงแกนเส้น, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA และ NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.3, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,700 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 80W SuperVOOC ชาร์จ 1 – 50% ภายใน 11 นาที และชาร์จ 1-100% ภายใน 27 นาที

ทั้งนี้ OPPO Reno11 Pro มีให้เลือก 3 สีคือ Obsidian Black, Turquoise Green และ Moonstone โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 12GB + 256GB ราคา 3,499 หยวนหรือประมาณ 17,470 บาท
- RAM 12GB + 512GB ราคา 3,799 หยวนหรือประมาณ 18,970 บาท
ที่มา : Gsmarena