OPPO ประกาศเปิดตัว OPPO Find X8 Series อย่างเป็นทางการในงานอีเวนต์พิเศษที่ประเทศจีน โดยเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ตระกูล Find X Series ประกอบด้วย Find X8 และ Find X8 Pro
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมการอัปเกรดที่น่าประทับใจทั้งในด้านหน้าจอ ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีกล้อง ทำให้เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม นอกจากนี้ ยังมีการยืนยันความพร้อมจำหน่ายทั่วโลกแล้วด้วย
สเปก OPPO Find X8
ตัวเครื่องมีขนาด 157.4 x 74.3 x 7.9 มม. และน้ำหนัก 193 กรัม หน้าจอแสดงผลจอแบนแบบ AMOLED 1 พันล้านสี ความละเอียด 1256 x 2760 พิกเซล ขนาด 6.59 นิ้ว
โดยมีอัตรารีเฟรชเรทแบบปรับได้ 1-120Hz, รองรับ Dolby Vision, HDR10+, ความสว่างสูงสุด 4500 nits ด้านหน้าครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass Victus 2 และกรอบอลูมิเนียม
ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.63GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 9400 (3 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Immortalis-G925,
RAM 12GB/16GB แบบ LPDDR5X, หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB/1TB แบบ UFS 4.0 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย ColorOS 15
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony LYT-700 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), ขนาด 1/1.56″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope Telephoto เซ็นเซอร์ IMX882 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.6, 73mm, ขนาด 1/1.95″, 3x optical zoom, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide เซ็นเซอร์ ISOCELL JN5 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 15mm, ระบบ PDAF และถ่ายมุมกว้าง 120°
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, 21mm (wide), 1/2.74″, 0.8µm
กล้องของ OPPO Find X8 ยังมีระบบภาพ HyperTone ของ OPPO โดยจะผสานเฟรม RAW 9 เฟรมเข้าไว้ในแต่ละภาพเพื่อให้ได้ความคมชัดและช่วงไดนามิกที่เหนือชั้น พร้อมทั้งลดสัญญาณรบกวนและสิ่งแปลกปลอม
นอกจากนี้ยังมีโหมดภาพบุคคล Hasselblad และ OPPo ยังเพิ่มตัวเลือก LivePhoto ใหม่ ซึ่งจะถ่ายวิดีโอสั้น ๆ ก่อนและหลังถ่ายภาพ
รวมทั้งติดตั้งติดตั้งแถบเลื่อนแจ้งเตือน Alert Slider, ระบบระบายความร้อนใหม่ที่มีชั้นกราไฟต์ ห้องระเหย และเจลนำความร้อนที่ใส่โดยตรงบนเมนบอร์ด, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, ลำโพงคู่สเตอริโอ, รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP68/IP69, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE/5G Dual Band (SA/NSA),
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6/7, dual-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.4, A2DP, LE, aptX HD, LHDC 5, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,630mAh รองรับชาร์จไว 80W SuperVOOC และชาร์จไวแบบไร้สาย 50W
ทั้งนี้ OPPO Find X8 มีให้เลือก 4 สีคือ Starfield Black, Floating Light White, Chasing Wind Blue และ Bubble Pink วางจำหน่ายที่ประเทศจีน 30 ตุลาคม ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 12+256GB ราคา 4,199 หยวนหรือประมาณ 19,780 บาท
- RAM 16+256GB ราคา 4,399 หยวนหรือประมาณ 20,810 บาท
- RAM 12+512GB ราคา 4,699 หยวนหรือประมาณ 22,230 บาท
- RAM 16+512GB ราคา 4,999 หยวนหรือประมาณ 23,650 บาท
- RAM 16+1TB ราคา 5,499 หยวนหรือประมาณ 25,020 บาท
สเปก OPPO Find X8 Pro
ตัวเครื่องมีขนาด 162.3 x 76.7 x 8.2 มม. และน้ำหนัก 215 กรัม หน้าจอแสดงผลจอแบนแบบ LTPO AMOLED 1 พันล้านสี ความละเอียด 1264 x 2780 พิกเซล ขนาด 6.78 นิ้ว
โดยมีอัตรารีเฟรชเรทแบบปรับได้ 1-120Hz, รองรับ Dolby Vision, HDR10+, ความสว่างสูงสุด 4500 nits ด้านหน้าและด้านหลังครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass Victus 2 และกรอบอลูมิเนียม
ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.63GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 9400 (3 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Immortalis-G925,
RAM 12GB/16GB แบบ LPDDR5X, หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB/1TB แบบ UFS 4.0 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย ColorOS 15
ติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว ที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony LYT-808 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6, 23mm (wide), ขนาด 1/1.4″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope Telephoto เซ็นเซอร์ IMX882 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.6, 73mm, ขนาด 1/1.95″, 3x optical zoom, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Periscope Telephoto เซ็นเซอร์ IMX858 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/4.3, 135mm, ขนาด 1/2.51″, 6x optical zoom, ระบบ dual pixel PDAF (35cm – ∞) และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Ultra Wide เซ็นเซอร์ ISOCELL JN5 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 15mm, ระบบ PDAF และถ่ายมุมกว้าง 120°
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, 21mm (wide), 1/2.74″, 0.8µm
กล้องของ OPPO Find X8 Pro ยังมีระบบภาพ HyperTone ของ OPPO โดยจะผสานเฟรม RAW 9 เฟรมเข้าไว้ในแต่ละภาพเพื่อให้ได้ความคมชัดและช่วงไดนามิกที่เหนือชั้น พร้อมทั้งลดสัญญาณรบกวนและสิ่งแปลกปลอม
นอกจากนี้ยังมีโหมดภาพบุคคล Hasselblad และ OPPo ยังเพิ่มตัวเลือก LivePhoto ใหม่ ซึ่งจะถ่ายวิดีโอสั้น ๆ ก่อนและหลังถ่ายภาพ
นอกจากนี้ยังมีปุ่มกล้องเฉพาะ ซึ่ง OPPO เรียกว่า “Quick Button” สามารถเปิดแอปกล้องได้ด้วยการกดสองครั้ง ทำหน้าที่เป็นชัตเตอร์เฉพาะ และซูมเข้าและออกจากภาพได้
รวมทั้งติดตั้งแถบเลื่อนแจ้งเตือน Alert Slider, ระบบระบายความร้อนใหม่ที่มีชั้นกราไฟต์ ห้องระเหย และเจลนำความร้อนที่ใส่โดยตรงบนเมนบอร์ด, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ,
รองรับการเชื่อมต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม (เฉพาะรุ่น RAM 16GB+1TB), ลำโพงคู่สเตอริโอ, รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP68/IP69, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE/5G Dual Band (SA/NSA),
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6/7, dual-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.4, A2DP, LE, aptX HD, LHDC 5, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,910mAh รองรับชาร์จไว 80W SuperVOOC และชาร์จไวแบบไร้สาย 50W
ทั้งนี้ OPPO Find X8 Pro มีให้เลือก 3 สีคือ Hoshino Black, Cloud White และ Sky Blue วางจำหน่ายที่ประเทศจีน 30 ตุลาคม
ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 12+256GB ราคา 5,299 หยวนหรือประมาณ 25,070 บาท
- RAM 12+512GB ราคา 5,699 หยวนหรือประมาณ 26,960 บาท
- RAM 16+512GB ราคา 5,999 หยวนหรือประมาณ 28,380 บาท
- RAM 16+1TB ราคา 6,499 หยวนหรือประมาณ 30,750 บาท
- RAM 16+1TB (รองรับการเชื่อมต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม) ราคา 6,799 หยวนหรือประมาณ 32,170 บาท
ที่มา : Gsmarena