OnePlus ประกาศเปิดตัว OnePlus 9 Series อย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วย OnePlus 9 และ 9 Pro โดยมาพร้อมกับการอัปเกรดครี้งใหญ่ โดยเฉพาะกล้องที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad แบรนด์กล้องระดับโลกจากสวีเดน รวมทั้งใข้ขิปเซ็ท Snapdragon 888 ใหม่, จอรีเหรชเรท 120Hz และรองรับชาร์จเร็ว Warp Charge 65T
สเปก OnePlus 9
ตัวเครื่องมีขนาด 160 x 74.2 x 8.7 มม. และน้ำหนัก 192 กรัม หน้าจอแสดงผลจอแบนแบบ Fluid AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (402 ppi) ขนาด 6.55 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1100 nits, รองรับ HDR10+, รองรับ sRGB, Display P3, รองรับ Always-on display และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.84GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8350 Snapdragon 888 (5 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 660, RAM 8GB/12GB แบบ LPDDR5, หน่วยความจุภายใน 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 2-LANE และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย OxygenOS 11
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX689 รูรับแสง f/1.8, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.43″, ขนาดพิกเซล 1.12µm, 7 ชิ้นเลนส์ และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56″, 7 ชิ้นเลนส์ และ Freeform Lens
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K@30fps
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX471, รูรับแสง f/2.4, ขนาดพิกเซล 1.0 µm และรระบบกันสั่น EIS
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังบนหน้าจอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA/NSA) , Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, hotspot, ฺBluetooth 5.2, NFC, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W Warp Charge 65T ชาร์จ 1-100% ใน 29 นาที และขาร์จเร็วแบบไร้สาย 15W
OnePlus 9 มีให้เลือก 3 สีคือ Winter Mist, Arctic Sky และ Astral Black
สเปก OnePlus 9 Pro
ตัวเครื่องมีขนาด 163.2 x 73.6 x 8.7 มม. และน้ำหนัก 197 กรัม หน้าจอแสดงผลจอขอบโค้งแบบ LTPO Fluid2 AMOLED ความละเอียด QHD+ 1440 x 3216 พิกเซล (525 ppi) ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20.1:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1300 nits, รองรับ HDR10+, รองรับ sRGB, Display P3, 10-bit Color Depth, รองรับ Always-on display และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.84GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8350 Snapdragon 888 (5 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 660, RAM 8GB/12GB แบบ LPDDR5, หน่วยความจุภายใน 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 2-LANE และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย OxygenOS 11

ติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว Quad Camera ที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX789, รูรับแสง f/1.8, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.43″, ขนาดพิกเซล 1.12µm, 7 ชิ้นเลนส์, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX766, รูรับแสง f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56″, 7 ชิ้นเลนส์ และ Freeform Lens
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ขนาดพิกเซล 1.0µm และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K@30fps และ 4K@120fps

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX471, รูรับแสง f/2.4, ขนาดพิกเซล 1.0 µm และรระบบกันสั่น EIS


รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังบนหน้าจอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA/NSA) , Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, hotspot, ฺBluetooth 5.2, NFC, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W Warp Charge 65T ชาร์จ 1-100% ใน 29 นาที และขาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W ชาร์จ 1-100% ใน 43 นาที
OnePlus 9 Pro มีให้เลือก 3 สีคือ Stellar Black, Pine Green และ Morning Mist
ทั้งนี้ ราคา และวันวางจำหน่ายของ OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro มีดังนี้

อเมริกา
OnePlus 9
- RAM 8+128GB ราคา 729 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 22,600 บาท
OnePlus 9 Pro
- RAM 12+256GB ราคา 1,069 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 33,200 บาท

ยุโรป
OnePlus 9
- RAM 8+128GB ราคา 699 ยูโรหรือประมาณ 25,700 บาท
- RAM 12+256GB ราคา 799 ยูโรหรือประมาณ 29,300 บาท
OnePlus 9 Pro
- RAM 8+128GB ราคา 899 ยูโรหรือประมาณ 33,000 บาท
- RAM 12+256GB ราคา 999 ยูโรหรือประมาณ 36,700 บาท

อินเดีย
OnePlus 9
- RAM 8+128GB ราคา 49,999 รูปีอินเดียหรือประมาณ 21,400 บาท
- RAM 12+256GB ราคา 54,999 รูปีอินเดียหรือประมาณ 23,500 บาท
OnePlus 9 Pro
- RAM 8+128GB ราคา 64,999 รูปีอินเดียหรือประมาณ 27,800 บาท
- RAM 12+256GB ราคา 69,999 รูปีอินเดียหรือประมาณ 29,900 บาท
OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro จะเริ่มเปิดพรีออเดอร์ในวันที่ 26 มีนาคม 2021 และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 2 เมษายน 2021
ที่มา : Gsmarena